ปชป.แถลงจุดยืนพรรค ขับเคลื่อนงาน LGBTQs ต่อเนื่อง มีผลงานเป็นรูปธรรมชัดเจน เปิดพื้นที่ให้ทำงานจริง หนุนความเสมอภาค สร้างความเท่าเทียม ภายใต้แนวทาง Democrat For All
เมื่อวันที่ 12 มิ.ย.64 คณะกรรมการส่งเสริมสิทธิมนุษยชน และความเท่าเทียมระหว่างเพศ (LGBTQs) พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ที่มี นายแทนคุณ จิตต์อิสระ เป็นประธาน พร้อมด้วยนายปริญญ์ พานิชภักดิ์ รองหัวหน้าพรรคและหัวหน้าทีมเศรษฐกิจทันสมัย นางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย รองโฆษกพรรคและคณะกรรมการ LGBTQs น.ส.ชมพูนุท นาครทรรพ เลขาคณะกรรมการ LGBTQs และประธานคณะทำงานด้าน LGBTQs ของ รมว.กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ร่วมกันแถลงข่าวแสดงจุดยืนของพรรค เรื่องความเท่าเทียมระหว่างเพศในเดือน Pride month
โดย นางดรุณวรรณ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ภายใต้แนวคิด Democrat For All นำโดยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคมีจุดยืนที่ชัดเจนในการเปิดพื้นที่ให้คนทุกเพศ ทุกวัย ทุกอาชีพ เข้ามาร่วมงานกับพรรค และที่ผ่านมาก็มีกลุ่ม LGBTQs หลายคนได้มีโอกาสมาร่วมขับเคลื่อนพรรคตามความถนัดและศักยภาพ ไม่จำเป็นต้องเป็นงานที่เกี่ยวกับ LGBTQs โดยตรง ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันว่าพรรคสนับสนุนเรื่องความเท่าเทียม ระหว่างเพศอย่างแท้จริง ไม่ใช่แค่คำพูดหรือนโยบายสวยหรู
ด้าน นายปริญญ์ กล่าวว่า การสร้างสังคมเท่าเทียมที่เชื่อมโยงกับเศรษฐกิจทันสมัย เป็นหัวใจหลักที่พรรคประชาธิปัตย์ พยายามขับเคลื่อนมาโดยตลอด ซึ่ง LGBTQs เป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่พรรคให้ความสำคัญและผลักดันมาอย่างต่อเนื่อง เพราะคนกลุ่มนี้มีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว แต่กลับไม่ได้รับการดูแลในช่วงวิกฤติโควิด-19 ที่เท่าเทียมกับคนกลุ่มอื่น ทางทีมเศรษฐกิจทันสมัย ปชป.จึงได้ทำงานร่วมกับคณะทำงานด้าน LGBTQs ของพรรค ในการให้โอกาสและความเท่าเทียมให้กับกลุ่มคนทุกเพศทุกวัย โดยมีภารกิจที่สำคัญ อาทิ เร่งผลักดันให้ธุรกิจกลางคืนและ LGBTQs ได้รับการเยียวยาอย่างตรงจุด เนื่องจากได้รับผลกระทบจากมาตรการป้องกันการระบาดโควิด-19 เป็นอย่างมาก แต่มาตรการให้ความช่วยเหลือของภาครัฐในช่วงที่ผ่านมา ล้วนเป็นการเยียวยาแบบกว้างๆ ทำให้ภาคธุรกิจกลางคืนและธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ LGBTQs ไม่ได้รับการช่วยเหลือจากภาครัฐ ดังนั้นเมื่อ พ.ร.ก.เงินกู้ 5 แสนล้านบาท ผ่านความเห็นชอบของรัฐสภาแล้ว ทีมเศรษฐกิจทันสมัยและคณะทำงานด้าน LGBTQs จึงอยากให้มีการเยียวยากลุ่มอย่างตรงจุดและเป็นธรรมมากขึ้น จึงเข้าช่วยเหลือด้วยการนำตัวแทนผู้ประกอบการที่เดือดร้อนเข้าพบ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขา สมช.และ ผอ.ศบค. เพื่อยื่นคำร้องถึงภาครัฐ กรณีได้รับความเดือดร้อนจากมาตรการรักษาความปลอดภัยของภาครัฐมาตลอด 2 ปี แต่ยังไม่ได้รับการเยียวยา
...
นายปริญญ์ กล่าวต่อว่า รวมถึงการสร้างความเท่าเทียมในการทำงาน ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เศรษฐกิจในระบบทุนนิยมเดินไปข้างหน้าได้ ทั้งในเรื่องโอกาสการสมัครงาน การแข่งขันที่ต้องไม่มีการกีดกันด้วยเหตุแห่งเพศ และส่งเสริมพื้นที่ทำงานให้ LGBTQs บนพื้นฐานของความเท่าเทียม การพัฒนาเศรษฐกิจไทยระยะยาวต้องดึงเอาศักยภาพของกลุ่มนี้ออกมาใช้อย่างเต็มที่ เพราะหลายมิติของเศรษฐกิจสร้างสรรค์ในอนาคต ต้องใช้ความคิดนอกกรอบและพลังบวกในการกล้าประยุกต์ใช้นวัตกรรมใหม่ อีกทั้งกลุ่ม LGBTQ จากต่างประเทศมีกําลังซื้อสูง ซึ่งเมื่อเราเริ่มเปิดประเทศในอนาคต เราควรมียุทธศาสตร์ที่จะดึงดูดเขามาเที่ยว ลงทุน และทํางานที่ประเทศไทย
ในขณะที่ นายแทนคุณ กล่าวว่า จากการขับเคลื่อนงานด้าน LGBTQs ของพรรคนำโดย นายจุรินทร์ หัวหน้าพรรคได้ทำมาตลอดระยะเวลา 2 ปี ได้มีบทบาทในนำพรรคประชาธิปัตย์ทำข้อตกลงร่วมกับกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อเปิดพื้นที่ให้กับกลุ่ม LGBTQs ขณะนี้การขับเคลื่อนงานมีความเข้มข้นมากขึ้น และจำเป็นต้องเดินหน้าอย่างต่อเนื่องจึงได้ให้ น.ส.ชมพูนุท เป็นประธานคณะทำงานประสานงานและขับเคลื่อนนโยบายด้านความหลากหลายทางเพศ ซึ่งจะมีบทบาทสำคัญในการผลักดัน พ.ร.บ.คู่ชีวิต และ พ.ร.บ.อื่น ๆที่เกี่ยวข้อง รวมถึงรับเรื่องราวร้องทุกข์สำหรับ LGBTQs ในประเด็นต่างๆ
พร้อมกันนี้ได้มีข้อเสนอต่อภาครัฐ ให้ความสำคัญกับการฉีดวัคซีนทั้งทางร่างกาย และการฉีดวัคซีนให้เศรษฐกิจกลางคืนด้วย รวมถึงส่งเสริมสิทธิเสรีภาพในการเข้าถึงยา และการรักษาพยาบาลให้กับกลุ่มผู้ติดเชื้อ HIV และการให้องค์ความรู้ในการอยู่ร่วมกับผู้ติดเชื้อ HIV ที่สำคัญคือไม่ต้องการให้มีการเลือกปฏิบัติในการรับบริจาคเลือดจากกลุ่ม LGBTQs ด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ นายแทนคุณ ระบุอีกด้วยว่า พรรคเตรียมเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค ซึ่งเป็น LGBTQs ในเร็วๆนี้อีกด้วย ซึ่งจะเป็นบทบาทสำคัญของพรรคที่เปิดพื้นที่ให้กับกลุ่ม LGBTQs อย่างแท้จริง
ด้าน น.ส.ชมพูนุท ได้กล่าวขอบคุณพรรคประชาธิปัตย์ ที่ได้ให้ความสำคัญกับ Pride Month และให้ความสำคัญของ LGBTQs ในประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นายจุรินท์หัวหน้าพรรค ที่มองเห็นความสำคัญและใส่ใจเรื่อง LGBTQs มาตลอด ทั้งนี้ที่ผ่านมาตนเป็น 1 ในคณะทำงานร่างนโยบายภายใต้กฎหมาย 3 ฉบับ ประกอบด้วย หนึ่งในคณะร่างนโยบาย พ.ร.บ. 3 ฉบับ ประกอบด้วย
พ.ร.บ.ความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ.2558 ซึ่งถึงเวลานี้ได้ผ่านมา 6 ปีแล้ว จะได้มีการทบทวนเรื่องความเหมาะสมให้ทันสมัย และมีการตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นเพื่อทบทวน พ.ร.บ.ฉบับนี้แล้ว
สำหรับความคืบหน้าของ พ.ร.บ.คู่ชีวิต (ฉบับอัมพวาโมเดล) ในเวลานี้ประธานวิปรัฐบาลได้ส่งเรื่องไปให้กระทรวงยุติธรรมพิจารณาต่อ หลังจากที่มีการจัดทำโฟกัสกรุ๊ปเรียบร้อยแล้ว ก็คาดว่าไม่เกินสิ้นปีนี้จะสามารถส่งเรื่องให้ ครม. ได้พิจารณาบรรจุเข้าสภาได้
ส่วน พ.ร.บ.เพศสภาพ ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกับกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ถือเป็นกฎหมายอีกฉบับที่มีความเข้มข้นมาก เนื่องจากเป็นเรื่องการใช้คำนำหน้านามที่ตรงกับเพศสภาพ ไม่ใช่เพศกำเนิด ขณะนี้ทางกระทรวง พม. นำโดยนายจุติ ไกรฤกษ์ รมว. พม. นั้น กำลังใกล้ที่จะได้บทสรุปที่ชัดเจน และเสนอให้กรมสตรีและครอบครัว เพื่อดูในรายละเอียดในแง่กฎหมายอีกครั้ง ก่อนที่จะส่งเข้า ครม. ยื่นเสนอต่อสภา
น.ส.ชมพูนุท กล่าวเพิ่มเติมในตอนท้ายว่า เนื่องจากตนเป็น 1 ใน LGBTQs และเป็นอดีตผู้สมัคร ส.ส. ของพรรคในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาด้วย ยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคที่เปิดโอกาส พร้อมกับให้การยอมรับ อีกทั้งมีนโยบายรองรับกลุ่ม LGBTQs เป็นอย่างดีอีกด้วย