รับรองซิโนแวค “ฮู” ถูกที่ถูกเวลา ดูท่าว่าสถานการณ์ “โควิด-19” ในประเทศไทยน่าจะคลี่คลายไปในทางที่ดี เมื่อ “วัคซีน” ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญพร้อม

“แอสตราเซเนกา” วัคซีนตัวหลักที่ไทยได้ตกลงกันไว้กับบริษัทผู้ผลิตได้รับคำยืนยันจากตัวแทนว่าของไทยไม่มีปัญหา

สามารถจัดส่งให้ตามกำหนด

อีกทั้งจะได้จากจอห์นสันแอนด์จอห์นสันอีก 5 ล้านโดสในไตรมาส 4 เมื่อบวกกับของเก่าที่ได้จากยี่ห้ออื่นๆก็น่าจะบริหารจัดการให้เพียงพอได้

ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้วางแผนและเตรียมการที่จะจัดส่งวัคซีนไปยังจังหวัดต่างๆโดยใช้ข้อมูลจากสภาพความเป็นจริงเป็นตัวกำหนด

จังหวัดไหนได้จำนวนเท่าใด สามารถให้คำตอบได้

ไม่ใช่ปล่อยให้ “นักการเมือง” เข้ามาจัดสรรกันเอง...

ทั้งนี้ จะเริ่มเดินหน้าฉีดทั้งระบบตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย.64 ซึ่งได้ประกาศล่วงหน้าเอาไว้แล้วให้เป็น “วาระแห่งชาติ”

คนไทยทั้งประเทศก็ต้องติดต่อข้อมูลข่าวสารอย่างใกล้ชิดว่าจะต้องดำเนินการอย่างไรเพื่อจะได้เข้าถึงวัคซีน

คนกรุงเทพฯก็เกาะติด กทม.เอาไว้ให้ได้ เพราะชอบทำงานแบบ “หาเสียง” จนเกินพอดีอย่างที่เพิ่งถูกนายกฯเบรกเรื่องการประกาศผ่อนปรนโดยไม่ได้หารือกันก่อน

คนต่างจังหวัดก็ต้องสนใจต่อหน่วยงานที่จะเข้ามาดูแลรับผิดชอบ โดยเฉพาะ อสม. ที่กระทรวงสาธารณสุขมอบหมายให้รับผิดชอบด้วย

อย่างผู้ว่าฯทุกจังหวัดนั้นมีอำนาจที่จะรับผิดชอบทุกอย่างได้ก็จริง แต่ก็ต้องฟังฝ่ายแพทย์ในท้องถิ่นนั้นๆด้วย

พูดง่ายๆว่าคอยอำนวยความสะดวก แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า และรับฟังความคิดเห็นซึ่งกันและกัน

...

อย่าไป “ล้วงลูก” เป็นใช้ได้

เมื่อสถานการณ์เป็นไปอย่างนี้รัฐบาลคงเบาใจไปได้เยอะ เพราะเป็นเรื่องสำคัญทำให้การอภิปรายในสภาว่าด้วยเรื่อง “งบประมาณ” จืดไปเยอะเลย...

ที่สุดก็ผ่านวาระแรกเพราะเสียงของรัฐบาลยังแน่นหนา ไม่ “แตกแถว” ประชาธิปัตย์ประกาศยกมือหนุนตั้งแต่ไก่โห่

“ภูมิใจไทย” แม้จะปล่อยให้ลูกพรรคออกมาถล่มในสภา อ้างถึงงบของกระทรวงสาธารณสุขนั้นน้อยกว่าของทหาร

แสดงอาการน้อยอกน้อยใจถึงขอแยกกลับบ้านก่อน

แน่นอนว่านายกฯซึ่งรู้ดีว่าเป็นเป้าโจมตี พูดง่ายๆว่าโดนทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาลพวกเดียวกันเอง

ก็เลยต้องมีเสียงบ่น “น้อยใจ” บ้างเป็นธรรมดา

แต่ทั้งนายกฯและนายอนุทินต่างก็รู้ดีว่าอะไรเป็นอะไร ถือว่า “ขอกันกิน” มากกว่า เพราะยังไงยังต้องกอดคอกันบริหารต่อไป

ทั้งประชาธิปัตย์และภูมิใจไทยต่างก็รู้ตัวดีว่ายังไม่สามารถเอาชนะใจคนทั้งประเทศได้แม้ความนิยมจะดีขึ้น

แบบนี้ดูท่าจะอยู่กันจนครบเทอมมากกว่าเป็นอย่างอื่น.

“สายล่อฟ้า”