“ยุทธพงศ์” เปิดแผล รบ. แก้วิกฤติโควิดไร้ประสิทธิภาพ แฉอธิบดีอุตุฯติดเชื้อปกปิดไทม์ไลน์ จี้ “บิ๊กตู่” จัดการ “ณัฐพล” แจงทันควันยืนกรานไม่ได้ปกปิด เพื่อไทยส่งเสียงระงมบี้ “ประยุทธ์” ไขก๊อกแก้วิกฤติ “จิรายุ” ลับอีโต้รอชำแหละเงินกู้ “วัชรพงศ์” ซัดก้าวไกลไร้กาลเทศะ พรรคการเมืองพากันเปิดศูนย์สู้โควิดช่วยผู้ป่วยอีกแรง “จุรินทร์” รับไม่พอใจรัฐบาลส่ง “ธรรมนัส” คุมภาคใต้ ปักใจจ้องบอนไซฐานเสียง ปชป. กมธ.ห่วงปัดฝุ่นโครงการสวมงบฯ 4.5 หมื่นล้านก่อนชิงยุบสภาปลายปี ม็อบออนไลน์สวดไล่ลูกเดียว
ขณะที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กำลังตกเป็นเป้าโจมตีการแก้ปัญหาโควิด-19 ระบาดระลอก 3 จนเกิดความไม่เชื่อมั่นต่อตัวผู้นำถึงขนาดเรียกร้องให้ลาออก แต่ก็ไม่วายเกิดปมปัญหาตามมาต่อเนื่อง ล่าสุด ส.ส.พรรคเพื่อไทยออกมาเปิดแผลแฉมีข้าราชการระดับอธิบดีปกปิดไทม์ไลน์หลังติดเชื้อโควิด เข้าข่ายผิดกฎหมายจี้ให้นายกฯรับผิดชอบ
...
“โจ้” แฉอธิบดีอุตุฯปกปิดไทม์ไลน์
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 26 เม.ย. ที่พรรคเพื่อไทย นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แถลงว่า ได้รับแจ้งข้อมูลว่านายณัฐพล ณัฏฐสมบูรณ์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ติดเชื้อโควิด-19 แต่ไม่แจ้งไทม์ไลน์และไม่แจ้งเรื่องให้ผู้บังคับบัญชารับทราบ โดยวันที่ 9 เม.ย. นายณัฐพลไปตรวจที่ รพ.พระมงกุฎเกล้า พบติดเชื้อโควิด มีข้อมูลก่อน 9 เม.ย. พบว่านายณัฐพลพร้อมผู้บริหารกรมอุตุฯไปให้การต้อนรับ พล.ร.ท.จักรกฤช มะลิขาว เจ้ากรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ เซ็นเอ็มโอยูของกรมอุตุนิยมวิทยากับกองทัพเรือในวันที่ 7 เม.ย. เวลา 10.00 น. ที่อาคาร 50 ปี กรมอุตุฯ ทั้งนายณัฐพลและ พล.ร.ท.จักรกฤช ไม่มีใครสวมหน้ากากอนามัย อยู่ห่างกันไม่เกิน 50 ซม. เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อ และไม่มีใครรู้ว่าช่วงสงกรานต์นายณัฐพลไปไหนมาบ้าง เพราะตามข้อมูลนายณัฐพลไม่ได้รักษาตัวที่ รพ.พระมงกุฎเกล้า อยู่ไม่กี่วันก็หายไปใครอนุญาตให้ออกจาก รพ. และวันที่ 26 เม.ย. นายณัฐพลจะครบกำหนดกักตัว 14 วัน ไม่รู้จะกลับมาทำงานหรือไม่
จี้ “บิ๊กตู่” จัดการ ขรก.ไม่โปร่งใส
นายยุทธพงศ์กล่าวว่า กรณีที่เกิดขึ้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม จะรับผิดชอบอย่างไรในฐานะ ผอ.ศบค.ถ้าไม่จัดการแสดงว่าระบบราชการล้มเหลว มาตรา 9 พ.ร.ก.ฉุกเฉินระบุว่าผู้ใดปกปิดหรือแจ้งข้อมูลเท็จมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปีหรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ขอท้าถ้าไม่ใช่เรื่องจริงให้แจ้งความดำเนินคดีได้เลย วันที่ 26 เม.ย.จะไปยื่นหนังสือให้ พล.อ.ประยุทธ์ตรวจสอบ และยื่นให้ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เอาผิดนายณัฐพล ตอนที่ พล.อ.ประยุทธ์ทำรัฐประหารปี 2557 เคยออกคำสั่งมาตรา 44 ที่ 98/2557 เด้งนายณัฐพลพ้นจากอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรมเพราะมีข่าวความไม่โปร่งใสเรื่องใบอนุญาตโรงงาน แต่สุดท้ายก็เอากลับมาทำงานอีกจะรับผิดชอบอย่างไร และมีคนให้ข้อมูลว่าที่นายณัฐพลไม่แจ้งไทม์ไลน์ เชื่อว่าอาจพัวพันกับกรณีคริสตัลผับ ทองหล่อ
จวกระลอก 3 สาหัสแจกเงินน้อย
นายยุทธพงศ์กล่าวว่า ส่วนเรื่องการเยียวยาระลอกสามนั้น พล.อ.ประยุทธ์แจ้งว่า เตรียมงบไว้ 3.8 แสนล้านบาท มีประชาชนฝากถามว่า ปีที่แล้วโควิดระบาดน้อยกว่าปีนี้ รัฐบาลให้เงินเยียวยาเดือนละ 5,000 บาท 3 เดือน รวม 15,000 บาท แต่ปี 64 ระบาดหนักกว่า ประชาชนเพิ่งได้เงินเดือนละ 3,500 บาท แค่ 2 เดือน ถ้าบอกว่ามีงบ 3.8 แสนล้านบาท ขอให้รีบนำมาเยียวยาประชาชนให้เท่าปีที่แล้ว ถ้าจะล็อกดาวน์ต้องเอาเงินให้ประชาชนไว้จับจ่ายใช้สอยก่อน ส่วนเรื่องวัคซีนที่ระบุว่าไปเจรจาประเทศต่างๆได้วัคซีนมาเพิ่มแล้ว ขอให้ระบุชัดเจนว่าวันใดประชาชนจะได้ฉีดวัคซีน อย่ามาบอกสิ้นปี ประชาชนรอไม่ได้
อธิบดีอุตุฯยืนกรานไม่ได้ปกปิด
นายณัฐพล ณัฏฐสมบูรณ์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวว่า ติดเชื้อโควิดจริง เข้ารักษาที่ รพ.พระมงกุฎฯวันที่ 10 เม.ย.-24 เม.ย.64 อยู่ รพ.ได้ราว 6-7 วัน พออาการทุเลาได้ย้ายออกไปแอดมิต ที่ Hospitel จนกระทั่งกลับบ้าน หมอให้กักตัวอีก 14 วัน ได้แจ้งไทม์ไลน์กับแพทย์ รพ.พระมงกุฎฯโดยละเอียดไม่ได้ปกปิด คาดว่าติดเชื้อหลังไปรับประทานอาหารกับเพื่อนเย็นวันที่ 7 เม.ย. เพื่อน แจ้งว่าติดโควิดวันที่ 8 เม.ย. ไปตรวจวันที่ 9 เม.ย.พบเชื้อจึงแอดมิต ตรวจอีกครั้งผลออกวันที่ 12 เม.ย.ว่าติดเชื้อ ได้แจ้ง รมว.ดีอีเอส ผ่านทางไลน์ในวันเดียวกัน แต่ไม่ได้แจ้งปลัดดีอีเอส เพราะไม่ทราบระเบียบปฏิบัติ เพิ่งแจ้งไทม์ไลน์ต่อ น.ส.อัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย ปลัดดีอีเอสทราบ หลังจาก น.ส.อัจฉรินทร์โทรศัพท์มาสอบถามเมื่อวันที่ 21 เม.ย.
บี้ “ประยุทธ์” ไขก๊อกแก้วิกฤติ
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองหัวหน้าพรรค เพื่อไทย กล่าวว่า ยอดผู้ป่วยโควิดทำสถิตินิวไฮทุกวัน ไม่มีท่าทีจะลดลง กลุ่ม “หมอไม่ทน” เปิดแคมเปญบน www.change.org ล่ารายชื่อเรียกร้องให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข ลาออก 48 ชั่วโมง ทะลุ 60,000 คน รวมทั้งมีภาพหลุดคนหน้าคล้ายรัฐมนตรีในลักษณะไม่เหมาะสม อาจเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาแพร่ระบาดระลอก 3 พล.อ.ประยุทธ์จะลอยตัวเหนือปัญหาโยนเผือกร้อนให้คนอื่นตัดสินใจแทนทุกเรื่องไม่ได้ การเกิดวิกฤติศรัทธาอย่างหนักครั้งนี้พุ่งใส่รัฐบาลเต็มๆ พล.อ.ประยุทธ์ต้องเร่งตัดสินใจแก้ปัญหาก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป ระหว่างขับพรรคภูมิใจไทยออกกับรอให้ถอนตัว สิ่งใดจะเกิดขึ้นก่อน หรือ พล.อ.ประยุทธ์จะลาออกเปิดทางให้คนที่มีความพร้อมเข้ามาแก้ไขปัญหาแทน
“จิรายุ” ลับอีโต้รอชำแหละเงินกู้
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า หลังเปิดสมัยประชุมรัฐสภาเดือน พ.ค.มีข่าว พล.อ.ประยุทธ์และกระทรวงการคลังจะขอ รัฐสภาอนุมัติขยายวงเงินกู้ของประเทศ เนื่องจากสถานะการคลังไม่สู้ดี บริหาร 7 ปี กู้จนใกล้เต็มเพดานแล้ว ปีที่แล้วกู้ไป 1.9 ล้านล้านบาท บอกเอาไปแก้โควิด 1 ล้านล้านบาท ใช้ด้านสาธารณสุข 6 แสนล้าน แจกกระจายอีก 4 แสนล้านบาท เอาไปทำอะไรบ้าง ใช้เงินเป็นล้านล้านบาททำได้แค่นี้ ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ ทำไมประเทศไทยล้าหลังเพื่อนบ้านมีวัคซีนฉีดมีเตียงดูแลทางการแพทย์ได้มากกว่า แต่ที่ไทยต้องด่าลงโซเชียลถึงจะเข้าไปดูแล ประชาชนอยู่วิตกจริตเสี่ยงไปตามยถากรรม หากรัฐบาลขออนุมัติกู้เพิ่มกับรัฐสภาจะขอประณามความไร้กึ๋นไร้น้ำยา ฝ่ายค้านจะลับอีโต้อภิปราย พล.อ.ประยุทธ์ให้ประชาชนรู้ว่าเงินเป็นล้านล้านบาทที่กู้ไปแก้โควิดหายไปไหน ผลที่ประชาชนต้องรับกรรมวันนี้เพราะอะไร
ผวา กทม.ไม่เหลียวแลขยะติดเชื้อ
นายปวิน แพทยานนท์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ก.เขต บางคอแหลม พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ได้ลงพื้นที่ชุมชนซอยเจริญราษฎร์ 5 เขตบางคอแหลม กทม.เมื่อวันที่ 24 เม.ย. เพื่อช่วยเหลือผู้สูงอายุ 6 รายติดโควิดทั้งบ้าน และมียายวัย 85 ปี เสียชีวิตระหว่างรอการช่วยเหลือที่บ้าน ชาวบ้านมีเสียงสะท้อนว่า หลังคุณยายและผู้อาศัยในบ้านถูกรับตัวไปรักษาตามระบบแล้ว ขยะจำนวนมากจากภายในบ้านคุณยายถูกนำใส่ถุงมากองรวมกันที่ถนนหน้าบ้าน สร้างความกังวลในชุมชนว่าขยะติดเชื้อหรือไม่ ชาวบ้านแจ้งเรื่องไปที่หน่วยงานรัฐให้เก็บขยะไปทำลาย เจ้าหน้าที่อ้าง กทม.จะมาเก็บ ผ่านไป 3 วันยังไม่มาเก็บ ขอให้หน่วยงานที่รับผิดชอบรีบนำขยะไปทำลายไม่ให้เกิดระบาดซ้ำ
“ธนกร” ครวญนายกฯผิดอะไรต้องออก
นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กรณีที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า เสนอให้ พล.อ.ประยุทธ์ลาออกให้คนอื่นจัดการแก้ไขปัญหาโควิดและแก้รัฐธรรมนูญ นายธนาธรก็เหมือนนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.พรรคก้าวไกล ลูกพรรคเก่าที่เป็นบุคคลที่ล้มเหลวด้านความน่าเชื่อถือ พูดทุกอย่างเพื่อการเมือง ไอเดียบรรเจิดฟังแล้วเคลิ้ม แต่ ทำไม่ได้สักอย่าง เล่นแต่การเมืองบนความทุกข์ร้อนของประชาชน พล.อ.ประยุทธ์ทำผิดอะไรจึงต้องลาออก ที่ผ่านมาอดีตนายกฯบางคนทุจริตคอร์รัปชัน ก็ไม่เห็นจะลาออกเลย นายธนาธรควรเอาเวลาไปเตรียมต่อสู้คดีต่างๆของตัวเองและครอบครัวดีกว่า
“วัชรพงศ์” ซัดก้าวไกลไร้กาลเทศะ
นายวัชรพงศ์ คูวิจิตรสุวรรณ เลขานุการ รมว.สาธารณสุข กล่าวถึงกรณีที่พรรคก้าวไกลออกแถลงการณ์เรียกร้องให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.สาธารณสุข ลาออกว่า การเปลี่ยนม้า กลางศึกเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำที่สุด เรากำลังทำสงครามกับโควิด หากจำกันได้นายอนุทินคือขุนพลที่เอาชนะการระบาดรอบ 2 นำไทยชนะมา 2 ศึก ครั้งที่ 3 กำลังอยู่ในช่วงเวลาของการสู้รบไปพร้อมกัน พรรคก้าวไกลเล่นไม่รู้กาลเทศะเอาความเสียหายของบ้านเมืองมาสนองตัณหาของตัวเอง ทำทุกทางให้การบริหารประเทศมีปัญหา จับแพะชนแกะเพื่อเล่นงานทางการเมือง
พรรคการเมืองเปิดศูนย์สู้โควิด
ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ แถลงเปิดศูนย์ประสานงานสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศปฉ.ปชป.) โควิด-19 เพื่อช่วยประสานคลี่คลายปัญหาผู้ป่วยตกค้างให้เข้ารับการรักษาโดยเร็วที่สุด นายเฉลิมชัยกล่าวว่า พรรคเห็นควรที่จะเข้ามามีส่วนร่วมดูแลทุกข์สุขของประชาชน สนับสนุนภาครัฐอีกทางหนึ่ง อยากให้ทุกฝ่ายทุกกลุ่มร่วมกันแก้วิกฤติที่เกิดขึ้น วันนี้ถ้าคุณไม่รักประเทศไทยก็ขอให้รักคนไทยบ้าง ช่วยกันแก้ไขวิกฤติให้ผ่านไปก่อน
น.ส.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ส.ส.กทม.โฆษกพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐสั่งการให้ตั้งศูนย์ประสานงานสถานการณ์ฉุกเฉินโควิด-19 เพื่อประสานงานร่วมกับหน่วยงานภาครัฐผ่านหัวหน้าภาคทั้ง 10 ภาคของพรรค
ด้านคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรคไทยสร้างไทย นำคณะลงพื้นที่เขตลาดพร้าว บางเขน บางกะปิ เร่งช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ที่พบผู้ติดเชื้อ ฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อทั้งหมู่บ้าน แจกเจลแอลกอฮอล์และหน้ากากอนามัย ขณะที่นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคกล้า กล่าวว่า พรรคจัดตั้งศูนย์ “กล้าสู้โควิด” เป็นอีกช่องทางรับเรื่องร้องเรียน ช่วยผู้ป่วยหาเตียงหารถ ผู้ติดเชื้อสามารถแจ้งมายังเฟซบุ๊กของพรรคกล้าได้ทันที
เพื่อไทยหนุนตั้งไอซียูสนาม
น.ส.อรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยขอเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งทำตามข้อเสนอภาคเอกชน 1.ประสานความร่วมมือมูลนิธิที่มีศักยภาพขนย้ายผู้ป่วย เร่งขนย้ายผู้ติดเชื้ออาการไม่รุนแรงตามที่พักอาศัยเข้าสู่การดูแลของแพทย์ 2.เปิดรับความช่วยเหลือจากภาคเอกชนในระบบการรับโทรศัพท์สายด่วน 3.เร่งจัดทำไอซียูสนามรองรับผู้ป่วยหนัก ประสานแล็บเอกชนนำเครื่องมือการแพทย์เข้ามาช่วย 4.เร่งเบิกใช้งบกลางฉุกเฉินไปจัดซื้อยาอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็น 5.เร่งจัดหาวัคซีนให้รวดเร็วจริงจังมากยิ่งขึ้นจากแผน ที่กำหนด เวลานี้เราไม่ได้รบกับโควิดแต่กำลังรบกับกลไกภาครัฐที่ไม่ทันท่วงทีกับการระบาด พรรคเพื่อไทยพร้อมนำองคาพยพทั้งหมด ประสานช่วยเหลือโดยจะแถลงรายละเอียดวันที่ 26 เม.ย.
“จุรินทร์” รับไม่ปลื้ม “ธรรมนัส” คุมใต้
ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงคำสั่งนายกรัฐมนตรี มอบหมายให้รัฐมนตรีรับผิดชอบแนวคิดการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกันที่เปลี่ยนพื้นที่รับผิดชอบโดยเฉพาะให้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ดูแลพื้นที่ จ.สงขลา นครศรีธรรมราช และภูเก็ตว่า ยอมรับรัฐมนตรีพรรคไม่พอใจกับคำสั่งดังกล่าว และได้หารือกันทันที มอบหมายนายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กับนายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย แจ้งให้นายกฯและผู้เกี่ยวข้องทราบตั้งแต่วันที่ 20 เม.ย. และก่อนประชุม ครม. เช้าวันที่ 20 เม.ย. นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ได้รับมอบจากนายกฯให้แจ้งต่อที่ประชุม ครม.ทราบว่าจะทบทวนคำสั่งให้นายวิษณุไปแก้ไข ถ้ายุติได้เร็วจะเป็นการดี เรื่องจะได้ไม่บานปลายโดยไม่จำเป็น
ปักใจจ้องบอนไซฐานเสียง ปชป.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ตั้งข้อสังเกตว่า คำสั่งให้ ร.อ.ธรรมนัส ซึ่งเดิมดูแลพื้นที่ จ.พะเยา เชียงราย และหนองบัวลำภู แต่กลับให้มาดูแล จ.สงขลา นครศรีธรรมราช และภูเก็ตที่เป็นความรับผิดชอบเดิมของนายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย ที่ดูแลสงขลากับนครศรีธรรมราช 2 จังหวัด และยังให้ ร.อ.ธรรมนัส ดูแลภูเก็ตเพิ่มรวมเป็น 3 จังหวัด มองว่าเป็นการเตรียมพื้นที่เลือกตั้งในอนาคตของพรรค พปชร. ที่สำคัญรัฐมนตรีจากพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ว่าจะเป็นนายจุติ ไกรฤกษ์ ส.ส.พิษณุโลก ซึ่งเคยดูแลพื้นที่ จ.พิษณุโลก กลับถูกตัดออกไป นายสินิตย์ เลิศไกร รมช.พาณิชย์ ซึ่งเป็น ส.ส.สุราษฎร์ธานี กลับไม่ได้ดูแล จ.สุราษฎร์ธานี ถูกส่งไปดูแลภาคอีสาน คือ จ.หนองบัวลำภู กับร้อยเอ็ด คุณหญิงกัลยา โสภณพานิช แต่เดิมดูแล จ.ราชบุรี ก็ถูกตัดออกไป
กมธ. ห่วงปัดฝุ่นโครงการสวมงบฯ
นายไชยา พรหมา ส.ส.หนองบัวลำภู พรรคเพื่อไทย ประธานกรรมาธิการศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงความคืบหน้าการติดตามตรวจสอบงบประมาณฟื้นฟูเศรษฐกิจท้องถิ่นและชุมชนบนพื้นฐานของโอกาสและศักยภาพของท้องถิ่นวงเงิน 4.5 หมื่นล้านบาท ว่า ทราบว่าแต่ละจังหวัดจะสรุปโครงการต่างๆของส่วนราชการส่งให้กระทรวงมหาดไทยพิจารณา เป็นห่วงว่าอาจมีลักษณะเป็นโครงการเก่าที่เคยเสนอมาในโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากโควิด 4 แสนล้านบาท แต่ไม่ผ่านการอนุมัติอาจถูกนำเสนอกลับมาใหม่ โดยโยกมาอยู่ในงบฟื้นฟู 4.5 หมื่นล้านบาทของมหาดไทยครั้งนี้ แทน มองเป็นอื่นไม่ได้ว่าเอื้อประโยชน์ทางการเมือง
ประเมินแล้วชิงยุบสภาปลายปี 64
นายไชยากล่าวว่า ขณะนี้รัฐบาลถูกปัญหารุมเร้ามาก แก้ปัญหาโควิดล้มเหลว มีกระแสให้เปลี่ยนตัวรัฐมนตรี และนายกฯ อาจทำให้รัฐบาลตัดสินใจชิงยุบสภาแก้ปัญหา ภายหลังจากงบปี 65 ผ่านรัฐสภา และมีผลบังคับใช้ในเดือน ต.ค.64 เป็นไปได้อาจยุบสภาเดือน พ.ย.-ธ.ค.64 ให้จัดเลือกตั้งใหม่ โดยที่รัฐบาลยังมีความได้เปรียบเรื่องงบฯและกติการัฐธรรมนูญฉบับเดิมที่ 250 ส.ว. ยังคงอยู่ ทำให้กลุ่มอำนาจเดิมยังมีความได้เปรียบในการฟอร์มรัฐบาลชุดใหม่ ตัวนายกฯอาจไม่ใช่ พล.อ.ประยุทธ์ คงกลับมาลำบาก แต่ยังเป็นทีมในกลุ่มอำนาจเดิม ยังไม่รู้ว่าเป็นใคร โดย ส.ว.จะมีส่วนสำคัญในการกำหนดตัวนายกฯใหม่
“ชวลิต” กล่อมให้เสียสละลาออก
นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เมื่อผู้บริหารไม่มีประสิทธิภาพ ทางออกทางการเมืองมี 2 ทาง คือ ยุบสภา หรือนายกฯลาออก การยุบสภาไม่มีเหตุผล หากยุบสภาต้องใช้หลายเดือนกว่าจะได้เวลารัฐบาลใหม่ ไม่ทันการแก้ปัญหาประเทศ การยุบสภาจึงไม่เหมาะสม ทางออกที่เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันคือ นายกฯควรลาออก พล.อ.ประยุทธ์ขาดความเชื่อมั่นจากทุกภาคส่วน ยิ่งอยู่ยิ่งเสื่อมทรุด การลาออกไม่ใช่การละทิ้งหน้าที่ แต่เป็นการเสียสละเพื่อบ้านเมือง เมื่อได้นายกฯคนใหม่ให้มาบริหารยับยั้งโควิด แก้รัฐธรรมนูญใช้เวลาบริหารประเทศ 1 ปีครึ่ง แล้วยุบสภา หวังจะเห็นสปิริตพล.อ.ประยุทธ์ลาออกเพื่อเสียสละ
แนะทางรอดนายกฯเปิดใจจับเข่าคุย
นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี อดีตรองนายกฯ และ รมช.สาธารณสุข กล่าวว่า สถานการณ์ขณะนี้รัฐบาลต้องใจกว้างเปิดรับฟังให้ระดมทุกฝ่ายฟื้นฟูเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ทำอย่างไรให้มีเวทีนั่งคุยกันอย่างเอาจริงเอาจัง ต้องเปลี่ยนวิธีคิด ข้อเสนอของเยาวชนออกมาเรียกร้อง เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยไม่เป็นไร ต้องมาคุยกัน อย่าตั้งป้อมแล้วบอกไม่เห็นด้วยจับเข้าคุกไป แบบนี้ทำให้ความร่วมมือร่วมใจไม่เกิดขึ้น หากไม่ทำประเทศไปไม่รอด รัฐบาลก็ยิ่งไปไม่รอด ควบคุมโควิดไม่ได้ เศรษฐกิจพังพินาศไปเรื่อยๆ ภาวะผู้นำของนายกฯก็ลำบาก คงรักษารัฐนาวาลำนี้ไม่ได้ รัฐบาลอย่าปิดตัวเอง รัฐบาลทำเองไม่ได้แล้ว วันนี้ต้องเปิดให้ทุกคนมีส่วนร่วมมากที่สุด
ม็อบสามัคคีประชาชนไล่ลูกเดียว
ด้านการชุมนุมออนไลน์ของกลุ่มสามัคคีประชาชนเพื่อประเทศไทยจัดกิจกรรม “ไทยไม่ทน” เมื่อเวลา 13.00 น. สถานีโทรทัศน์พีซทีวี ซอยรามอินทรา 40 นายไทกร พลสุวรรณ แกนนำอีสานกู้ชาติ กล่าวว่า ประชา ชนไม่เชื่อถือพล.อ.ประยุทธ์ จัดการโควิดล้มเหลว บางคนที่ติดเชื้อนอนรอให้คนมารับไป รพ.จนเสียชีวิต ยังจะมาตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จไม่มีใครเชื่ออีกแล้ว ถ้าจะให้ประชาชนรอด พล.อ.ประยุทธ์ ต้องออกไป หยุดวงจรหายนะที่สร้างไว้ ขณะที่นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติพฤษภา 2535 กล่าวว่า ทำไมรัฐบาลต้องซื้อวัคซีนจากเอกชนบางเจ้า ควรมีมโนสำนึกความเป็นมนุษย์บ้างค้าขายกับความตายของคนในชาติ คนไทยต้องเสี่ยงรับวัคซีนที่มีประสิทธิภาพต่ำ ส่วนการใช้กฎหมายสองมาตรฐานเราจะฟ้องกลับตาต่อตาฟันต่อฟัน ผบ.ตร. รอง ผบ.ตร.ที่มีปัญหาเรื่องบ่อนการพนันให้ระวังให้ดี จากนี้เราจะไม่ยอมให้ทำกับพวกตนฝ่ายเดียว
“จตุพร” ยุ “อนุทิน” เผ่นก่อนถูกถีบ
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. กล่าวว่า ตอนนี้มีการเข้าชื่อขับไล่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รมว.สาธารณสุข อย่างรวดเร็วถึง 8 หมื่นรายชื่อ ในเวลาเพียงไม่กี่วัน แล้วจะเอานายธนาคารมาเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ นายอนุทินและพรรคภูมิใจไทย หากไม่อยากถูกถีบออกมา ก็รีบออกมา เชื่อว่า “ประยุทธ์” จะไปเร็วเดือน พ.ค. รอดยาก สภาพข้างในเละเทะชนิดที่ไม่มีใครกล้ากินน้ำร่วมกัน เพราะกลัวถูกวางยา
ปักหลักกิน-นอน-เรียนหน้าศาล
เมื่อเวลา 17.30 น. ที่บริเวณหน้าศาลฎีกา ถนนราชดำเนินใน ตรงข้ามท้องสนามหลวง กลุ่มพลเมืองโต้กลับ นำโดยนายพันธ์ศักดิ์ ศรีเทพ ยังคงนัดหมายรวมตัวทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ “ยืน หยุด ขัง 112 นาที” ต่อเนื่องเป็นวันที่ 33 เพื่อเรียกร้องสิทธิประกันตัวให้กับแกนนำม็อบราษฎร ที่ถูกดำเนินคดีข้อหา มาตรา 112 และแนวร่วมม็อบราษฎรที่ถูกคุมขังในคดีอื่นๆ โดยมีแนวร่วมกลุ่มธรรมศาสตร์และการชุมนุม มาร่วมกิจกรรมและประกาศยกระดับการรณรงค์เรียกร้องให้ศาลยุติธรรมปล่อยตัวด้วยการตั้งหลักกิน-นอน-เรียน หน้าศาลฎีกาตลอด 24 ชั่วโมง จนกว่าผู้ถูกคุมขังทั้งหมดจะได้รับการปล่อยตัว เพราะแกนนำและแนวร่วมที่ถูกคุมขังทุกคนเป็นผู้บริสุทธิ์