สถานการณ์โควิดล้อมเมือง แต่การขับเคลื่อนทางการเมืองยังเดินต่อ ตามคิวรีเทิร์นกลับมาเป็นประเด็นใหญ่ เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
พรรคร่วมฝ่ายค้าน นำโดยนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน พร้อมตัวแทนพรรคร่วมฝ่ายค้าน ยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา 5 ร่าง ต่อนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา นัดหมายพิจารณากันวันที่ 23–24 มิ.ย.
พร้อมกับฉบับของนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ที่ยื่นรอไว้ก่อนหน้านี้ และจะมีของพรรคร่วมรัฐบาลรวมเข้ามาอีกกว่า 10 มาตรา
กระนั้นในแต่ละร่างของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ก็ยังมีทั้งเห็นด้วย และเห็นต่าง
ที่เห็นตรงกันตบเท้าลงชื่อพร้อมเพรียง คือการแก้ไขมาตรา 272 ตัดอำนาจ ส.ว.โหวตเลือกนายกฯ
ความพยายามปิดสวิตช์ 250 ส.ว. ไม่ได้มีแค่พรรคฝ่ายค้าน พรรคร่วมรัฐบาลบางพรรคก็เห็นด้วย เพราะมันไม่ต่างจากประชาธิปไตยครึ่งใบ เป็นกลไกขี่คอเอาเปรียบ ปูทางการสืบอำนาจให้คนบางกลุ่ม
แต่แม้ฝ่ายการเมือง ภาคประชาชน จะเดินหน้าต่อสู้เรื่องนี้หนักหน่วงแค่ไหน ก็ยังยากที่จะสำเร็จ เหมือนยืนจุดเทียนกลางสายฝน
เพราะต้องมี ส.ว.84 คนโหวตสนับสนุนด้วย
พิสูจน์ให้เห็นกันจะจะมาแล้ว ส.ว.ชุดนี้มีเพียง 3 คนที่เคยยกมือให้ผ่าน ที่เหลือไม่ค้าน ก็เงียบ
ถึงตอนนี้ทุกอย่างก็คงเหมือนเดิม ไม่ทันไรบรรดา “ตัวจี๊ดสภาสูง” ก็ออกโรง “เสรี สุวรรณภานนท์” ทุบโต๊ะเปรี้ยง ส.ว.จะไม่รับร่างฝ่ายค้าน เพราะไม่ใช่ทางแก้ปัญหา เป็นแค่การหาเสียง แสดงอำนาจบาตรใหญ่
นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ ไม่มีปิดบัง เหนียมอาย “ตอนนี้เสียง ส.ว.ตกผลึก จะให้ผ่านเฉพาะร่างของพรรคพลังประชารัฐ ที่เสนอโดยนายไพบูลย์ ส่วนร่างของฝ่ายค้านคงไม่ผ่าน”
...
ความหวังริบหรี่เลือนราง คงต้องรอให้ ส.ว.หมดอำนาจไปเอง ตามบทเฉพาะกาลที่ล็อกไว้ 5 ปี
แต่ประเด็นที่เห็นต่าง เป็นดราม่าด่ายับในซีกฝ่ายค้าน “ก้าวไกล” ออกมาฟาด “เพื่อไทย” แบบไม่ไว้หน้า กับข้อเสนอแก้ไขมาตรา 83 ให้กลับไปใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ตามแบบรัฐธรรมนูญปี 2540
ออกอาการหัวร้อน ของขึ้น เพราะถ้าแก้เรื่องนี้ “ก้าวไกล” เดือดร้อนแน่
“ปิยบุตร แสงกนกกุล” เลขาธิการคณะก้าวหน้า ออกมาชี้เป้า พรรคใหญ่เสนอแก้รายมาตรารอบนี้เล่นละครตบตา ปาหี่ นักการเมืองบางกลุ่ม สมาชิกรัฐสภาบางพวก กำลังรวมหัวต้มประชาชน
ฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านบางพรรคเน้นไปที่ระบบเลือกตั้ง เรื่องอื่นเป็นเพียงเครื่องประดับตกแต่ง
“รังสิมันต์ โรม” ส.ส.บัญชีรายชื่อ ก้าวไกล หยามพรรคเพื่อไทย เดินตามเกมพลังประชารัฐ คิดว่าตัวเองจะชนะเหมือนในอดีต เลยออกตัวเรื่องนี้ชัดเจนยิ่งกว่าพรรคร่วมรัฐบาลบางพรรค
“ถามว่าถ้าพลังประชารัฐชนะขึ้นมา จะรับผิดชอบยังไง ใครจะร่วมสู้กับคุณอีก”
เจอแบบนี้เข้าไปคนพรรคเพื่อไทยก็ได้แต่กัดฟัน กำหมัด แต่ยังไว้เชิงถือว่าเป็นผู้ใหญ่ไม่อยากทะเลาะกับเด็ก แต่เอาเข้าจริงบัตร 2 ใบเพื่อไทยต้องการนานแล้ว ที่พรรคก้าวไกลพูดไว้ก็ไม่ผิด
ยังเฝ้าฝันถึงวันครองความยิ่งใหญ่ เข็ดขยาดระบบจัดสรรปัน
ส่วนผสมทำเหี่ยวเฉา แกนนำหายเรียบ
ยิ่งฟังสัญญาณจาก “โทนี่” ทักษิณ ชินวัตร แกนนำตัวพ่อยิ่งชัดเจน บัตร 2 ใบตามรัฐธรรมนูญ 2540 แก้ปัญหาพรรคเล็กกดดันผู้นำ ต่อรอง ทำรัฐบาลอยู่สั้น อ้างไม่ค่อยรู้ระบบบัตร 2 ใบแบบเยอรมนี
ตามที่พรรคก้าวไกลพูดถึง คนเจนโลก วิสัยทัศน์ไกลอย่าง “ทักษิณ” มีหรือจะไม่รู้จัก
ท่าที “ทักษิณ–เพื่อไทย” ตรงกับ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่ไม่ต้องการให้พรรคเล็กพรรคน้อยมาต่อรองจนปวดหัว
ยิ่งเห็นฤทธิ์เดชเชิงการเมืองของพรรคภูมิใจไทย ประชาธิปัตย์ ยิ่งแล้วใหญ่ ดังนั้นหากมีหนทางทำให้พรรคตัวเองยิ่งใหญ่ก็ยิ่งดี จะได้ไม่ต้องยืมจมูกคนอื่นหายใจ
ตอนนี้พรรคพลังประชารัฐเติบโต แข็งแรง ชั่งน้ำหนักแล้วมั่นใจกลับไปใช้บัตร 2 ใบได้เปรียบมากกว่า
ก้าวไกล ภูมิใจไทย ส.ส.หดแน่ ประชาธิปัตย์ยังไม่ฟื้น เพื่อไทยก็ไม่แกร่งเหมือนเก่า น้ำเลี้ยงไม่มี แกนนำแตกค่ายกระจัดกระจาย
โอกาสดี จังหวะเหมาะ กระสุนดินดำเต็มคลังแสง ไล่ทุบ ไล่ดูด ส.ส.มาเพียบแล้ว
จ่อเดินตามรอยโมเดล “ทักษิณ–ไทยรักไทย” ที่เคยยิ่งใหญ่ในอดีต.
ทีมข่าวการเมือง