พี่โทนี่ มาแล้ว "ทักษิณ" ควง "ยิ่งลักษณ์" บอก ตนเป็นนายกฯ ผจญโควิด-19 แพร่ระบาด คงไม่ปล่อยให้เศรษฐกิจ เป็นแบบนี้ ยอมรับ ตกใจ 4 วัน 7 แสนคน เทรนด์ “ย้ายประเทศกันเถอะ” ขึ้นอันดับ 1 จี้รัฐเปิดนำเข้าเสรีวัคซีน 

นายทักษิณ ชินวัตร ได้ร่วมพูดคุยในช่อง CARE Clubhouse x CARE Talk : คิดเคลื่อนไทย พลิกฟื้นวิกฤติโควิด กับ Tony Woodsome โดย ได้กล่าวถึงประเด็นเฟซบุ๊ก กรุ๊ป “ย้ายประเทศกันเถอะ” ที่มีผู้ติดตามหลายแสนคน ว่า ตกใจเหมือนกัน 4 วัน 7 แสนคน ผมว่าเราไม่พยายามจะเข้าใจประชาชน โดยเฉพาะ เจน Z เจน Y วิธีคิดเขามันไม่เหมือนเรา generation gap ไม่เข้าใจกัน เกิด Digital gap ความเข้าใจเป็นเรื่องธรรมดา แต่ความไม่อยากฟัง มีอำนาจจะใช้แต่อำนาจ ก็เป็นไปไม่ได้เลยที่จะไปเข้าใจ

“คนที่อยู่ใน 7 แสนนี้ อายุ 25-35 เยอะ หากมองย้อนไปสมัยเด็กๆ มีโรบินฮู้ดไปอยู่อเมริกาเยอะ บินไปเป็นนักท่องเที่ยวและก็อยู่จนได้กรีนการ์ด ก็มีลูกหลานเรียนอยู่เมืองนอก มีมาช้านาน มีทุกประเทศ เพราะทุกคนเกิดมาแล้ว จะดิ้นรนเพื่ออนาคตตัวเอง หากดิ้นรนแล้ว ไทยไม่มีหนทางให้เขา สมัยนี้ เขามีข้อมูลมากกว่าสมัยก่อน”

ต่อมา ผู้ร่วมเสวนารายหนึ่ง ได้ถามคำถามว่า หากเป็นนายกฯ จะทำอย่างไรกับปัญหานี้ จะทำอย่างไรให้คนรุ่นใหม่เข้าใจ ซึ่ง นายทักษิณ ตอบว่า “ถ้าผมเป็น คงไม่มีปัญหานี้เกิดขึ้น” ผมคงไม่ปล่อยให้เศรษฐกิจเป็นอย่างนี้ และไม่ปล่อยให้คนต้องอดตาย ฆ่าตัวตาย ผมไม่ปล่อยแน่ เราต้องคิดกับคนรุ่นใหม่ ไม่ใช่รุ่นเรา 60 กว่ามาคุยกัน มันไม่ทัน

ทั้งนี้ยังทิ้งท้ายว่า ต้องคิดด้วยสติ อย่ามีโลภ โกรธ หลง ต้องคิดด้วยสติ ไปแล้วก็อย่าเสียใจกับมัน สู้กับมันไปให้สุด

...

นอกจากนี้ ยังกล่าวถึงการแพร่ระบาดของโควิด-19 และการบริหารจัดการพื้นที่คลองเตย รวมถึงเรื่องวัคซีนที่ล่าช้าและยังได้กล่าวถึงการสร้างโรงพยาบาลสนามของรัฐบาล ในหลายพื้นที่ พร้อมเสนอทางออกในอีกมุม

อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า โรงพยาบาลสนาม มันไม่มีโซเชียล ดิสแทนซิ่ง (Social Distancing) ไม่มีอะไรกั้น ก็มีโอกาสที่เชื้อจะกระจาย โรงแรมวันนี้ไม่มีนักท่องเที่ยว โรงแรมระดับ 1-3 ดาว รัฐก็ไปเหมาไปทำที่กักตัวได้ คืนละ 500-800 มีอาหารเช้าให้ ห้องใครห้องมัน มีห้องน้ำในตัว ไปดูว่าทรัพยากรที่มี งบประมาณก็มี เอาไปใช้ช่วยโรงแรมที่เจอวิกฤติไม่ไหวแล้วจะต้องปิดกิจการแล้ว หรือร้านอาหารที่ปิดจะดีกว่าไหม จะได้ช่วยกันในตัวด้วย

นายทักษิณ กล่าวต่อว่า ต้องเดินหน้าฉีดวัคซีน สร้างความน่าเชื่อถือในวัคซีนให้กับประชาชนมั่นใจในการเข้ารับวัคซีน โดยเฉพาะในชุมชนคลองเตยต้องคัดแยกเอาคนป่วยออกจากคนไม่ป่วย ก่อนจะไปฉีดวัคซีน 

"ต้องเข้าใจว่าวัคซีนแม้จะเสี่ยงไม่มาก แต่มีความเสี่ยง เพราะทุกยี่ห้อ เป็นแบบฉุกเฉิน ปีเดียวอนุญาตเลย ถามว่า จะไม่มีผลตามมาเลยคงยาก แต่วันที่ไปฉีดอย่าตื่นเต้นจนความดันขึ้น กินให้พอนอนให้พอ มีแพ้บ้าง อัตราแพ้ต่ำ แต่คนเป็นโรคเสี่ยงควรจะไปฉีด ควรฉีดเพื่อความมั่นใจ" นายทักษิณ กล่าว      

นายทักษิณ กล่าวถึงกรณีการจัดหาวัคซีน ว่า วันนี้ต้องระดมจัดหาวัคซีนเนื่องจากเป็นเรื่องเร่งด่วน ไม่ใช่ใช้ระบบราชการอย่างเดียว ต้องใช้ความสามารถด้านอื่นๆ เช่น ความสัมพันธ์ หรือ ไปหยิบยืมวัคซีนมาก่อนได้ไหม ต้องใช้ทุกวิถีทางเพื่อให้ได้วัคซีน 
  
ขณะที่เรื่องการนำเข้าวัคซีนยี่ห้อ "ไฟเซอร์" นายทักษิณ กล่าวว่า จากการตรวจสอบจากเว็บไซต์ไฟเซอร์ พบว่าได้มีการนำเข้าในประเทศไทยแล้ว เนื่องจากแผนที่ในเว็บไซต์ เป็นสีเหลือง แสดงว่ามีการนำเข้ามาแล้ว 

"ผมงงว่า ทำไมเลือกวัคซีน เลือก 2 ยี่ห้อนี้ ในเมื่อทั้งโลกรู้ว่า ต้องไฟเซอร์ กับ โมเดอร์นา ถ้าจีน ต้องซิโนฟาร์ม ทำไมไทยเลือก 2 อันนี้ และทุกคนต้องไปซื้อจาก องค์การเภสัชกรรม ให้โรงพยาบาลไปซื้อต่อ วันนี้หากสั่งไม่ได้ ทำไมไม่ยืมมาก่อน อย่างสปุตนิก วี หากให้ 10 ล้าน เอามา ล้านนึงก่อนได้ไหม วันนี้วัคซีนยังไงก็ต้องใช้ รัฐบาลต้องเปิดเสรีนำเข้าวัคซีนได้แล้ว" นายทักษิณ กล่าว

ทั้งนี้ในระหว่างช่วงเปิดให้ผู้ร่วมวงสนทนาได้ถามคำถามทางนายทักษิณ มีผู้ร่วมวงได้ฝากความคิดถึงนางสาวยิ่งลักษณ์ อดีตนายกฯ หญิงของไทย โดยทางนางสาวยิ่งลักษณ์ก็ได้เข้ามาพูดทักทายกับผู้ร่วมสนทนา 

โดย นางสาวยิ่งลักษณ์ ได้ฝากความคิดถึงประชาชน และแสดงความเป็นห่วงประชาชนในชุมชนคลองเตย โดยอยากให้กำลังใจ ขอให้ทุกคนอย่าท้อ ระหว่างที่รอวัคซีนที่ไม่รู้จะมาถึงเมื่อไหร่ 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีบางช่วงบางตอนนายทักษิณ ได้บอกกับผู้ร่วมสนทนา ว่า ถ้าเป็นตนเป็นนายกฯ คงไม่ปล่อยให้เศรษฐกิจเป็นแบบนี้ คนต้องอดตาย รมควันตาย ไม่ปล่อยแน่ ซึ่งเป็นที่ถูกใจของผู้เข้าชม 

 #นายกในดวงใจ