ศบค.ชุดใหญ่ เคาะมาตรการเข้มโควิด-19 ปรับ 6 จังหวัดเป็นสีแดงเข้ม งดออกนอกพื้นที่โดยไม่มีเหตุจำเป็น ห้ามทานอาหารในร้าน ย้ำไม่เคอร์ฟิว เริ่มมีผล 1 พ.ค.นี้
เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 29 เม.ย. 2564 นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงข่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ครั้งที่ 6/2564 ถึงการปรับระดับของพื้นที่สถานการณ์ย่อยในพื้นที่ทั่วราชอาณาจักร มีหลักเกณฑ์ในการปรับ โดยพิจารณาหลายเหตุผลร่วมกัน ดังนี้
1. ลักษณะการระบาดในชุมชน โดยพิจารณาจากจำนวน และความต่อเนื่องพื้นที่ควบคุมสูงสุด และเข้มงวด มีผู้ป่วยมากกว่า 100 รายต่อวัน ใน 1 สัปดาห์พื้นที่ควบคุมสูงสุด มากกว่า 10 รายต่อวัน ใน 1 สัปดาห์
2. จังหวัดที่มีพื้นที่ติดกับพื้นที่ที่พบการระบาดอย่างต่อเนื่อง มากกว่า 1 จังหวัด
3. จังหวัดที่มีการระบาดในกลุ่มเสี่ยงที่มีโอกาสแพร่เชื้อได้ง่าย
4. จังหวัดที่ติดกับชายแดน และเคยมีผู้ติดเชื้อเดินทางเข้ามา
ทั้งนี้ จึงต้องมีการปรับสีของพื้นที่ โดยเพิ่มพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) 6 จังหวัด ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. เป็นต้นไป ดังนี้
- กรุงเทพมหานคร
- ชลบุรี
- เชียงใหม่
- นนทบุรี
- ปทุมธานี
- สมุทรปราการ
...
สำหรับมาตรการสำคัญในพื้นที่สีแดงเข้ม ประกอบด้วย
1. ให้พื้นที่กรุงเทพมหานคร จังหวัดชลบุรี จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดนนทบุรี จังหวัดปทุมธานี และจังหวัดสมุทรปราการ รวม 6 จังหวัด เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด
2. ห้ามการจัดกิจกรรมซึ่งมีการรวมกลุ่มของบุคคลที่มีจำนวนรวมกันมากกว่า 20 คน
3. มาตรการควบคุมสำหรับพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด กำหนดยกระดับมาตรการควบคุมแบบบูรณาการขึ้นเพิ่มเติม สำหรับพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด
(1) ร้านจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่มให้จำหน่ายอาหาร และเครื่องดื่มในลักษณะของการนำกลับไปบริโภคที่อื่นได้เท่านั้น โดยงดการบริโภคอาหาร เครื่องดื่ม สุราและเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในร้าน และเปิดให้บริการได้จนถึงเวลา 21.00 น.
(2) สนามกีฬา สถานที่เพื่อการออกกำลังกาย ยิม ฟิตเนส ให้ปิดให้บริการ ยกเว้นสถานที่ใช้เป็นเอกเทศตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ ส่วนสนามกีฬาหรือสถานที่เพื่อการออกกำลังกายประเภทกลางแจ้ง หรือที่ตั้งอยู่ในพื้นที่โล่งแจ้ง สามารถปิดให้บริการได้ไม่เกินเวลา 21.00 น. และสามารถจัดการแข่งขันกีฬาได้โดยไม่มีผู้ชมในสนาม สำหรับการแข่งขันกีฬาที่เคยได้รับอนุญาตจากนายกรัฐมนตรีให้จัดการแข่งขันได้ เมื่อได้มีการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคตามที่ทางราชการกำหนดแล้วให้สามารถจัดการแข่งขันได้ต่อไป
(3) ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ หรือสถานประกอบการอื่นที่มีลักษณะคล้ายกัน ให้เปิดดำเนินการได้ตามเวลาปกติของสถานที่นั้นๆ จนถึงเวลา 21.00 น. โดยให้จำกัดจำนวนผู้ใช้บริการและงดเว้นการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย ยกเว้นส่วนที่เป็นตู้เกม เครื่องเล่น ร้านเกม และสวนสนุก ที่งดการให้บริการ
(4) ร้านสะดวกซื้อ ซุปเปอร์มาร์เก็ต ตลาดนัดกลางคืน ตลาดโต้รุ่ง ถนนคนเดิน ให้เปิดดำเนินการได้ตามเวลาปกติของสถานที่นั้นๆ แต่ไม่เกินเวลา 23.00 น. สำหรับร้านหรือสถานที่ซึ่งตามปกติเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ให้เริ่มเปิดดำเนินการได้ในเวลา 04.00 น.
(5) การงดการเดินทางออกนอกพื้นที่ ให้ประชาชนที่อยู่ในเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดงดการเดินทางออกนอกพื้นที่โดยไม่มีเหตุจำเป็น เพื่อลดการเดินทางที่อาจเสี่ยงต่อการติดโรค
ส่วนพื้นที่ควบคุมสูงสุด (สีแดง) 45 จังหวัด และพื้นที่ควบคุม (สีส้ม) 26 จังหวัด ทั้งนี้ โฆษก ศบค. เน้นย้ำด้วยว่า ไม่ใช่การเคอร์ฟิว ไม่ใช่การล็อกดาวน์ เป็นการขอความร่วมมือ พร้อมขอให้งดการสังสรรค์ด้วย มีผลตั้งแต่ 00.01 น. ของวันที่ 1 พ.ค. 2564 และจะดำเนินมาตรการนี้เป็นเวลา 14 วัน เพื่อลดการติดเชื้อและดูแลประชาชนอย่างเข้มงวดมากขึ้น.