“ภราดร” ปลุกภาคประชาชนไล่ “บิ๊กตู่” ยกระดับเป็นวาระเร่งด่วนแห่งชาติ “โรม” แย้ง ปท.ต้านโหวตนายกฯ คนนอกรัฐธรรมนูญ หวั่นไม่ต่างจาก คสช.สืบทอดอำนาจ เตือน ส.ว. อย่าฝืนใจ ปชช. “อดุลย์” ตีแสกหน้า “เทพเทือก” ระวังโดนข้อหาทรยศประชาชน ไม่แสดงจุดยืนร่วมตะเพิดรัฐบาล “สมคิด” ยันฝ่ายค้านยื่นญัตติกะซวกแน่ แซะไม่มี ส.ว.ค้ำล่องจุ๊นนานแล้ว “จุรินทร์” มั่นใจ “ลุงตู่” นำทีมฝ่าศึกซักฟอกได้สบาย เกาะแน่นยังไม่คิดโดดหนีรัฐบาลเรือแป๊ะ
กระแสเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ลาออก ดังขึ้นเรื่อยๆหลังกลุ่มประชาชนคนไทย (ปท.) นำโดยนายนิติธร ล้ำเหลือ ที่ปรึกษา ปท.ออกมาแถลงกดดันให้เสียสละ ล่าสุด พรรคเพื่อไทยเคลื่อนไหวปลุกทุกกลุ่มยกระดับไล่นายกฯเป็นวาระแห่งชาติ
“ภราดร” ปลุกวาระ “ไล่” แห่งชาติ
เมื่อวันที่ 16 พ.ค. พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขานุการคณะกรรมการกิจการพิเศษพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า บ้านเมืองขณะนี้มีแต่เสียงเรียกร้องประเด็นความทุกข์ยาก จนจัดลำดับความเร่งด่วนไม่ถูก ร้อนแรง ที่สุดคือการแก้วิกฤติโควิด-19 จัดหาวัคซีนให้เพียงพอโดยเร็วที่สุด ภาคประชาชนก็พบประเด็นร้อนแรงที่สุดคือการแก้ไขวิกฤตการณ์โควิดในทุกมิติ ทั้งสังคม เศรษฐกิจ การเมือง ตามด้วยการปฏิรูปการปกครองประเทศให้เป็นประชาธิปไตยแท้จริง การแก้ไขรัฐธรรมนูญ การปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม การปฏิรูปกองทัพ เป็นต้น ประเด็นที่เรียกร้องล้วนมีมูลเหตุจากการกระทำของขบวนการรัฐประหารแล้วกลายพันธุ์เป็นรัฐบาลสืบทอดอำนาจทั้งสิ้น หลักฐานยืนยันคือการรวมพลังของภาคประชาชนต่างๆ ทั้งกลุ่มราษฎร กลุ่มสามัคคีประชาชนไทยไม่ทน จนถึงกลุ่มล่าสุดที่เกิดขึ้นคือกลุ่มประชาชนคนไทย ทุกกลุ่มต่างร่วมกันเรียกร้องขอให้นายกฯลาออก จึงเป็นบทสรุปที่ประจักษ์ชัดแล้วว่า ประเด็นที่ประชาชนต้องการให้จัดการแก้ไขเป็นวาระแห่งชาติ เร่งด่วนที่สุดในลำดับแรก นั่นคือการรวมพลังภาคประชาชน กลุ่มราษฎรต่างๆให้มาขับไล่นายกฯสืบทอดอำนาจให้ลาออกจากตำแหน่งไปโดยเร็วที่สุด
...
“โรม” ต้านนายกฯคนนอก
นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีกลุ่มประชาชนคนไทย (ปท.) เรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์เสียสละลาออก เปิดทางให้ตั้ง “รัฐบาลสร้างชาติ” เลือกนายกฯคนนอกตามรัฐธรรมนูญมาตรา 272 ว่า เรื่องให้ลาออกชัดเจนว่าทุกฝ่ายเห็นตรงกัน ไม่ควรให้โอกาสอีกต่อไป เลยเส้นตายหมดเวลาแล้วสำหรับ พล.อ.ประยุทธ์ ข้อเสนอให้เลือกนายกฯนอกบัญชีนั้นช่องทางนี้อาจเป็นการให้ได้มาซึ่งวิธีการที่ในอดีต เราเรียกมันว่าการสืบทอดอำนาจ เรายังมีเเคนดิเดตนายกฯในบัญชีอยู่อีกหลายคน เช่น นายชัยเกษม นิติสิริ แกนนำพรรคเพื่อไทย นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ อดีต รมว.คมนาคม นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ หรือแม้แต่นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เรายังใช้ช่องทางปกติตามรัฐธรรมนูญได้ บัญชีปกติมันมีปัญหาอะไร ทำไมไม่ใช้บัญชีปกติ
ดักคอ ส.ว.อย่าฝืนใจ ปชช.
นายรังสิมันต์กล่าวว่า อยู่ๆไปเสนอใครขึ้นมา ประชาชนอาจตั้งคำถามว่า นี่คือความพยายามสืบทอดอำนาจหรือ เป็นความพยายามในการปิดบังอะไรบางอย่างที่ประชาชนยังไม่รู้หรือเปล่า ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ลาออก มีความเป็นไปได้ที่ ส.ว.จะเลือกกลับมาอีก หรือกระทั่งหากมีการยุบสภาฯ พล.อ.ประยุทธ์ก็อาจกลับมา แต่ถ้า ส.ว.ยังเลือกกลับมาอีกโดยไม่สามารถอธิบายสังคมได้สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือคนก็ไม่ยอมรับ คิดว่า ส.ว.ต้องหยุดและตระหนักด้วยว่า การทำอะไรที่ฝ่าฝืนน้ำใจประชาชนมากๆระวังวันหนึ่ง ส.ว.จะไม่มีพื้นที่ให้อยู่ในสังคมไทย
“อ๋อย” วอนเห็นแก่บ้านเมือง
นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่น่าแปลกใจที่ผู้คนหลากหลายมีข้อสรุปตรงกันว่า หากจะแก้วิกฤติประเทศได้ พล.อ.ประยุทธ์ ควรลาออก แต่คงไม่ยอมลาออกง่ายๆ ถึงลาออก ส.ว. 250 คน และพรรคร่วมรัฐบาลอาจโหวตให้กลับมาเป็นนายกฯอีก ดังนั้นต้องช่วยกันพูดให้ ส.ว.และพรรคร่วมรัฐบาลเห็นแก่ประโยชน์ของบ้านเมืองมากกว่าพวกพ้องอย่างที่เป็นอยู่ ปัญหาใหญ่ที่สุดคือความล้มเหลวรับมือแพร่ระบาดโควิด-19 เกิดจาก พล.อ.ประยุทธ์รวบอำนาจ ไม่ประสานร่วมมือกับใครแม้แต่ ครม. ไม่จริงใจร่วมมือกับภาคเอกชน ไม่ยอมรับฟังข้อเสนอแนะจากใครทั้งสิ้น การให้ลาออกหรือเปลี่ยนตัวนายกฯคงต้องใช้เวลาอีกพอสมควร เพื่อลดความเสียหายที่จะเกิดขึ้น ระหว่างนี้ พล.อ.ประยุทธ์ควรเปลี่ยนท่าทีเสียใหม่ รับฟังความเห็นต่างและเปิดโอกาสให้ผู้ที่มีความรู้ความสามารถแนะนำ และร่วมมือกับรัฐบาลมากกว่านี้
“อดุลย์” หนุน “ทนายนกเขา”
นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา’35 แกนนำกลุ่มไทยไม่ทน สามัคคีประชาชน เพื่อประเทศไทย กล่าวว่า เห็นด้วยต่อข้อเสนอทั้งหมดของนายนิติธร ล้ำเหลือ ที่ปรึกษากลุ่ม ปท.ที่ให้ พล.อ.ประยุทธ์เสียสละลาออกจากนายกฯ เป็นการชี้ให้เห็นถึงปัญหาของบ้านเมืองอย่างตรงไปตรงมา และอยากฝากไปถึงนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตแกนนำ กปปส.ที่นำมวลมหาประชาชนชุมนุมเรียกร้องให้ปฏิรูปประเทศ เปิดช่องให้ พล.อ.ประยุทธ์ รัฐประหารเข้ามามีอำนาจ โดยได้ให้สัญญาว่าจะปฏิรูปประเทศทุกด้าน สร้างความสมานฉันท์ปรองดองให้กับคนในชาติ แต่ผ่านมา 7 ปี พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้ทำตามสัญญา นายสุเทพจะตอบคำถามกับมวลมหาประชาชนว่าอย่างไร โดยเฉพาะคนที่บาดเจ็บล้มตายเสียสละชีวิตเพื่อหวังให้บ้านเมืองเกิดการเปลี่ยนแปลงพัฒนาในทางที่ดีขึ้น แต่บัดนี้สิ่งที่พวกเขาเรียกร้องยังไม่เกิดมรรคผล มิหนำซ้ำประเทศชาติกำลังถดถอยล้าหลัง เพราะผู้นำประเทศบริหารล้มเหลว ประชาชนทุกข์ยากเดือดร้อนแสนสาหัส การปล่อยให้โควิดระบาดหนักยิ่งซ้ำเติมระบบเศรษฐกิจหายนะถึงขั้นเกิดกลียุคได้
กดดัน “เทพเทือก” แสดงจุดยืน
นายอดุลย์กล่าวว่า อยากให้นายสุเทพทบทวนข้อเรียกร้องปฏิรูปประเทศ 5 ด้านของ กปปส.ว่า มีอะไรเป็นรูปธรรม ทั้งการปฏิรูปการเมืองก็ได้นักการเมืองหน้าเดิมเข้ามา ทั้ง รมต.เรียงหิน รมต.ค้าแป้ง การปฏิรูปปัญหาการคอร์รัปชันก็ล้มเหลว และยังอุ้มพวกกันเอง อย่างเช่น “นาฬิกายืมเพื่อน” ปฏิรูปกระจายอำนาจการปกครอง แต่รัฐราชการกลับเติบโตเข้มแข็งมากขึ้นกว่าเดิม การปฏิรูปความเหลื่อมล้ำกลับเอื้อประโยชน์กลุ่มทุนใหญ่เจ้าสัวไม่กี่คน เหลื่อมล้ำมากที่สุดในโลก การปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม กลับใช้กระบวนการยุติธรรมเป็นเครื่องมือรักษาอำนาจตัวเอง และยังสองมาตรฐาน ที่เห็นชัด คือการซื้อเวลาหมกเม็ดปฏิรูปตำรวจแบบหน้าด้าน ส่วนการสร้างความปรองดองรวมทั้งการปฏิรูปประเทศ ที่นายสุเทพอ้างว่าถูกหักหลัง แต่กลับออกมาหนุน พล.อ.ประยุทธ์ แสดงว่าเป็นทฤษฎีสมคบคิดกัน บัดนี้เป็นที่ประจักษ์ว่า พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้ทำตามสัญญา การสืบทอดอำนาจของ คสช. ยิ่งทำให้ประเทศถดถอย หากประเทศชาติล่มจม นายสุเทพจะร่วมหัวจมท้ายกับ พล.อ.ประยุทธ์หรือไม่ ดังนั้น นายสุเทพต้องแสดงจุดยืนให้ชัดเจน หากอ้างว่าถูกหักหลัง แต่ยังหนุน พล.อ.ประยุทธ์เท่ากับโกหกประชาชน หากไม่แสดงความรับผิดชอบเท่ากับทรยศประชาชน เป็นการสมคบคิดให้เกิดการรัฐประหาร และสืบทอดอำนาจเพื่อพวกพ้องตัวเอง
“สมคิด” ยันเปิดซักฟอกแน่
นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงข้อเสนอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นหน้าที่ของฝ่ายค้านที่ต้องทำอยู่แล้ว ขณะนี้รัฐบาลล้มเหลวในการแก้ไขปัญหาโควิด-19 โดยเฉพาะเรื่องการบริหารจัดการ วัคซีนที่จะฉีดให้ประชาชน ให้ลงทะเบียนมาฉีดยังไม่มั่นใจในความปลอดภัย เป็นข้อด้อยของรัฐบาลที่ไม่สามารถหาวัคซีนทางเลือกที่ดีได้ รวมทั้งการบริหารงานบางกระทรวงส่อไปในทางเรียกรับผลประโยชน์ การอภิปรายไม่ไว้วางใจคงหลังจากการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบปี 65 ก่อน พรรคเพื่อไทยคงประชุมร่วมกันเพื่อพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง วันนี้รัฐบาลสมควรโดนอภิปรายไม่ไว้วางใจเพื่อให้ฝ่ายค้านได้ตรวจสอบว่าบริหารบ้านเมืองเป็นที่พอใจของประชาชน มากน้อยแค่ไหน ถ้าเป็นรัฐบาลทั่วไปที่มาจากประชาชนโดยตรงไม่มีอำนาจพิเศษจาก ส.ว.มาเกื้อหนุน สถานการณ์แบบนี้คงอยู่ไม่ได้แล้ว ควรลาออกเปิดโอกาสให้คนมีความสามารถเข้ามาทำหน้าที่แทน
“จุรินทร์” มั่นใจ “บิ๊กตู่” เอาอยู่
ที่สะพานพระราม 8 ฝั่งธนบุรี เขตบางพลัด นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯและ รมว.พาณิชย์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีฝ่ายค้านเตรียมยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า ตอนนี้ยังไม่เห็นญัตติว่าอภิปรายรูปแบบไหน เชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ สามารถนำทีมรัฐบาลตอบคำถามของฝ่ายค้านได้ การอภิปรายเป็นวิถีทางปกติในระบอบประชาธิปไตย เป็นเรื่องดีที่ทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลไม่มีความจำเป็นอะไรที่ต้องไปสกัดกั้นถือเป็นเรื่องปกติ คนทำงานหรือใครทำหน้าที่บริหารประเทศย่อมมีข้อบกพร่องบ้าง ถือเป็นเรื่องปกติธรรมดา เรื่องไหนบกพร่องรัฐบาลกำลังแก้ไขอยู่
ยังไม่คิดโดดหนีเรือแป๊ะ
เมื่อถามต่อว่า ภาคประชาชนหลายกลุ่มเรียกร้องให้นายกฯลาออกกระทบต่อเสถียรภาพรัฐบาลหรือไม่ นายจุรินทร์ตอบว่า จนถึงวันนี้ยังเชื่อนายกฯสามารถชี้แจงอธิบายในสิ่งที่ได้ทำไปกับประชาชนได้ แต่ทุกรัฐบาลย่อมมีทั้งผู้ที่พอใจและไม่พอใจเป็นเรื่องธรรมดาในวิถีทางประชาธิปไตย เมื่อถามอีกว่ามีข้อเรียกร้องให้พรรคประชาธิปัตย์ทบทวนท่าทีร่วมรัฐบาล นายจุรินทร์ตอบว่า เคยตอบไปแล้ว ในสถานการณ์ปัจจุบันเราต้องจับมือร่วมกับทุกฝ่ายพาประเทศฝ่าวิกฤติไปให้ได้ กำชับทุกภาคส่วนของพรรคทำหน้าที่ให้สมบูรณ์เกิดประโยชน์กับประชาชนที่สุด เมื่อถามอีกว่า หลังจากนี้จะไปไหนก็ไปกับรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จะไม่ทิ้งกัน นายจุรินทร์ตอบว่า ยังไม่ได้คิด
ข้องใจ “ครูแก้ว” ตกเขียว อสม.
นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แถลงว่า กรณีนายกฯระบุถึงการซื้อประกันภัยโควิด-19 ให้กับบุคลากรทางการแพทย์ อสม.และเจ้าหน้าที่ที่ใกล้ชิดผู้ป่วยติดเชื้อ 2.7 แสนราย วงเงินคุ้มครอง 2.7 แสนล้านบาทถามว่าซื้อประกันโควิดให้ใคร เชื่อถือได้หรือไม่ เพราะที่จ.นครพนม นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาฯขึ้นป้ายขอบคุณมวลมหามิตรที่ร่วมกันสร้างขวัญกำลังใจมอบประกันโควิด-19ให้ อสม. และ ผวจ.นครพนม ประกาศว่าเงินที่นำมาซื้อประกันเป็นของนายศุภชัย ดังนั้นต้องเปิดเผยว่าเงิน 7 ล้านบาทที่นำมาซื้อประกัน เป็นของมวลมหามิตรคนไหนที่บริจาคเท่าไหร่ หากเป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้างงานไอที หรือร้านอาหารที่ผูกขาดในสภาฯเข้าข่ายขัดกันแห่งผลประโยชน์ตามกฎหมาย ป.ป.ช.เป็นรองประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ จริยธรรมต้องสูง
จี้ฉีดวัคซีนพื้นที่เสี่ยง-เรือนจำ
นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการระบาดของโควิด-19 ในพื้นที่เรือนจำทั่วประเทศว่า ขอเรียกร้องให้อธิบดีกรมราชทัณฑ์และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องออกมาแสดงความรับผิดชอบที่ปล่อยปละละเลยให้เกิดคลัสเตอร์เรือนจำ พร้อมเปิดเผยข้อมูลผู้ติดเชื้อโควิด-19 ตามระดับความรุนแรง เพื่อแยกการรักษา ขอให้เร่งฉีดวัคซีนให้ผู้ต้องขัง100% โดยเร็วที่สุด ส่วนที่รัฐบาลเตรียมเปิดให้ฉีดวัคซีนทั่วไปทั่วประเทศในเดือน มิ.ย.นั้น รัฐบาลอาจกำลังตีความข้อเสนอแนะการฉีดวัคซีนกับคนทุกกลุ่มของพรรคเพื่อไทย และภาคประชาชนตื้นเขินเกินไปเพราะวัคซีนยังมีจำกัดเพียง 6 ล้านโดส ดังนั้นควรเร่งฉีดให้คนที่มีความพร้อมเฉพาะในพื้นที่สีแดงเข้มและในเรือนจำก่อน หาก ศบค.ยังบ้ายุกระจายวัคซีนลอตนี้ไปทั่วประเทศแบบไม่มียุทธศาสตร์ วัคซีนจะกระจุกตัวในกลุ่มผู้มีอิทธิพลในแต่ละจังหวัด
เปิดสายด่วนช่วย “หมอพร้อม”
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า มอบหมายให้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ รองหัวหน้าพรรค ในฐานะหัวหน้าศูนย์ประสานงานสถานการณ์ฉุกเฉินโควิด-19 (ศปฉ.พปชร.) วางแนวทาง และให้ ส.ส.รับเรื่องจากประชาชนในพื้นที่มาประสานหน่วยงานสาธารณสุขทั่วประเทศเพื่อช่วยเหลือกรณีที่ประชาชนไม่สามารถลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน “หมอพร้อม” หรือขึ้นทะเบียนฉีดได้ โดยให้แจ้งความประสงค์ผ่าน ศปฉ.พปชร.ได้ที่สายด่วน 0-2939-1111 มีเจ้าหน้าที่บริการ 30 คู่สาย