นายกรัฐมนตรี ตบโต๊ะ ย้ำใน 1 เดือน ต้องฉีดวัคซีนโควิดให้ครบทุกกลุ่ม วางแผนฉีดให้บุคลากรทางการแพทย์ สายงานอื่นที่สัมผัสผู้ป่วยอย่างทั่วถึง ในพื้นที่ระบาดหนัก เป็นกลุ่มแรก

วันที่ 16 เมษายน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ ผอ.ศบค. กล่าวในการแถลงข่าวของ ศบค. โดยระบุว่า ในเรื่องของการฉีดวัคซีนนั้น ที่ตอนนี้ประเทศไทยมีอยู่ 1.3 ล้านโดส และเดือนหน้าจะเข้ามาอีกประมาณ 1.5 ล้านโดส ซึ่งตนได้สั่งการให้วางแผนเป็นรายสัปดาห์ ว่าสัปดาห์หนึ่ง จะฉีดให้บุคลากรทางการแพทย์ สายงานอื่นที่สัมผัสผู้ป่วยอย่างทั่วถึง ในพื้นที่ระบาดหนัก 

จากนั้น สัปดาห์ต่อไปจะระดมฉีดให้ประชาชนในพื้นที่ระบาดหนัก บุคลากรทางการแพทย์ และสายงานอื่นที่สัมผัสผู้ป่วยอย่างทั่วถึง ในพื้นที่ระบาดปานกลาง ต่อมาสัปดาห์ที่ 3 จะฉีดให้ประชาชนในพื้นที่ระบาดปานกลาง และจะฉีดให้บุคลากรทางการแพทย์ สายงานอื่นที่สัมผัสผู้ป่วยอย่างทั่วถึง ในพื้นที่ระบาดเบา และสุดท้าย ระดมฉีดให้ประชาชนในพื้นที่ระบาดเบา ทั้งหมดนี้ จะต้องฉีดให้ครบทุกกลุ่ม 1 เดือนจะต้องทำให้ชัดเจน โดยเพิ่มปริมาณวัคซีน และการฉีดวัคซีน 

สำหรับมาตรการจัดหาวัคซีนเพิ่มเติมนั้น ได้ติดต่อไปยังผู้ผลิตหลายเจ้า อยู่ที่ว่าจะขายหรือไม่ขายให้ เนื่องจากที่ผ่านมา มีปัญหาจากการที่เราไม่ได้ติดต่อทั้งหมด เนื่องจากต้องไปลงทุนกับผู้ผลิตด้วย ซึ่งงบประมาณมหาศาล แต่โชคดีที่ประสบความสำเร็จจากแอสตราเซเนกา และหลังจากมิถุนายนไปแล้ว ก็จะมีวัคซีนที่ผลิตในประเทศจำนวนมาก ซึ่งก็จะทยอยส่งให้เรา เป็นปริมาณที่มาก ซึ่งคำนวณแล้วว่า จะฉีดให้ได้เร็วที่สุดภายในปีนี้ อย่างน้อย 60%

นอกจากนี้ นายกฯ ยังย้ำด้วยว่า วัคซีนที่ไทยมีอยู่นั้น ใช้ได้กับโควิดสายพันธุ์อังกฤษ ที่กำลังระบาดอยู่ในประเทศไทยขณะนี้ ซึ่งเราก็ระวังสายพันธุ์อื่นๆ อย่างแอฟริกาด้วย ที่สำคัญไม่อยากให้เคลื่อนย้ายกันมากขณะนี้ ที่สำคัญคนที่รู้ตัวว่าไปที่เสี่ยงมา ก็อย่าเอาตัวเองไปที่อื่นอีก

...