ปล่อยตัวชั่วคราวแบบมีเงื่อนไข “หมอลำแบงค์” หลังศาลอาญาตีราคาประกัน 2 แสนบาท ส่วน “ไผ่-สมยศ” ให้ยกคำร้อง เหตุมีพฤติการณ์เป็นอุปสรรคต่อการพิจารณาคดีในศาล อีกทั้งคำแถลงไม่น่าเชื่อถือขณะที่ตำรวจพหลโยธินสรุปสำนวนให้อัยการคดี “โตโต้” การ์ดวีโว่ รวม 45 คน วางแผนป่วนชุมนุมหน้าศาลอาญา นัดฟังคำสั่ง 22 เม.ย. ด้านกลุ่มศาลายาประชาธิปไตย เลื่อนจัดกิจกรรมระลึก 10 เมษายน 53 เหตุโควิดระบาดหนัก ส่วน “ธิดา” อดีตประธาน นปช.ยันจัดงานรำลึก 11 ปี เมษาเลือด แบบไม่มีนัยการเมืองแฝง พิธีไม่เกิน 2 ชั่วโมงจบแล้วแยกย้ายกลับ
ความคืบหน้าในการดำเนินคดีแกนนำคณะราษฎรที่โดนคดี ม.112 และการเคลื่อนไหวขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี วันที่ 9 เม.ย. ที่ศาลอาญา ศาลนัดฟังคำสั่งคำร้องขอปล่อยชั่วคราวคดีที่นายปติวัฒน์ สาหร่ายแย้ม หรือหมอลำแบงค์ จำเลยที่ 3 นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข จำเลยที่ 4 และนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน จำเลยที่ 7 คดีร่วมกันชุมนุม 19 กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร กรณีชุมนุมวันที่ 19-20 ก.ย.63 ที่ ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์-สนามหลวง เกี่ยวกับความผิดฐานหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ ตาม ป.อาญา ม.112, ยุยงปลุกปั่นฯ ม.116 และอื่นๆได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว เสนอเงื่อนไขหากได้ประกันตัวจะไม่ปราศรัยพาดพิงสถาบันพระมหากษัตริย์อีก ศาลเบิกตัวจำเลยจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ มาฟังคำสั่ง ขณะที่นายวิบูลย์ บุญภัทรรักษา หรือทนายอู๊ด บิดาของไผ่ ดาวดิน, นางสุรีย์รัตน์ ชิวารักษ์ มารดาของนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน รวมถึงนายประจักษ์ ก้องกีรติ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ มาศาลด้วย
...
ต่อมาเวลา 15.00 น. ศาลอาญา มีคำสั่งอนุญาตปล่อยชั่วคราวจำเลยที่ 3 นายปติวัฒน์ สาหร่ายเเย้ม หรือหมอลำแบงค์ ตีราคาประกัน 200,000 บาท มีเงื่อนไขห้ามมิให้กระทำการในลักษณะเช่นเดียวกับที่จำเลยถูกกล่าวหาตามฟ้องเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ซ้ำอีก หรือไปร่วมกิจกรรมที่อาจทำให้เสื่อมเสียแก่สถาบันพระมหากษัตริย์ ห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากศาล และให้จำเลยมาศาลตามกำหนดนัดโดยเคร่งครัด และแจ้งให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองทราบ
แต่ส่วนของนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข จำเลยที่ 4 และนายจตุภัทร์ หรือไผ่ ดาวดิน บุญภัทรรักษา จำเลยที่ 7 ศาลมีคำสั่งว่า แม้จะให้ถ้อยคำในชั้นไต่สวนขอปล่อยชั่วคราวเช่นเดียวกับจำเลยที่ 3 แต่ปรากฏข้อเท็จจริงภายหลังว่าเมื่อวันที่ 8 เม.ย.64 ศาลนัดสอบคำให้การตรวจพยานหลักฐานและกำหนดวันนัดสืบพยานคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ. 287/2564 จำเลยที่ 4 และ 7 และทนายจำเลยที่ 4 และ 7 ไม่ยอมลงลายมือชื่อในรายงานโดยไม่มีเหตุอันสมควร มีเพียงจำเลยที่ 3 และทนายความจำเลยที่ 3 ที่ลงลายมือชื่อในรายงานกระบวนพิจารณา
อีกทั้งทนายจำเลยที่ 4 และที่ 7 นำรายงานกระบวนพิจารณาไปเขียนข้อความเพิ่มเติมโดยไม่ได้รับอนุญาตจากศาล ระบุว่าทนายจำเลยที่ 1, 2 ที่ 4-22 ไม่ขอลงชื่อเนื่องจากไม่ยอมรับกระบวนการพิจารณา กลับมีพฤติการณ์จะไม่ยอมไปกำหนดวันนัดสืบพยานที่ศูนย์นัดความ และยื่นคำร้องขอถอนทนายความ ทำให้การกำหนดวันนัดสืบพยานเป็นไปด้วยความยากลำบากเป็นอุปสรรคและก่อให้เกิดความเสียหายต่อการดำเนินคดีในศาล ข้อความและคำแถลงของจำเลยที่ 4 และที่ 7 ว่าจะปฏิบัติตามเงื่อนไขที่แถลงไว้ต่อศาล ไม่น่าเชื่อถือว่าปฏิบัติตามที่แถลงไว้ต่อศาลได้ ในชั้นนี้ไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว ให้ยกคำร้อง จากนั้นศาลออกหมายปล่อยนายปติวัฒน์ สาหร่ายแย้ม ส่วนจำเลยอื่นนำตัวกลับเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯทันที
ก่อนนี้เมื่อเวลา 10.00 น. ที่สำนักงานอัยการสูงสุด พนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน นำผู้ต้องหาสำนวนคดีพร้อมความเห็นสมควรฟ้องนายปิยรัฐ จงเทพ หรือโตโต้ อายุ 31 ปี หัวหน้าการ์ดวีโว่กับพวก 45 คนมาส่งให้อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 7 พิจารณาสั่งคดีในความผิดฐานเป็นอั้งยี่ และเป็นซ่องโจร ฯลฯ กรณีเหตุการณ์เมื่อค่ำวันที่ 6 มี.ค.64 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนพฤติการณ์การกระทำความผิดของกลุ่ม Wevo มีนายปิยรัฐ หรือโตโต้ จงเทพ ผู้ต้องหาที่ 1 เป็นหนึ่งในแกนนำ ได้ข่าวในเชิงลึกในวันที่ 6 มี.ค. จะนัดรวมกลุ่มกันที่อาคารลานจอดรถ ห้างสรรพสินค้าเมเจอร์ รัชโยธิน วางแผนก่อเหตุสร้างสถานการณ์ให้เกิดความรุนแรง โดยผู้ต้องหาทั้งหมดมารายงานตัวกับพนักงานอัยการ ยกเว้นนายปิยรัฐ อยู่ระหว่างอายัดตัวไปดำเนินคดีข้อหาหมิ่นประมาทดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ มาตรา 112 ที่ จ.กาฬสินธุ์ ผู้ต้องหาทั้งหมดให้การปฏิเสธ ทั้งนี้ พนักงานอัยการได้รับสำนวนคดีและผู้ต้องหาทั้งหมดเพื่อพิจารณาพยานหลักฐาน กับให้ทำสัญญาประกันตัวไปตามหลักฐานทรัพย์เดิมชั้นสอบสวน ก่อนนัดให้มาฟังคำสั่งฟ้องหรือไม่ ในวันที่ 22 เม.ย. เวลา 10.00 น.
ต่อมาช่วงบ่ายที่ศาลอาญานางสุรีรัตน์ ชิวารักษ์ แม่นายพริษฐ์ หรือเพนกวิน ชิวารักษ์ และบรรดาญาติจำเลยอื่นๆได้ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวนายพริษฐ์จำเลยที่ 1 นายอานนท์ นำภา จำเลยที่ 2 น.ส.ปนัสยา หรือรุ้ง สิทธิจิรวัฒนกุล จำเลยที่ 5 นายภาณุพงศ์ หรือไมค์ ระยอง จาดนอก จำเลยที่ 6 และนายไชยอมร หรือแอมมี่ แก้ววิบูลย์พันธุ์ จำเลยที่ 17 รวม 5 คน ในคดีที่ถูกฟ้องร่วมกับแนวร่วมม็อบคณะราษฎรในความผิดฐานดูหมิ่นสถาบันฯ ร่วมกันมั่วสุมชุมนุมฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112, 116 และข้อหาอื่นที่เกี่ยวข้องกรณีการชุมนุมปักหมุดท้องสนามหลวง เมื่อวันที่ 19-20 ก.ย.63 ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า คดีนี้ศาลอาญาและศาลอุทธรณ์เคยมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยทั้ง 5 คนมาแล้ว โดยอธิบายเหตุผลไว้อย่างชัดเจน ในชั้นนี้ ไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิมให้ยกคำร้อง มีรายงานว่า ขณะนี้แกนนำม็อบคณะราษฎรทั้ง 5 คน ไม่ได้ประกันตัวตั้งแต่วันที่ 8 มี.ค.64 ถูกคุมขังมาแล้วเป็นระยะเวลา 1 เดือน จะถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร และทัณฑสถานหญิงกลางต่อไป
ต่อมาเวลา 18.00 น. ที่หน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร นายปติวัฒน์ สาหร่ายเเย้ม หรือหมอลำแบงค์ ได้เดินออกมาจากประตูเรือนจำในชุดเสื้อยืดสีขาว กางเกงขาสั้นสีนำเงิน ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม พร้อมกล่าวว่า จะไม่ให้สัมภาษณ์เพราะกลัวผิดเงื่อนไขศาล ต้องป้องกันตัวเองและป้องกันผู้สื่อข่าวด้วย ยังไม่ทราบรายละเอียดว่าเงื่อนไขของศาลมีอะไรบ้าง และต้องให้เกียรติทางเรือนจำด้วย หลังจากนี้จะให้ทนาย เป็นผู้ชี้แจง และจะเดินทางกลับบ้านที่ จ.ขอนแก่น ทันที ก่อนกล่าวทิ้งท้าย โควิดเป็นภัยต่อชีวิต เป็นพิษต่อสังคม ห่างจากตัวผมไว้ ก่อนเดินไปขึ้นรถของญาติที่มารอรับกลับ จ.ขอนแก่น ทันที
ส่วนความเคลื่อนไหวของกลุ่มมวลชนต่างๆ เมื่อเวลา 12.40 น. กลุ่มศาลายาเพื่อประชาธิปไตย นำโดย น.ส.ฉัตรรพี อาจสมบูรณ์ นศ.วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยมหิดล ประกาศผ่านเพจ “ศาลายาเพื่อประชาธิปไตย” เลื่อนจัดกิจกรรมงานรำลึกเมษาเลือด 2553 “จากดินถึงฟ้า จากอักษะถึงมหานคร” ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และถนนดินสอ เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ระบุโดยสรุปว่า เลื่อนกิจกรรมการจัดงานเพื่อรอดูสถานการณ์ที่ภาครัฐกระทำต่อประชาชนให้เกิดการแพร่ระบาดของโควิดระลอก 3 แต่จะไม่หยุดทวงถามเรื่องวัคซีน และเรียกร้องเรื่อง “วัคซีนเสรี” ในรูปแบบกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์แทน
อย่างไรก็ตาม แม้การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ใน กทม.จะทวีความรุนแรง ยังมีกลุ่มมวลชนต่อต้านรัฐบาลเดินหน้าจัดชุมนุมรำลึกเหตุการณ์ 10 เม.ย. อีก 2 กลุ่มคือ กลุ่มอาชีวะพิทักษ์ประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นำโดยนายธนเดช หรือม่อน ศรีสงคราม นัดที่หน้าร้านแมคโดนัลด์ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เวลา 10.00 น. และนายชินวัตร จันทร์กระจ่าง แกนนำกลุ่มราษฎร นนทบุรี จัดขบวนแรลลี่จาก จ.นนทบุรี มาสี่แยกคอกวัว เวลา 15.00 น.
ส่วนความเคลื่อนไหวของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. ที่ประกาศจัดงานรำลึกครบรอบ 11 ปี เหตุสลายการชุมนุมกลุ่ม นปช. เมื่อวันที่ 10 เม.ย.53 ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา สี่แยกคอกวัว ท่ามกลางการจับตาของเจ้าหน้าที่ความมั่นคงว่ากลุ่ม นปช.จะเข้าร่วมกับการชุมนุมของม็อบนักศึกษาที่นัดชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยในช่วงเย็นหรือไม่ ล่าสุดนางธิดา ถาวรเศรษฐ อดีตประธาน นปช. เผยว่า การจัดงานครั้งนี้ไม่มีนัยทางการเมือง เพราะเคยจัดงานนี้
ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย สถานที่เกิดเหตุ แต่ปี 57 ต้องยกเลิกเพราะ คสช.ไม่อนุญาต ย้ายมาจัดตามวัดเหลือกิจกรรมแค่พิธีสงฆ์ เมื่อปี 63 ครบรอบ 10 ปี ได้ไปจองพื้นที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา สี่แยกคอกวัว แต่ต้องยกเลิกเพราะเกิดโรคโควิด-19 แต่ในปี 64 จำเป็นต้องเดินหน้าจัดกิจกรรมนี้ แต่วางมาตรการป้องกันแล้ว เหลือแค่พิธีสงฆ์บนลานกลางแจ้ง เว้นระยะห่าง ตัดเวลาจัดงานให้สั้นเหลือ 2 ชั่วโมง คือ 13.00-15.00 น. เสร็จพิธีแยกย้ายกลับ ไม่ร่วมกิจกรรมกลุ่มใด ส่วนมวลชนจะไปร่วมหรือไม่นั้นคงห้ามไม่ได้