ฝ่ายค้านขย่มต่องบฯปี 65 ลับมีดหั่นในวง กมธ. “ประเสริฐ” แบ่งทีมเชือดรายกระทรวง ฮึ่มรัฐบาลแจง พ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านฟังไม่ขึ้นไม่ให้ผ่าน “ยุทธพงศ์” กระตุกหนวดกองทัพจองกฐินหั่นทิ้งงบฯราชการลับกลาโหม 500 ล้านบาท ไล่บี้จมเรือดำน้ำ ทร. “เพื่อไทย” เขี่ยไฟพรรคร่วมรัฐบาลแยกเขี้ยวต่อรองกอดคอได้อีกไม่นานวงแตก “อนุสรณ์” เย้ยเรือแป๊ะรั่วเพื่อนรุมกินโต๊ะ “ลุงตู่” ไร้องครักษ์ป้อง “ศุภชัย” ขอบคุณมท.รับฟังเสียง ส.ส. โอ่คน ภท.ไม่กล้าซัดในสภาฯปัญหาไม่ได้แก้ ปชป.เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.แต่ไก่โห่ “จุรินทร์” โวพร้อมสู้ทุกสนาม ปัดไร้สัญญาณยุบสภา-ปรับ ครม. รัฐบาลย้ำงบฯสู้โควิดมีพอ การันตีใช้ผ่าน พ.ร.ก.เร็วกว่ารอใช้ พ.ร.บ.งบฯ
พรรคฝ่ายค้านยังคงตามติดหาช่องทางปรับลดงบประมาณที่ไม่มีความจำเป็นเร่งด่วน ในชั้นการพิจารณาของคณะกรรมาธิการ โดยเป้าหมายหลักพุ่งเป้าไปที่งบประมาณของกระทรวงกลาโหม ทั้งงบฯราชการลับและการจัดซื้อเรือดำน้ำของกองทัพเรือ
...
พท.ตามขยี้ต่องบฯปี 65 ชั้น กมธ.
เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ.2565 ในชั้นกรรมาธิการว่า พรรคจะแบ่งภารกิจให้ชัดเจนว่าใครเป็นหลักดูงบฯกระทรวงใด เช่น กระทรวงการคลังให้นายไชยา พรหมา รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะ กมธ.ศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณเป็นผู้รับผิดชอบ กระทรวงศึกษาฯ นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล เป็นผู้รับผิดชอบ ขณะที่กระทรวงกลาโหม มีนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร รับผิดชอบ ตนในฐานะเลขาธิการพรรคจะดูในภาพรวม และสมาชิกพรรคทุกคนเราให้ความสำคัญว่าต้องเสนอความเห็นที่เป็นประโยชน์ต่อการจัดทำงบฯเพื่อให้ประชาชนได้ประโยชน์มากที่สุด ขอให้ความมั่นใจว่าพรรคจะทำหน้าที่เต็มความสามารถเพื่อให้งบฯออกมาดีที่สุด
รบ.แยกเขี้ยวต่อรองไปต่อไม่นาน
ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคร่วมรัฐบาลอภิปรายท้วงติงอย่างมาก แต่สุดท้ายให้ผ่าน นายประเสริฐ กล่าวว่า ชี้ให้เห็นถึงความเปราะบางในการอยู่ร่วมกันของพรรคร่วมรัฐบาล แต่เมื่อเขาลงมติไปในทิศทางเดียวกันทำให้ตั้งข้อสังเกตว่าอาจมีนัยเรื่องการต่อรองผลประโยชน์ต่างๆที่ลงตัวกันแล้ว แต่สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ประชาชนสับสนและรับรู้ได้ว่ารัฐบาลขาดเสถียรภาพ คงต้องต่อรองผลประโยชน์แบบนี้กันทุกทีที่มีเรื่องสำคัญเข้าสภา ขอให้ประชาชนจับตาเรื่องนี้ให้ดี เพราะจากประสบการณ์การเมือง เห็นว่ารัฐบาลที่ต้องชิงไหวชิงพริบ ต่อรองผลประโยชน์กันทุกครั้งแบบนี้มักจะอยู่ไม่นาน เพราะวันไหนถ้าตกลงกันไม่ลงตัวต้องแยกทาง
ขู่แจง พ.ร.ก.ฟังไม่ขึ้นไม่ให้ผ่าน
เมื่อถามถึงการพิจารณา พ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้าน ที่จะมีขึ้นวันที่ 9 มิ.ย. นายประเสริฐกล่าวว่าพรรคเพื่อไทยจะหารือกันในที่ประชุม ส.ส.พรรควันที่ 8 มิ.ย. ว่าจะมีมติไปในทิศทางใด และกำหนด ส.ส.ที่จะอภิปรายเรื่องดังกล่าวเพื่อชี้ให้เห็นถึงความผิดพลาดในการบริหารของรัฐบาล ที่กู้มาจนจะเต็มเพดานหนี้สาธารณะ ส่วนมติจะเป็นอย่างไรคงต้องรอฟังการชี้แจงรัฐบาลถึงความจำเป็นในการออก พ.ร.ก.ว่ามีน้ำหนักหรือไม่ หากรัฐบาลชี้แจงไม่มีน้ำหนักเพียงพอเราคงไม่เห็นชอบกับ พ.ร.ก.ดังกล่าว แม้ว่าเสียงรัฐบาลจะทำให้ พ.ร.ก.ผ่านไปได้ แต่ฝ่ายค้านขอทำหน้าที่อภิปรายฟ้องให้ประชาชนได้เห็นถึงการใช้เงินแบบไม่มีประสิทธิภาพของรัฐบาล
“โจ้” จ่อตัดงบลับ กห. 500 ล.-เรือดำน้ำ
นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการทำงานในคณะ กมธ.งบประมาณว่าได้รับมอบหมายให้ดูเรื่องงบราชการลับของกระทรวงกลาโหม ที่มีการตั้งงบราชการลับประมาณ 500 ล้านบาท เป็นของสำนักปลัดกระทรวงกลาโหมอีก 32 ล้านบาท กองบัญชาการกองทัพไทย 60 ล้านบาท สถาบันป้องกันประเทศอีก 20 ล้านบาท กองทัพบก 290 ล้านบาท กองทัพเรือ 62 ล้านบาท กองทัพอากาศ 30 ล้านบาท เป็นงบฯที่น่าติดตามเหตุใดการใช้จ่ายต้องเป็นราชการลับไม่มีรายละเอียดและตรวจสอบไม่ได้ ทั้งที่การใช้จ่ายงบฯทุกวันนี้ต้องโปร่งใส ต้องชี้แจงให้ตรวจสอบได้ จะขอรายละเอียดว่าทำไมต้องมีงบฯลับและนำไปใช้จ่ายอะไร ถ้าหากชี้แจงไม่ได้ต้องขอปรับลดปัจจุบันงบฯมีจำกัดมาก ขนาดงบฯซื้อวัคซีนจำเป็นเร่งด่วน ยังไม่มีใน พ.ร.บ.งบฯต้องไปใช้เงินกู้และจะติดตามงบฯจัดซื้อเรือดำน้ำที่พรรคติดตามตั้งแต่ปีที่แล้ว ทั้งที่ไม่มีความจำเป็นเร่งด่วน จึงอยากให้ลดตรงนี้ด้วย
“อนุสรณ์” เสี้ยมพรรคร่วมฯสุดทน
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีพรรคร่วมรัฐบาลกดดันให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม ยุบสภาในเดือน ธ.ค.64 ว่า การจัดทำงบฯครั้งนี้อาจเป็นครั้งสุดท้ายของรัฐบาลและรัฐสภาชุดนี้ พล.อ.ประยุทธ์ถูกรุมถล่มกลางสภาฯจากพรรคเพื่อไทย และพรรคร่วมฝ่ายค้านถือว่าหนัก แต่ที่ลำบากใจคือถูกโดดเดี่ยว พรรคร่วมรัฐบาลรุมกินโต๊ะ ขนาดลูกหาบพลังประชารัฐได้แต่นั่งดูตาปริบๆไม่มีใครคิดจะลุกขึ้นมาทำหน้าที่องครักษ์ปกป้อง ส่งสัญญาณว่าความอดทนของเพื่อนร่วมทีมองคาพยพพรรคร่วมรัฐบาลมีขีดจำกัด อยู่กันมาจนรู้เช่นเห็นชาติว่าการเป็นนั่งร้านค้ำยันอำนาจที่รอวันถูกรื้อทิ้งเป็นอย่างไร เวลาที่เหลืออยู่จะตบหัวแล้วลูบหลังพรรคร่วมรัฐบาลเพื่อได้ไปต่อคงไม่ทันแล้ว อย่างมากทำได้แค่กลืนเลือดเพื่อสะสมกำลังไว้สู้ศึกเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้น ในลักษณะตัวใครตัวมัน มือใครยาวสาวได้สาวเอา
หยันเรือรั่วทะลักอุดยังไงก็ไม่อยู่
“นอกจากถามว่า 7 ปีแล้วไง ที่นักวิชาการออกมาบอกว่าเป็นวลีอันธพาล ก้าวร้าว โอหังพร้อมปรี่เข้าไปใช้ความรุนแรง ประชาชนตอบว่าเป็น 7 ปีวิกฤติหนัก ลองหันไปถามพรรคร่วมด้วยว่าอยู่ร่วมกันมา 2 ปีกว่าแล้วเป็นไง เลือกตั้งครั้งหน้ายังจะจับมือกันอีกไหม เข็ดหรือยัง พรรคร่วมฯส่ง สัญญาณพร้อมทิ้งพายหัก ไม่พายเรือให้ พล.อ.ประยุทธ์นั่งอีกต่อไป เรือรั่วสนิมเกรอะอุดยังไงก็อุดไม่อยู่ รัฐบาลยิ่งฝืนอยู่ ยิ่งลำบาก” นายอนุสรณ์กล่าว
ภท.ขอบคุณ มท.ทลายข้อจำกัด อปท.
นายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีกระทรวงมหาดไทย ทำหนังสือด่วนที่สุด ที่ มท 0808.2/ว 3219 ถึง ผวจ.ทุกจังหวัด เรื่อง ซักซ้อมแนวทางการใช้จ่ายงบฯบริหารจัดการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ว่าขอขอบคุณและชื่นชมกระทรวงมหาดไทย ที่เปิดรับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะที่ ส.ส.ภูมิใจไทยอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบฯปี 65 ชี้ให้เห็นว่ารัฐบาลไม่ได้จัดสรรงบฯอำนวยความสะดวกให้ประชาชนไปฉีดวัคซีน เป็นอุปสรรคประชาชนในพื้นที่ห่างไกล องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ไม่สามารถเบิกจ่ายงบฯได้ เพราะส่วนกลางคือกระทรวงมหาดไทยยังไม่มีแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจน
ส.ส.ไม่พูดในสภาฯปัญหาไม่ได้แก้
“เมื่อมีคำสั่งนี้ออกมาตามที่พรรคภูมิใจไทยอภิปราย เชื่อจะทำให้ประชาชนได้เข้าถึงบริการฉีดวัคซีน ด้วยความรวดเร็ว สะดวก สบาย มากขึ้นนี่คือความสวยงามระบอบประชาธิปไตย สภาฯเป็นที่ให้ตัวแทนประชาชน สะท้อนปัญหา แล้วฝ่ายบริหารผู้เกี่ยวข้องนำไปหาทางแก้ไข ในยามที่บ้านเมืองประสบปัญหาสถานการณ์ร้ายแรง ที่จะทำให้เราฝ่าวิกฤติครั้งนี้ไปได้ ถ้าพรรคภูมิใจไทยไม่กล้าพูด ปัญหาประชาชนจะยิ่งไม่ได้รับการแก้ไข แต่เราเป็นพรรคที่กล้าพูด กล้าทำ” นายศุภชัยกล่าว
ปชป. เปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.ลุ้นโกยแต้ม
ที่วัดทุ่งเศรษฐี เขตสวนหลวง-ประเวศ กรุงเทพฯ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ลงพื้นที่เปิดตัวนายกิตพล เชิดชูกิจกุล ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขตประเวศ และนายธนวัฒน์ เชิดชูกิจกุล อดีต ส.ก.เขตประเวศ พร้อมมอบถุงยังชีพให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เขตสวนหลวง-ประเวศ หลังเปิดแคมเปญ “เลือดใหม่ไหลเข้าเลือดเก่าไหลกลับ” โดยนายจุรินทร์กล่าวว่า โครงการโมบาย พาณิชย์ลดราคาช่วยประชาชนเสียงตอบรับดี นำสินค้าราคาถูกมากไปตระเวนจำหน่ายให้ไม่ต่ำกว่า 500 ชุมชน มีรถพุ่มพวงราคาย่อมเยาและรถโมบายขนาดใหญ่ มีสินค้าลดสูงสุดถึง 60% ลดภาระค่าครองชีพได้มาก ได้สั่งการพาณิชย์จังหวัดให้จัดรถโมบายลักษณะเดียวกับ กทม.และปริมณฑลขยายเข้าชุมชนเมืองที่จำเป็นทั่วประเทศ และวันที่ 7-20 มิ.ย. จะเปิดตัวโครงการช่วยเหลือร้านอาหารภาค 2 โครงการจับคู่กู้เงิน สถาบันการเงินกับร้านอาหาร ด้วยเงื่อนไขกรณีพิเศษดอกเบี้ยต่ำหรือปลอดหลักทรัพย์ ช่วยต่อลมหายใจกว่า 1 แสนร้านอาหาร พรรคต้องเตรียมพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทั้ง กทม. การเลือกตั้งทั่วไปจะเกิดขึ้นเมื่อใดคงตอบไม่ได้ อยู่ที่รัฐบาลกระทรวงมหาดไทย และ กกต.
ปัดไร้สัญญาณปรับ ครม.-ยุบสภา
ผู้สื่อข่าวถามว่าหลายฝ่ายวิเคราะห์หลังผ่านร่าง พ.ร.บ.งบฯ ปี 65 มีกระแสยุบสภาหรืออาจปรับ ครม. นายจุรินทร์กล่าวว่า การยุบสภาและการปรับ ครม. ต้องถามนายกฯ แต่จนถึงวันนี้ยังไม่ได้รับสัญญาณอะไรทั้ง 2 เรื่อง รัฐบาลยังทำหน้าที่ต่อไป ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลยืนยันแล้วเราคุยกันในพรรคชัดเจนต้องยืนหยัด ไม่ว่ามีหน้าที่อะไรก็ทำหน้าที่ตัวเองให้สมบูรณ์ที่สุด ส่วนอะไรจะเกิดหรือไม่เกิดอะไรเป็นเรื่องอนาคต เราไปกังวลว่าอนาคตมันจะเกิด 1-2-3-4-5 แล้วหยุดงาน งานไม่ทำ ประชาชนเสียโอกาส ทำให้เสียเวลาประเทศจะไม่ทำอย่างนั้น จะทำหน้าที่จนนาทีสุดท้ายไม่ว่าจะยุบสภาหรือจะครบเทอม อันนี้คือสิ่งที่พูดคุยกันและยืนยันจะทำให้เห็น ประชาธิปัตย์ยุคนี้เป็นยุคทำให้เห็นได้จริง และพิสูจน์แล้วว่าทำได้ไว ทำได้จริงทุกเรื่องที่เราประกาศไป
มีปัญหาตรงไหนหน้าที่นายกฯจัดการ
เมื่อถามว่าที่มีข่าวความระส่ำระสายของพรรคร่วมรัฐบาล นายจุรินทร์กล่าวว่า ต้องว่าเป็นกรณีไป ปัญหาเกิดตรงไหนคนที่เกี่ยวข้องต้องคุยกัน ไม่จำเป็นต้องเอาทุกส่วนที่ไม่ได้มีปัญหาไปคุยด้วย ใครมีปัญหาคุยตรงนั้น “ไม่ใช่หน้าที่โดยตรงของผม เพราะไม่ได้เป็นนายกฯ ท่านนายกฯมีหน้าที่จะไปดำเนินการ แต่ประชาธิปัตย์เมื่อทำงานร่วมกับใคร มีหลักเกณฑ์ของเรา ไม่จำเป็นต้องมานั่งเอาใจ หรือพูดคุยรายวัน ไม่เช่นนั้นอยู่มาไม่ได้จนถึงวันนี้ ตนเป็นหัวหน้าพรรคคนที่ 8 มีหลักเกณฑ์ภายใต้กฎเกณฑ์กติกาพรรค เมื่อตัดสินใจอะไรไปแล้วไว้วางใจได้ ยกเว้นผิดเงื่อนไขจากสิ่งที่เราได้พูดคุยกันไว้ อันนั้นเป็นเรื่องอนาคต
รบ.โต้งบฯสู้โควิดใช้ผ่าน พ.ร.ก.ไวกว่า
น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากการอภิปรายร่าง พ.ร.บ. งบฯปี 65 ยังมีความเข้าใจคลาดเคลื่อนการจัดสรรงบฯด้านสาธารณสุขป้องกันและแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดโควิด-19 จึงขอชี้แจงว่ารัฐบาลให้ความสำคัญ สูงสุด จัดสรรวงเงินบริหารจัดการด้านสาธารณสุข เบื้องต้น 1.17 แสนล้านบาท ในร่าง พ.ร.บ.งบฯปี 65 ยังจัดงบด้านการแพทย์และสาธารณสุขตามภารกิจหน่วยงาน ประกอบด้วยงบฯ สธ. กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กองทุนการแพทย์ฉุกเฉิน กองทุนภูมิปัญหาการแพทย์แผนไทย รวม 2.95 แสนล้านบาท ช่วงงบฯปี 63-64 จัดสรรวงเงินทั้งงบกลาง กรณีฉุกเฉิน และ พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับกระทบโควิด-19 ไปแล้วทั้งสิ้น 87,862 ล้านบาท และยังมีเงินกู้ตาม พ.ร.ก.ฉบับเพิ่มเติมที่มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 25 พ.ค. อีก 3 หมื่นล้านบาท การใช้เงินแก้ปัญหาโควิด-19 จาก พ.ร.ก. เงินกู้ทำได้เร็วกว่าและทันสถานการณ์มากกว่ารอใช้ พ.ร.บ.งบฯปี 65 กว่าจะเริ่มใช้เดือน ต.ค.64 ขอให้ความมั่นใจรัฐบาลให้ความสำคัญและมีงบฯเพียงพอจัดการสถานการณ์โควิด-19
ทุ่ม 2,806 ล้านหนุนผลิตวัคซีนไทย
นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกฯ เปิดเผยว่า นายกฯเล็งเห็นความสำคัญสนับสนุนให้คนไทยมีศักยภาพคิดค้นและผลิตวัคซีนโควิด-19 ได้เอง จึงจัดสรรงบฯกว่า 2,806 ล้านบาทเพิ่มศักยภาพประเทศ พร้อมรับมือการแพร่ระบาดในปัจจุบัน และโรค อุบัติใหม่ในอนาคตวงเงิน 1,810.68 ล้านบาท ตามมติ ครม. วันที่ 29 ธ.ค.63 และงบกลางฯ 995.03 ล้านบาท รวมกว่า 2,805.71 ล้านบาท โดยสถาบันวัคซีนแห่งชาติให้ทุนสนับสนุนการวิจัยหน่วยงานรัฐและเอกชน ดังนี้ 1.บริษัท ไบโอเนท-เอเชีย จำกัด 650 ล้านบาท เพื่อพัฒนาและผลิตวัคซีนโควิด-19 ชนิด DNA 2.สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ 200 ล้านบาท เพื่อพัฒนาวัคซีนโควิด-19 ต้นแบบที่พร้อมทดสอบทางคลินิกและเตรียมพร้อมผลิตวัคซีนต้นแบบการระบาดเชื้อที่กลายพันธุ์ 3.บริษัท ใบยา ไฟโตฟาร์ม จำกัด 160 ล้านบาท ทดสอบวัคซีนโควิด-19 ที่ผลิตในประเทศโดยใช้พืชเป็นแหล่งผลิตในมนุษย์
มีสัญญารับทุนคืนจากสยามไบโอฯ
นายอนุชากล่าวอีกว่า 4.มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี 562 ล้านบาท เตรียมพร้อมเป็นสถานที่ผลิตวัคซีนโควิด-19 ใช้โรงงานต้นแบบผลิตยาชีววัตถุแห่งชาติ รองรับการผลิตวัคซีนโควิด-19 ขึ้นใช้เองในประเทศ 5.องค์การเภสัชกรรม 156.8 ล้านบาท เตรียมพร้อมแบ่งบรรจุวัคซีนโควิด-19 6.บริษัท องค์การเภสัชกรรม-เมอร์ริเออร์ชีววัตถุจำกัด 81.88 ล้านบาท ขยายศักยภาพการผลิตวัคซีนระดับอุตสาหกรรมรองรับการผลิตวัคซีนสำหรับประชาชนไทย จัดงบกลางฯเตรียมพร้อมป้องกันและแก้ไขปัญหาโรคติดต่ออุบัติใหม่ : กรณีโควิด-19 ประจำปีงบฯปี 63 วงเงิน 995.03 ล้านบาท ให้สถาบันวัคซีนแห่งชาติ เป็นทุนวิจัยพัฒนาวัคซีนและสร้างศักยภาพการผลิตรองรับการถ่ายทอดเทคโนโลยี โดย 1.ศูนย์วิจัยวัคซีน คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ 365 ล้านบาท 2.บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด 596.24 ล้านบาท รัฐบาลจะได้รับทุนคืนทั้งหมด ระบุในสัญญาว่าเมื่อบริษัทผลิตวัคซีนได้ตามมาตรฐานแอสตราเซเนกาแล้ว จะส่งมอบวัคซีนให้รัฐบาลไทยมูลค่าเท่ากับทุนที่ได้รับ ไม่ใช่การให้เปล่า แต่สนับสนุนเพื่อให้เกิดการถ่ายทอดเทคโนโลยีในขั้นต้น เพื่อให้เป็นผลสำเร็จเท่านั้น 3.ศูนย์วิจัยไพรเมทแห่งชาติ จุฬาฯ 33.79ล้านบาท
“สมเจตน์” ป้องงบฯกองทัพจำเป็น
พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) กล่าวถึงเสียงวิจารณ์งบฯกองทัพในร่าง พ.ร.บ.งบฯปี 65 ว่า ประเทศชาติจำเป็นต้องสร้างระบบรักษาความปลอดภัย (ความมั่นคง) ไว้เพื่อรักษาผลประโยชน์ของชาติ หากระบบรักษาความปลอดภัยของชาติอ่อนแอ ไม่เข้มแข็งจะมั่นใจได้อย่างไรว่าจะไม่ถูกประเทศเพื่อนบ้านที่เข้มแข็งกว่ารังแก ขู่บังคับหรือละเมิดอธิปไตยของไทย เมื่อถึงสถานการณ์เช่นนั้น จะมาเริ่มคิด เริ่มสร้างจะกระทำได้ยากยิ่ง ทุกอย่างจะสายเกินไปแล้วจึงจำเป็นจะต้องมองประเทศชาติในองค์รวม ไม่ใช่มองด้านใดด้านหนึ่ง
นายกฯปราศรัยยกย่องชาวนาไทย
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวคำปราศรัยเนื่องในงานวันข้าวและชาวนาแห่งชาติ ประจำปี 2564 ผ่านเพจเฟซบุ๊กไทยคู่ฟ้าตอนหนึ่งว่า มติ ครม.กำหนดให้วันที่ 5 มิ.ย.ของทุกปีเป็นวันข้าวและชาวนาแห่งชาติ เพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์ไทยที่ทรงให้ความสำคัญต่อกิจการข้าว และเป็นการเชิดชูเกียรติ รวมทั้งเป็นขวัญกำลังใจให้แก่ชาวนาไทยทุกคน รัฐบาลมีเป้าหมายให้เป็นฐานการผลิตอาหารที่มั่นคง ปลอดภัย และเป็นฐาน การผลิตที่มีผลิตภาพสูง ส่งเสริมช่วยสร้างรายได้และความมั่นคงให้แก่ชาวนาไทย ผู้เปรียบเสมือนกระดูกสันหลังของชาติ รัฐบาลมุ่งมั่นส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่เกษตรกรชาวนาไทย
ชง สธ.-มท.ปลดล็อก รพ.สนามหลักสี่
ช่วงสาย นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคกล้า เข้ายื่นหนังสือถึงนายอนุทิน ชาญวีรกูล รมว.สาธารณสุข ผ่านนายวัชรพงศ์ คูวิจิตรสุวรรณ เลขานุการ รมว.สาธารณสุข กรณีสำนักงานเขตหลักสี่ปิดประกาศห้ามให้ใช้อาคาร รพ.สนามพลังแผ่นดินของ พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผอ.รพ.มงกุฎวัฒนะ โดยนายอรรถวิชช์กล่าวว่า รพ.สนามแห่งนี้เปิดได้ตามประกาศ สธ. มีเจ้าหน้าที่กระทรวงลงพื้นที่ตรวจสอบมาตรฐานและความปลอดภัยเรียบร้อย แต่ทางปฏิบัติกลับติดขัด พ.ร.บ.ควบคุมอาคารของกระทรวงมหาดไทยที่ กทม.ดูแล จึงขอเรียกร้องให้ สธ.บูรณาการกับ มท.ชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นต้องมี รพ.สนาม และให้ มท.ออกกฎกระทรวงตามมาตรา 7 อนุ 7 พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร ปลดล็อกเงื่อนไขการใช้อาคารชั่วคราวของ รพ.สนาม ระเบียบราชการต้องไม่บั่นทอนคนทำงาน
“ตรีรัตน์” ยกทีมไขก๊อกลาเพื่อไทย
นายตรีรัตน์ ศิริจันทโรภาส อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตบางกะปิ-วังทองหลางและอดีตเลขาธิการกลุ่มเพื่อไทยพลัส พร้อมนายบำรุง รัตนะ อดีต ส.ก.เขตวังทองหลาง 4 สมัย และนายประเสริฐ ทองนุ่น อดีต ส.ก.เขตบางกะปิ ให้สัมภาษณ์ว่าได้ยื่นใบลาออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. เป็นทางออกเดียวที่จะได้ทำงานรับใช้ประชาชนในพื้นที่ หลังพรรคเพื่อไทยมีมติส่งทีมงานจากเขตอื่นเป็นว่าที่ผู้สมัครท้องถิ่นแทนทีมงานเดิม
“ทักษิณ” กอดแน่นเห่ออุ้มหลานตา
วันเดียวกัน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หรืออุ๊งอิ๊ง บุตรสาวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ โพสต์วิดีโอภาพการพาหลานสาวไปพบนายทักษิณ ระบุข้อความประกอบวิดีโอว่า “เหตุการณ์มีอยู่ว่าก่อนเครื่องจะลง 30 นาที baby น้อยของแม่ร้องไห้เสียงดังมาก เพราะเป็นเวลาง่วงนอนก็เลยคิดเจอคุณตา ร้องขนาดนี้ไม่น่าจะดี แม่จะมีความกังวลตอนตากำลังจะอุ้ม ปรากฏว่ายิ้มให้ตา ให้ตาอุ้มเดินเล่นชิวมาก แถมยังหัวเราะเอิ๊กอ๊ากให้ตาอีกด้วย พอขึ้นรถนั่งตักแม่เหมือนจะหลับ สักพักงอแงร้องไห้อีกรอบ พอตาเอาไปอุ้มเงียบจ้ะ อารมณ์ดีแม่ก็จะงงนิดหน่อยนะจุดนี้ เป็นงานซะงั้น ดีใจจริงๆในที่สุด ก็ได้มาเจอคุณตาที่รักแล้ว ตาบอกว่าเราเคยเจอกันแล้ว ตอนอยู่ในท้องแม่ เลยคุ้นเร็วมาก กลับมาถึงบ้าน จู่ๆตาเดินมากอดแม่ และพูดว่า “ยังไม่ได้กอดลูกเลย มัวแต่ตื่นเต้นดีใจเจอหลาน” ไม่ว่าอะไรหรอกก็ตั้งใจเอาตัวเล็กมาให้ฟัดนั่นแหละ เวลาเดินช้าๆนะ แม่ขอกลับเป็นเด็กน้อยอ้อนคุณพ่อของแม่นานๆหน่อย” ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในโพสต์ดังกล่าวมีคนมาแสดงความยินดีที่คุณตาได้เจอกับหลานเป็นจำนวนมาก
“ยิ่งลักษณ์” ชวนใช้ถุงผ้าช่วยโลก
ขณะที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ โพสต์ทวิตเตอร์ว่า “วันนี้วันสิ่งแวดล้อมโลก อยากเชิญชวนทุกคนหันมาใช้ถุงผ้าเวลาไปซื้อของกัน เพราะจากสถิติพบว่าในแต่ละปีทั่วโลกใช้ถุงพลาสติกกว่า 5 แสนล้านใบ ซึ่งกว่าถุง 1 ใบจะย่อยสลายใช้เวลานาน เป็นภัยต่อสิ่งแวดล้อมอย่างมาก แค่เรา เปลี่ยนพฤติกรรมก็ช่วยโลกของเราได้แล้ว”