“ยิ่งลักษณ์” ย้อนอดีต 7 ปีรัฐประหาร โอดสุดขมขื่นเจ็บปวดใจ จวก “ประยุทธ์” ยึดอำนาจฉุดประเทศสูญเสียโอกาส ทวงสัญญาลมปากคืนความสุขให้ประชาชนหรือยัง พท.ถล่มซ้ำลากบ้านเมืองถอยหลังเข้าคลอง ทางออกเดียวต้องแก้ รธน. “อนุดิษฐ์” หวดทิ้งมรดกบาปให้ลูกหลาน “วัฒนา” แขวะไวรัสเผด็จการไล่ไม่ไป “โรม” เฉ่งห้วงเวลาความบ้าอำนาจ ทำลายความฝันคนไทย ทำพังทุกองคาพยพ “สุทิน” สวดเด็ก พปชร.ชงเลื่อนถกงบฯปี 65 ให้รัฐบาลหนีการตรวจสอบ “ธนกร-แรมโบ้” ขุดหนังเก่า พ.ร.บ.นิรโทษกรรมสุดซอยโต้กลับ โว “ลุงตู่” เข้ามาซ่อมซากปรักหักพังจากรัฐบาล “ปู”
ขั้วประชาธิปไตยและฝ่ายค้านใช้โอกาสครบรอบ 7 ปี รัฐประหารฉายภาพความล้มเหลวของการบริหารประเทศของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯขอเป็นตัวแทนคนไทยส่วนหนึ่ง ทวงถามสัญญานายกฯ ที่ให้คำมั่นจะคืนความสุขให้กับประชาชน
“ปู” ซัด 7 ปีรัฐประหาร ปท.เสียโอกาส
เมื่อวันที่ 22 พ.ค. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ โพสต์เฟซบุ๊ก 7 ปีการรัฐประหาร 22พ.ค.2557 มีเนื้อหาว่า 7 ปีก่อนรัฐประหารวันนั้นกับ 7 ปีหลังรัฐประหารวันนี้ประเทศไทยและประชาชนสูญเสียโอกาสอะไรไปบ้าง ขอย้อนเวลากลับไปช่วงนี้เมื่อ 7 ปีก่อน ตอนนั้นตนถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้พ้นสภาพการเป็นนายกฯด้วยข้อกล่าวหาเรื่องการโยกย้ายตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เพียงตำแหน่งเดียว ทั้งๆที่เป็นอำนาจของฝ่ายบริหาร ต่อมาในวันรุ่งขึ้น ป.ป.ช. เร่งชี้มูลความผิดตนในคดีจำนำข้าว ทั้งที่ ป.ป.ช.ยังไม่ได้ข้อสรุปคดีดังกล่าวในระดับรัฐมนตรีเลย แต่ทำไปเพื่อส่งเรื่องถอดถอนตนออกจากนายกฯอีกครั้ง แค่ให้แน่ใจว่าตนจะพ้นสภาพจริง ทำให้เชื่อได้ว่าเตรียมการไว้ล่วงหน้าจากหลายเหตุการณ์ เพื่อใช้เป็นข้ออ้างทำรัฐประหารวันที่ 22 พ.ค. อยากให้ทุกท่านช่วยคิดว่า 7 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยสูญเสียโอกาสอะไรไปบ้าง ทั้งศักยภาพการแข่งขันด้านเศรษฐกิจที่นับวันยิ่งแย่ลง เกิดปัญหาว่างงาน นักศึกษาจบใหม่ไม่มีงานทำคุณภาพชีวิตแย่ลง ขาดการพัฒนาทักษะของประเทศให้รองรับ กับโลกที่เปลี่ยนแปลงไป สิทธิเสรีภาพถูกลิดรอนปิดกั้นความเห็นต่าง จากบุคคลที่อ้างว่าขออาสาเข้ามาแก้ปัญหาประเทศ ไม่มีใครทำได้ เป็นคนเก่งสุด รู้ดีสุด ต้อง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม เท่านั้น
...
ทวงสัญญา “บิ๊กตู่” คืนสุขหรือยัง
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ระบุว่าตลอดเวลา 7 ปี เจ็บปวดใจ และขมขื่นแทนประชาชน พยายามเฝ้าอดทนด้วยความหวังที่ว่ารัฐบาลจะทำสิ่งดีๆให้กับประเทศบ้าง แต่เมื่อเวลาผ่านไป คำสัญญาและเหตุผลที่อ้างเพื่อรัฐประหารรัฐบาลตนจนถึงวันนี้ยังไม่มีทีท่าว่าจะทำได้ แม้จะจัดให้มีการเลือกตั้ง แต่นั่นเป็นการสร้างภาพว่าคืนอำนาจให้กับประชาชน เพราะได้มีการออกแบบรัฐธรรมนูญเพื่อให้ตัวเองได้สืบทอดอำนาจ ประชาชนจึงออกมาเรียกร้องขอให้แก้ไข แต่ถูกยื้อ และไม่ให้ความสำคัญ ไม่แปลกเพราะรัฐบาลภายใต้รัฐธรรมนูญที่ไม่ยึดโยงกับประชาชน ย่อมไม่เข้าใจถึงความเดือดร้อนของประชาชน ไม่เคยแม้แต่เป็นที่พึ่งพิง การบริหารประเทศแบบแนวทหารไม่สามารถทำให้ประเทศเศรษฐกิจดีได้ แถมยังซ้ำเติมด้วยการบริหารสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ที่ล้มเหลวแบบนี้ประชาชนจะหันหน้าไปพึ่งใครได้ ทุกคนคงเห็นแล้วว่า 7 ปีของรัฐประหาร เป็น 7 ปีที่ประเทศ และคนไทยสูญเสียโอกาสในการพัฒนา เป็น 7 ปี ที่เสียงของประชาชนไม่มีความหมาย และเป็น 7 ปี ที่ประชาชนได้แต่เฝ้ารอรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ที่ไม่รู้ว่าจะได้เห็นหรือไม่ จึงขอทวงถาม พล.อ.ประยุทธ์แทนพี่น้องประชาชนว่าได้ทำตามที่สัญญาว่าจะคืนความสุขให้กับประชาชนแล้วหรือยัง มิเช่นนั้นรัฐประหารเมื่อ 7 ปีก่อน ที่บอกว่าปฏิรูปก่อนเลือกตั้งคงเป็นเพียงข้ออ้างเท่านั้น
พท.อัดทำประเทศถอยหลังบี้แก้ รธน.
ขณะที่เฟซบุ๊กพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความในเรื่องเดียวกันว่า “ตลอด 7 ปีภายใต้อำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่เพียงแค่คำสัญญา “ใช้เวลาอีกไม่นาน” จะไม่เคยเกิดขึ้นจริง การปฏิรูปการเมือง การสร้างความปรองดอง หรือการแก้ไขปัญหาทุจริตคอร์รัปชันไม่ได้รับการแก้ไข การบริหารประเทศถูกมองล้มเหลวแทบทุกด้าน โดยเฉพาะเรื่องสิทธิเสรีภาพ สิทธิมนุษยชนและเศรษฐกิจปากท้อง หรือล่าสุดการแก้ไขวิกฤติการระบาดเชื้อโควิด-19 ที่รัฐบาลล้มเหลวการจัดการ ตั้งแต่รับมือตรวจรักษาเชิงรุก จัดหาวัคซีนล่าช้าสร้างปัญหาให้คนไทยแสนสาหัส จึงไม่เกินความจริงเลยว่าตลอด 7 ปี ภายใต้การบริหารงานของ พล.อ.ประยุทธ์ทำให้ประเทศถอยหลังครั้งสำคัญ นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า มีคำร่ำลือว่ารัฐบาลอยู่ด้วยการแจกกล้วย พรรคร่วมรัฐบาลดูเหมือนร่วมกันโดยความจำเป็นทู่ซี่อยู่กันไป ประโยชน์สุขประชาชนไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน 7 ปีความขัดแย้งมากขึ้นในสังคม ผู้นำรัฐประหารหรือผู้นำรัฐบาลกลายเป็นคู่ขัดแย้งเสียเอง ทางออกมีประการเดียวคือต้องแก้รัฐธรรมนูญฉบับนี้แล้วประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่เป็นประชาธิปไตยยึดโยงกับประชาชน
จวกทิ้งมรดกบาป 7 ปีเกินพออย่าอยู่ต่อ
น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊กครบรอบ 7 ปีการรัฐประหารปี 2557 ว่า ครบ 7 ปีรัฐประหาร เผด็จการยังอยู่ครบ เรายัง ต้องใช้กติกาเผด็จการต้องทนทุกข์ต่อไป ระบอบประยุทธ์บอกขอเวลาอีกไม่นาน จะทำให้ประเทศไทยดีกว่าเก่า แต่มีเพียงแค่ “รัฐราชการ” อ่อนล้า ถดถอย ด้อยประสิทธิภาพ แถมท้ายผลงาน 7 ปีเด่นที่สุดคือ “การกู้” จึงถูกครหายึดอำนาจเพื่อตนเองและพวกพ้อง ช่วยกันตักตวงความสุขกันถ้วนหน้า บนคราบน้ำตาคนไทย 7 ปี รัฐประหารเป็นได้แค่การสร้าง “#มรดกบาป” ให้ลูกหลานต้องชดใช้ตราบนานเท่านาน นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยแย่ติดลบ 5 ไตรมาส ความเสียหายประเมินเป็นตัวเงินไม่ได้ แต่พิสูจน์แล้วว่านายกฯไม่สามารถฟื้นเศรษฐกิจได้ อยู่ไปเศรษฐกิจยิ่งเสื่อมถอยไปเรื่อย ควรถอยออกไปได้แล้ว อย่าอยู่ก่อความเสียหายต่ออีก นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองหัวหน้าพรรค เพื่อไทย กล่าวว่า 7 ปี ประกาศวาระแห่งชาติหลายเรื่องทำไม่ได้ การปฏิรูปการเมืองไม่ก้าวหน้า กลุ่มเป่านกหวีดยังสามัคคีประเทศไทยขับไล่ระบอบประยุทธ์เลย 7 ปีนานเกินไปสำหรับการเสียโอกาสประเทศชาติและประชาชน รัฐประหารไม่ใช่ทางออก หมดเวลา พล.อ.ประยุทธ์แล้ว
“วัฒนา” ระอาไวรัสเผด็จการไล่ไม่ไป
นายวัฒนา เมืองสุข สมาชิกพรรคไทยสร้างไทย ทวีตข้อความว่า “ครบ 7 ปีการรัฐประหาร คนในโลกยังโชคร้ายต้องเจอไวรัสโควิดแต่อีกไม่นานวัคซีนคงไล่ไปหมด คนไทยกลับซวยกว่าเพราะเจอไวรัสสายพันธุ์เผด็จการมา 7 ปี ไล่ไม่ไป หน้ากากและวัคซีนป้องกันไม่ได้ ไม่มียารักษา เป็นสายพันธุ์ที่มีภูมิคุ้มกันต่อสติปัญญาและความอายสูง แถมจะอยู่สร้างความเสียหายไปได้อีกนาน”
“สุทิน” สวดเลื่อนถกงบฯหนีตรวจสอบ
นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงนายอนันต์ ผลอำนวย ส.ส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธาน กมธ.กิจการสภาฯ เสนอให้เลื่อนประชุมการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบฯ ปี 65 วันที่ 31 พ.ค.-2 มิ.ย. ออกไป อ้างเชื้อโควิด-19 ระบาดว่า ฝ่ายค้านขอฟังความเห็นจาก ศบค.และทีมแพทย์เป็นทางการอีกครั้ง จะให้เปิดสภาฯประชุมร่าง พ.ร.บ. งบฯปี 65 ได้หรือไม่ ทราบว่านายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯก็รอฟังคำตอบ ศบค.อยู่เช่นกัน แม้สำนักงานเลขาธิการสภาฯ จะออกมาตรการเฝ้าระวังควบคุมด้านสาธารณสุขเคร่งครัด แต่ต้องรอฟังความชัดเจนจาก ศบค.อีกครั้งเพื่อความมั่นใจ ถ้าต้องเลื่อนต้องมีคำตอบชัดเจน เลื่อนถึงเมื่อใด จะมีวิธีชดเชยเวลาที่เสียไปอย่างไร ต้องมีเหตุผลจำเป็นจริงๆอย่าฉวยโอกาสอ้างสถานการณ์โควิดเลื่อนเพื่อปัจจัยการเมือง หนีการตรวจสอบต่างๆหรือไปออก พ.ร.ก.กู้เงินต่างๆเพิ่มเติมอีก เพื่อนำเงินไปใช้เป็นภารกิจทางการเมือง แอบใช้เงินในทางไม่โปร่งใส
“โรม” รำลึก 7 ปีความบ้าอำนาจ
เมื่อเวลา 13.00 น. นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล โพสต์เฟซบุ๊ก ว่า “7 ปีรัฐประหาร ประเทศไทยเป็นแบบทุกวันนี้เพราะความบ้าอำนาจของคนไม่กี่คน” 7 ปี ที่ประเทศไทยอยู่ในกำมือของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์-โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม และพรรคพวก เป็น 7 ปีที่สูญหาย ทำลายโอกาส ความฝัน และสถาบันทางการเมือง มูลค่าความเสียหายทางโอกาสที่ถูกทำลายไปของประเทศไทย เราเรียกอะไรคืนมาไม่ได้เลยรัฐธรรมนูญปี 2560 คณะรัฐประหาร มีมาตรา 279 บัญญัติไว้ทำลงไปล้วนไม่ผิดกฎหมาย การแก้ไขรัฐธรรมนูญแทบเป็นไปไม่ได้ มี สว.250 เป็นเสาค้ำยันอยู่ในสภา คนเดือดร้อนจะวิพากษ์วิจารณ์ ก็มีกระทรวงบางกระทรวงคอยสอดส่อง รวมกับกองทัพ IO จากภาษีประชาชน ตั้งมารบกับประชาชนทางออนไลน์ พอประชาชนจะชุมนุมเรียกร้อง ก็โดนจับไม่ให้ประกันตัว ประชาชนที่คิดต่างคือศัตรูของรัฐบาล แม้แต่ข้าราชการอย่างตำรวจ ตอนนี้จับโจรรักษาความสงบปกติ ก็ไม่มีโอกาสเติบโตแล้ว ถ้าไม่มีตั๋วนาย ตั๋ว สร.1 หรือ #ตั๋วช้าง หรือไม่ได้เข้าอบรมจิตอาสา 904 เกิดระบบวิ่งเต้นเส้นสายกันมั่วไปหมด
เฉ่งยโสโอหังทำพังทุกระบบ
นายรังสิมันต์ระบุว่า เรื่องเศรษฐกิจประเทศไทยขาดทุนสะสม เป็นหนี้ 1 ล้านล้านบาทปีนี้ กู้เงินมาแต่แก้ปัญหาไม่ได้ เรียกเก็บภาษีเอาไปผลาญ แต่สวัสดิการต้องชิงโชค การจัดการโรคคนตายเป็นเบือ ไม่มีประสิทธิภาพบริหารจัดการวัคซีน เลือกนำเข้ายี่ห้อราคาแพงประสิทธิภาพต่ำ จนตอนนี้วัคซีนยังมาไม่ครบ แต่ไวรัสมาเกือบครบทุกสายพันธุ์เรียบร้อย 7 ปีหลัง พล.อ.ประยุทธ์ยึดอำนาจมาอย่างยโสโอหัง พังมันทุกองคาพยพประเทศ จนคนอยากย้ายประเทศเป็นแสนเป็นล้านคน ขอเรียกร้องไปยังใครก็ตามที่ยังพอมีโอกาสกลับตัวถอยห่างจากคนชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ไม่ว่าในฐานะพรรคร่วมฯหรือคนอยากแก้ไข ยังมีโอกาสหยุดความพินาศของประเทศ ถอยออกมาจากรัฐบาลนี้เถิด มองแล้วมีคนบ้าอำนาจไม่กี่คน กับหนูสกปรกไม่กี่ตัวหรอกที่ไม่ฟังเสียงอะไรจากประชาชนเลย และพร้อมจะขยายความพินาศจาก 7 ปี ให้กลายเป็น 8-9-10 ปี
แนวร่วมเสื้อแดงชุมนุมไล่ “ลุงตู่”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมือง ต่างๆจัดชุมนุมเนื่องในวันครบรอบ 7 ปี รัฐประหารจัดกิจกรรมแสดงออกต่อต้านรัฐบาลสืบอำนาจจากการรัฐประหารของ คสช. อาทิ ที่ห้องประชุมสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมพีซทีวี ซอยรามอินทรา 40 กลุ่มสามัคคีประชาชนเพื่อประเทศไทย จัดเวทีปราศรัยออนไลน์ ขับไล่รัฐบาล นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานกลุ่ม นปช. ระบุ พล.อ.ประยุทธ์เลวร้ายกว่าเผด็จการทุกคน สัปดาห์นี้จะไปพบหลายฝ่าย เพื่อไปยื่นหนังสือให้นายกฯลาออก ส่วนที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย กลุ่ม Unme of Anachy แกนหลักเครือข่ายหมู่บ้านทะลุฟ้า จัดขบวนรถโปรยใบปลิวประณาม คสช. ขณะที่ลานสกายวอล์ค สี่แยกปทุมวันเวลา 18.00 น. เครือข่ายคนเสื้อแดงจัดแสดงดนตรี ปราศรัย อ่านประกาศเชิดชู น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯโจมตีรัฐบาล เรียกร้องให้นายกฯลาออกและร่างรัฐธรรมนูญใหม่ พร้อมจุดเทียนรำลึก 7 ปีรัฐประหาร ตะโกนไล่ “ประยุทธ์ออกไป”
ลิ่วล้อ รบ.โต้ 7 ปีซ่อมซากหักพัง รบ. “ปู”
นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า ยืนยันนายกฯทำตามสัญญาทุกอย่าง เป็น 7 ปีซ่อม 7 ปีสร้าง ซ่อมซากปรักหักพังที่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ทำไว้ โดยเฉพาะปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน ทุจริตจำนำข้าว และ 7 ปีสร้างโดยปฏิรูปประเทศทุกด้าน อาทิ ปฏิรูปโครงสร้างพื้นฐาน ปราบหนี้นอกระบบ ปฏิรูประบบประกันสุขภาพถ้วนหน้า เพิ่ม 50 สิทธิรักษาทันที ทุกที่ทุกโรงพยาบาล ฟรี 72 ชั่วโมง ปฏิรูประบบสวัสดิการแห่งรัฐ จ่ายตรงเข้าบัญชี 14 ล้าน ตัดหัวคิว ตัดวงจรทุจริต เป็นต้น บ้านเมืองเปลี่ยนแปลงทางที่ดี อยากให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์สำนึกสิ่งที่ทำไว้กับประเทศด้วย คนไทยยังไม่ลืมเช่นกัน นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ทำผิดควรยอมรับผิด ไปคิดทบทวนให้ดีรัฐประหารเกิดจากสาเหตุใด ประชาชนออกมาต่อต้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม สุดซอยเพื่อผลประโยชน์นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯใช่หรือไม่ อย่ามาเฉไฉใส่ความ พล.อ.ประยุทธ์และรัฐบาล
“ชลน่าน” ฉะผู้นำเหลวสกัดลอบเข้า ปท.
ส่วนความวิตกกรณีไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์อินเดียแพร่ระบาดเข้าไทย จนส่งผลกระทบโยงมาเป็นประเด็นการเมือง วันเดียวกัน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า คนงานติดเชื้อสายพันธุ์อินเดีย สันนิษฐานว่ามาจากแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้ามาใช่หรือไม่ นายกฯในฐานะ ผอ.ศบค.ปล่อยปละละเลย ไม่มีมาตรการป้องกัน ไม่มีจิตสำนึกดูแลบ้านเมือง มุ่งแต่ผลประโยชน์ใช่หรือไม่ นำฝ่ายความมั่นคงมาบริหารการแพทย์ล้มเหลว นายกฯกลับไม่บริหารด้านความมั่นคงตามหน้าที่หลักตัวเอง เพราะมีเรื่องผลประโยชน์แลกค่าหัวคิวใช่หรือไม่ ขอเรียกร้องให้นายกฯทำความจริงให้ปรากฏชัดว่าสายพันธุ์อินเดียเข้าประเทศมาแพร่ระบาดได้อย่างไร เพื่อหาทางป้องกัน ถ้าทำไม่ได้ต้องพิจารณาตัวเอง อย่ามารับผิดชอบประเทศชาติบ้านเมืองเลยจะพากันไปไม่รอด
กก.อัด มท.1 ปล่อยงาบหัวคิวคนงาน
นพ.เอกภพ เพียรพิเศษ ส.ส.เชียงราย พรรคก้าวไกล กล่าวว่า โควิดสายพันธุ์อินเดียสันนิษฐานว่าเกิดจากแรงงานต่างด้าว ที่ฝ่ายความมั่นคงปล่อยปละละเลย หน่วยงานมีหน้าที่ควบคุมแรงงานต่างด้าวเข้าเมืองผิดกฎหมาย กลับมีข้อครหาเป็นคนนำเข้ามาเสียเอง แลกกับผลประโยชน์ มีการเก็บหัวคิวใช่หรือไม่ ถือเป็นความบกพร่องหน้าที่ของฝ่ายความมั่นคง ภายใต้กำกับดูแลของ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ทั้งนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ต้องพิจารณาตนเอง
“สิระ” จี้ล็อกดาวน์ 7 ชุมชนรอบแคมป์หลักสี่
นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า อยากให้ กทม. และ ศบค. ล็อกดาวน์ 7 ชุมชน รอบแคมป์คนงานหลักสี่ควบคุมการแพร่ระบาดของโรค ได้แก่ ชุมชนอยู่แล้วรวย ชุมชนแฟลตตำรวจอิสระ ชุมชนแฟลตตำรวจส่วนกลางทุ่งสองห้อง ชุมชนกองบัญชาการศึกษา ชุมชนมิตรประชาพัฒนา ชุมชนเปรมสุขสันต์ ชุมชนคนรักถิ่น มีมาตรการเยียวยา จำกัดวงไม่ให้เชื้อแพร่กระจาย ตรวจสอบบริษัทรับเหมาลักลอบใช้แรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายหรือไม่ ถ้าไม่กระจ่าง เปิดประชุมสภาฯและประชุม กมธ.กฎหมายฯได้จะเอาเข้าที่ประชุม