ความรู้เรื่องข้าวต้ม จากหนังสือ ความรู้เรื่องจีนจากผู้เฒ่า ที่คุณจิตรา ก่อนันทเกียรติ เขียนไว้ ผมว่าลึกซึ้งอย่างน่าอัศจรรย์แล้ว วันนี้ได้หนังสือเล่มใหม่ ตัวตนคนแต้จิ๋ว (สำนักพิมพ์มติชน) เสี่ยวจิว เขียนไว้ลึกซึ้งไม่น้อยกว่า
โคลงข้าวต้ม บทหนึ่ง เตียหวงเชียง เขียนไว้ แปลเป็นไทย ดังนี้
“หุงข้าวเป็นข้าวต้มอย่างไร ปรึกษาถึงเสบียงกับลูกสาว 1 ส่วนทำให้เป็น 3 ส่วน เสบียง 2 วันช่วยให้เป็น 6 วัน มีแขกเพิ่มน้ำเติมฟืนเท่านั้น ไม่มีเงินใช้แทนน้ำแกงได้ อย่าได้ตำหนิว่าไร้รสชาติ”
และตัวหารที่ทำให้ใช้ข้าวสารน้อยลงแต่อิ่มท้องมากขึ้น ที่คนจีนกินจนเป็นวิถีชีวิต ก็คือมัน...มันเทศ
มันเทศ ที่ไทยก็เรียกขาน แต่คงไม่กี่คนรู้ความหมาย ภาษาจีนเรียก ฮวงกัวะ ฮวงแปลว่าอนารยะ กัวะต่างประเทศ เสี่ยวจิว บอกว่าถิ่นเดิมอยู่อเมริกา ฝรั่งเอามาปลูกในอินโดนีเซีย สมัยราชวงศ์หมิง คนจีนไปค้าขาย แอบเอาพันธุ์มาปลูกในจีน
6-7 ร้อยปี ผ่านไป ไวเหมือนโกหก วันนี้ จีนเป็นประเทศส่งออกมันเทศ รายใหญ่ที่สุดของโลก คนอเมริกันกินมันเทศจีน คงลืมไปแล้วเป็นพืชพันธุ์จากบ้านเมืองตัวเอง
มันเทศปลูกง่าย ยอดที่เฉาเอามารดน้ำ ก็ปลูกขยายพันธุ์ได้ หนาวจัดก็ไม่ตาย น้ำแข็งละลายก็กลับงอกงามตามเดิม
เมืองจีนช่วงเปลี่ยนแปลงการปกครอง ชาวจีนต้องกินมันเทศ พอๆกับกินข้าวเจ้า เพราะมีข้าวไม่พอกิน
มีข่าวร้านข้าวต้มมันในไต้หวัน มีลูกค้าแน่นหนา รสชาติคงดี ลูกค้าติดใจ หรือไม่ก็เป็นคนที่กินเพราะคิดถึงความหลัง
แต่ถ้าเป็นคนจีนที่ยุคที่กินข้าวต้มกับมันเทศ และบางครั้งไม่มีมันเทศ ต้องใช้ใบมันเทศต้มกับข้าวต้ม...เจอข้าวต้มมันเทศ ก็ส่ายหน้า ว่าตอนเด็กๆกินมากๆ จนเบื่อเหลือเกินแล้ว
วัฒนธรรมการกินข้าวต้มมันเทศของคนจีน ติดมาถึงไทยในช่วงสงคราม โลกครั้งที่ 2 “อาป๊า” เสี่ยวจิว เล่าว่าต้องกินข้าวต้มกับมันเทศทุกวัน...
ทำไมต้องเป็นมันเทศ...พืชอย่างอื่นไม่มีอีกหรือ...มันเทศทนแล้งได้ดี มีเปลือกบางเนื้อมาก กินได้ทั้งใบและหัว ลำต้นแบ่งเพาะชำขยายต้นได้ หัวมันเทศที่แก่เต็มที่เก็บได้นานหลายเดือน ทั้งราคาก็ถูก
คุณสมบัติอย่างนี้มีในพืชไม่กี่ชนิด
แต่ทั้งที่กิน “ม้วย” (ข้าวต้ม) เป็นอาหารในยามยาก แต่ข้าวต้มกลับเป็นความจำเป็นสำหรับชีวิต คนป่วยกินข้าวต้มเพื่อฟื้นกำลัง เด็กอายุ 3-4 เดือน เพิ่งหย่านม กินข้าวต้มผสมน้ำซุป เพราะย่อยง่าย
ข้าวต้มที่กินแล้วย่อยง่าย คือแปะม้วย หรือข้าวต้มเปล่า กับจับเกี้ยม ผักกาดดอง ถั่วลิสงคั่วเกลือ ไข่เค็ม ฯลฯ
“ม้วย” ใส่หัวมันเทศหรือต้นมันเทศ กินเป็นยา ถ้าใส่น้ำตาล ทรายแดง กินแก้ไข้หวัดใหญ่ คนนอนดึก จะกิน “ม้วย” เพื่อดับธาตุไฟทำให้ร่างกายสมดุล
“ม้วย” เป็นอาหารคนแต้จิ๋ว กินกันทุกวัน วันละมากกว่าหนึ่งมื้อ จึงมีความสัมพันธ์กันแนบแน่น จนเกิดคำพังเพย “ม้วยเซ็ก” ใช้กันแพร่หลาย
ม้วย ข้าวต้ม เซ็ก สุก แต่ความหมายของ “ข้าวต้มสุก” กลับถูกใช้ไปในทำนองว่า จบเห่ หมดทางแก้
เหตุที่ใช้กันในความหมายนี้ ก็เพราะเมื่อตักข้าวสารมาต้มให้สุกเป็นข้าวต้ม ก็แก้ไขอะไรไม่ได้ ต้องยกกับข้าว (จับเกี้ยม) มาตั้งวงกินกันต่อไป...จะไปทำอะไรอย่างอื่น ก็ช้าไปเสียแล้ว
คนแต้จิ๋วกินข้าวต้ม เพราะความจำเป็น ในยามยาก เกิดสงคราม เกิดภัยธรรมชาติ ฝนแล้ง น้ำท่วมใหญ่
คนไทยกินม้วยเหมือนคนจีน เพราะติดใจรสชาติ แปลกลิ้นกว่าข้าวสวยแกงส้มน้ำพริกปลาย่าง แต่ไม่เคยกินข้าวต้ม เพราะข้าวไม่พอกิน เมืองไทยในน้ำมีปลา ในนามีข้าว เกิดเภทภัยใหญ่หลวงแค่ไหน อย่างน้อยก็ยังมีข้าวกิน
แต่ก็แน่ใจไม่ได้ น้ำท่วมคราวนี้ น้ำมาเร็วมาแรง ชนิดขนข้าวของหนีไม่ทัน...ถ้าอยู่ไกลเมือง การสื่อสารไม่มี ไฟฟ้าที่เคยใช้ก็ไม่มี อะไรๆก็ไม่มี มองทางไหนก็เจอแต่น้ำ ข้าวก็คงเท่าที่มี มันเทศ มันแกว อะไรๆไม่ต้องพูดถึง เพราะจมอยู่ใต้น้ำ
นี่คือปัญหาเฉพาะหน้า รัฐบาลต้องทันควันทันที อย่าเอาแต่แจกเอาหน้า ข้าว-น้ำต้องถึง หยูกยาก็ต้องถึง ปล่อยให้คนไทยอดตายสักคนเดียวก็ไม่ได้ เรื่องอย่างนี้ ขายหน้าเขาไปทั้งโลก
ส่วนเรื่องน้ำท่วมหนัก ท่วมซ้ำซาก เป็นปัญหาระยะยาว เก็บเป็นประเด็นไว้พูดกันวันหลัง เทวดาเทน้ำมาให้มากขนาดนี้ ถ้ารับมือเอาไปใช้ประโยชน์ไม่ได้ ก็ “ม้วยเซ็ก” แล้ว อย่าเผยอหน้ามาเป็นรัฐบาลอีกเป็นอันขาด.
...
กิเลน ประลองเชิง