"รังสิมันต์ โรม" ส.ส.ก้าวไกล จี้ "บิ๊กตู่" ลาออก ก่อนผ่านงบฯปี 65 หยัน ไม่กล้าเขี่ย ปชป.-ภูมิใจไทย พ้น ครม. บอก กรุงศรีฯ ใกล้จะแตก อ้าง เลยส่ง "ธรรมนัส" ลงใต้ ป่วน หาเสียงล่วงหน้า
วันที่ 2 พ.ค. นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงความระหองระแหงภายในพรรคร่วมรัฐบาล ว่า สะท้อนถึงปัญหาใหญ่ของประเทศที่ต้องปรับเปลี่ยนรัฐบาล เป็นไปได้ที่อยู่กับโควิด-19 มาปีกว่า แต่การแก้ไขสถานการณ์กลับแย่ลงๆ มีรัฐมนตรีไปเกี่ยวกับคลัสเตอร์โควิดระลอกล่าสุด แต่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.สาธารณสุข ที่ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงในการแก้ปัญหาจัดการวัคซีน ทุกสิ่งทุกอย่างแย่ลงไปหมด แต่รัฐบาลไม่มีการปรับครม. และไม่มีใครต้องรับผิดชอบอะไรเลย เหตุผลที่เป็นเช่นนี้ เพราะภายใต้รัฐธรรมนูญและโครงสร้างการเมืองแบบนี้ มันไม่สามารถปรับได้ เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่พล.อ.ประยุทธ์ ปรับเอานายอนุทินออก พรรคภูมิใจไทยก็จะไม่สนับสนุน ก่อนหน้านี้เรามีปัญหาเรื่องหน้ากากอนามัยขาดตลาด เราก็ไม่สามารถเอาประชาธิปัตย์ออกได้
นายรังสิมันต์ กล่าวว่า วันนี้กระแสวิจารณ์มันแรงมาก จน พล.อ.ประยุทธ์ ต้องพยายามรวบอำนาจ ทั้งที่ไม่ได้ทำงานดีกว่า หรือเก่งกว่าคนอื่น แต่ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร จึงพยายามหาเสียงล่วงหน้า ส่ง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ไปทำโน่นทำนี่เรียกคะแนนนิยม และเพื่อส่งสัญญาว่าไอ้คนที่ล้มเหลวของรัฐบาลนี้ไม่ใช่พลังประชารัฐ เรื่องสาธารณสุขล้มเหลว ไม่ใช่ความผิด พล.อ.ประยุทธ์ แต่เป็นความผิดของนายอนุทิน ขณะที่เรื่องราคาพริกตกต่ำ เกิดจากประชาธาธิปัตย์ล้มเหลว การลงไปแก้ไขปัญหาพืชผลการเกษตรตกต่ำ แล้วคุณลงไปภาคใต้ มันก็ชัดเจนว่าไปเจาะฐานเสียงของประชาธิปัตย์โดยตรง ไม่ยอมไปภาคอื่น แต่ไปภาคใต้ สังคมรู้ดีว่าประชาธิปัตย์จะสูญพันธุ์หรือไม่ อยู่ที่ภาคใต้ กลายเป็นว่าในสภาพที่กรุงศรีอยุธยาใกล้จะแตกแล้ว ใครฉกฉวยอะไรได้ก็ฉกฉวย ทำให้เห็นว่าการมารวมตัวกันของรัฐบาลในคราวนี้ ไม่สนว่าจะแก้ปัญหาได้จริง แต่สนว่าจะทำอย่างไรให้อยู่รอด และกลับมาได้ในการเลือกตั้งครั้งหน้า
...
“ทางออกของผมที่มองคือมีแค่วิธีเดียวคือ พล.อ.ประยุทธ์ต้องลาออก วันนี้หมดโอกาสเพราะมันเลยเส้นตายที่ประชาชนได้ขีดไว้เเล้ว ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ ลาออกจริงหวังว่า ส.ว.จะไม่เลือกกลับมาอีก แต่ลึกๆ เชื่อว่าถ้าพล.อ.ประยุทธ์ลาออกจริง ส.ว.คงไม่เลือกกลับมาแล้ว เพราะมันดูทุเรศไป แต่หากยุบสภาก็ไม่แน่ ส.ว.อาจจะเลือกกลับมาใหม่ก็ได้ ในสภาวะแบบนี้ถึงเวลาที่เราต้องมีมืออาชีพเพื่อเข้ามาแก้วิกฤตินี้จริงๆ จากนั้นค่อยยุบสภาและเลือกตั้งใหม่ ภายใต้กติกาที่เป็นธรรม ถามว่าต้องรอให้ผ่านงบฯปี 65 ก่อนแล้วไปยุบสภา ตามกระแสข่าวได้หรือไม่ หากเป็นเช่นนั้นจะต้องมีคนเสียชีวิตอีกกี่คน ติดโควิดเพิ่มกันอีกเท่าไร มันวิกฤติไปหมด ถ้าอยู่ต่อคนไม่ตายเพราะโควิด ก็ตายเพราะเศรษฐกิจ ต่อให้มีงบใหม่ ไม่เชื่อว่าจะเกิดการเปลี่ยนเเปลงมากกว่านี้ ประชาชนต้องถามตนเองว่ายังอยู่สภาพนี้ไปอีกได้ไหม ถ้ายังอยู่ได้ ตนก็เคารพความเห็นต่าง แต่ฟังจากเสียงประชาชนตอนนี้ เขาไม่เชื่อมั่นเเล้ว ก็ต้องช่วยกันกดดันให้ พล.อ.ประยุทธ์ลาออก ก่อนถึงวันที่เราจะผ่านงบฯปี 65” นายรังสิมันต์ โรม กล่าว.