• "จตุพร" ไขข้อข้องใจ "ม็อบ 4 เมษา" เดินเกมสอดรับกับ "ม็อบ 3 นิ้ว" ใช้ยุทธการ "แยกกันเดิน ร่วมกันตี" จริงหรือ?
  • ตอบจากใจ "พี่ตู่" ห่วงชุมนุม 4 เมษา จะรุนแรงเหมือน เหตุการณ์ พ.ค.ปี 53 หรือไม่ พร้อมปัจจัยที่จะให้เกิด หรือไม่เกิดขึ้น
  • แย้ม ขอรอดูเพื่อนเกลอ "เต้น" ณัฐวุฒิ จะเข้าร่วมกับ "ม็อบคนรุ่นใหม่" แบบไหน แล้วค่อยประเมินไปพร้อมกับความเคลื่อนไหวของการชุมนุม "ม็อบ 4 เมษา" 


     

ต้องจับตา ม็อบ 4 เมษายน 2564 ที่ประกาศนำโดย นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่เจ้าตัวประกาศแต่ "ไก่โห่" ว่า มาร่วมม็อบในนามส่วนตัว เพื่อขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ที่นายจตุพร ใช้คำว่า "เป็นศูนย์กลางของปัญหาการเมืองของประเทศไทย" และนายจตุพร ขอยืนยันว่า การเคลื่อนไหวชุมนุมในครั้งนี้ ไม่เกี่ยวข้องกับองค์กร อย่าง นปช. 

...

ขณะที่ฝ่ายที่อยู่ตรงข้ามกับนายจตุพร ไม่เว้นฝ่ายรัฐบาล อย่าง "แรมโบ้อีสาน" กับ "ธนกร วังบุญคงชนะ" พยายามกระตุ้นเตือนให้เห็นภาพเดิมของนายจตุพร ซึ่งเป็นแกนนำคนเสื้อแดง นปช. ในการชุมนุมปี 2553 ที่จบลงด้วยเหตุการณ์เผาบ้านเผาเมืองในครั้งนั้น 

ขณะที่ลืมไม่ได้ กับปรากฏการณ์ การเคลื่อนไหวทางการเมือง "2 เกลอ คู่หู" อย่าง "ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ" และ "จตุพร" เอง ที่ทิ้งคำถาม ข้อสงสัยไว้เบื้องหลังว่า ทั้งคู่ ใช้ยุทธศาสตร์ "แยกกันเดิน ร่วมกันตี" หรือไม่ เมื่อ "เต้น" เพิ่งแถลงข่าวว่า อยู่ข้าง "กลุ่มคนรุ่นใหม่" อย่าง "ม็อบราษฎร" ส่วนจตุพร ก็ยืนอยู่ข้าง "คนเสื้อแดง" ที่แสดงเจตนารมณ์แน่ชัดเป้าหมาย คือ ล้ม "รัฐบาลบิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ลงให้ได้ 

ข้อเท็จจริง เบื้องหลังการประกาศชุมนุมม็อบ 4 เมษา เป็นเช่นไร วันนี้ ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ จะได้นำความจริงจากปากของแกนนำ มาตีแผ่ให้ได้ทราบกันเลย   

วันที่ 4 เม.ย. การชุมนุมมีโอกาส ลากยาวไหม?

ประเมินสถานการณ์ในวันนั้น เพราะที่ชุมนุมมีมีรั้วรอบขอบชิดเป็นอาณาเขต "อนุสรณ์สถานพฤษภา 2535" และอยู่ติดกับ สน.ชนะสงคราม ก็ดูบรรยากาศ ดูประเด็นวันที่ 4 เม.ย. และจะถามความคิดเห็นคนเข้ามาร่วม ว่า "เราจะเอายังไงกันต่อ แต่ยืนยัน ยังไม่มีลักษณะการเคลื่อนออกไปเผชิญหน้า แต่เป็นลักษณะของการพูดข้อเท็จจริงให้กับทุกๆ ฝ่าย เพราะมันเป็นเรื่องใหม่ เพราะเราขัดแย้งกันอย่างรุนแรง ในช่วง 15 ปีนี้ เพราะฉะนั้นการที่จะให้คู่ขัดแย้งมาร่วมมือในการแก้ไขวิกฤติของแผ่นดิน มันเป็นเรื่องต้องทำความเข้าใจ ดังนั้น วันที่ 4 เม.ย. คงมีความหลากหลายมาก ซึ่งเป็นเรื่องเกิดขึ้นครั้งสุดท้าย เมื่อ 29 ปีที่ผ่านมา"

1. ต้องดูบรรยากาศในวันนั้น 2. ดูอารมณ์ร่วมของประชาชน 3. ดูเนื้อหาสาระที่เข้ามาร่วม ถ้าการฉายภาพต่างๆ เรื่องแก้รัฐธรรมนูญ เศรษฐกิจ สังคม การเมืองทุกมิติ การทุจริตคอร์รัปชัน ฉายภาพเป็นระบบแล้วเห็นว่าต้องฉายต่อไป เราก็ต้องดูความคิดเห็นแต่ละฝ่ายที่มาร่วมในวันนั้นก่อน

คิดเห็นอย่างไรที่ในโซเชียลฯ ชี้ "เสื้อแดง" เดินเกมการเมือง เพื่อเป้าหมายคู่ขนานกับ ม็อบ 3 นิ้ว?

ความเป็นจริงใช้หัวข้อ "สามัคคีประชาชนเพื่อประเทศไทย" ผมอธิบายชัดเจนว่า เป็นเรื่องปัจเจก เพราะ คุณอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานญาติวีรชนพฤษภา 35 เขาก็ชวนคนที่อยู่ในเหตุการณ์ พ.ค.ปี 2535 เป็นตัวตั้ง ผมก็ไปในนามส่วนตัว ไม่ได้ไปในนาม นปช. ฉะนั้นวันที่ 4 เม.ย. ไม่ใช่เวทีของเสื้อสีใดสีหนึ่ง แต่เป็นเรื่องของทุกฝ่ายที่เปิดกว้าง เวทีนี้มีครั้งสุดท้าย เมื่อ 29 ปีที่แล้ว พ.ค.ปี 2535 ดังนั้นที่ขัดแย้งกัน พล.อ.ประยุทธ์ ได้ประโยชน์จากความขัดแย้งนี้

ใช่ ยุทธการ "แยกกันเดิน ร่วมกันตี" หรือไม่?

นายจตุพร กล่าวต่อว่า ยืนยันว่า ทุกคนที่มาล้วนอาวุโสเป็นจำนวนมาก ที่มองเห็นปัญหาชาติ และมองเห็น พล.อ.ประยุทธ์ เป็นศูนย์กลางปัญหาทั้งหมด ส่วนการขับเคลื่อนของ "คนหนุ่มสาว" ก็ว่าของเขากันไป เรามองเห็นว่า ปัญหาทั้งหมดอยู่ที่พล.อ.ประยุทธ์

หลังวันที่ 4 เม.ย.ไปแล้ว หลายๆ ฝ่ายต้องช่วยกันอธิบาย ไม่ว่ากลุ่มก้อนการเมืองต่างๆ ไม่ใช่เรื่องของ นปช. แต่เป็นเรื่องของคนที่ร่วมในเหตุการณ์ พฤษภา 2535 จนถึงคนเห็นว่า ที่บ้านเมืองเป็นปัญหามาจากการบริหารบ้านเมืองของ พล.อ.ประยุทธ์

"ผมชัดเจนในจุดยืน มองปัญหาชาติ อยู่ที่ พล.อ.ประยุทธ์ ปัญหา ม.112 สาเหตุทั้งหมดมาจาก พล.อ.ประยุทธ์ ไปให้สัมภาษณ์ว่า จะไม่เอาโทษ แล้วนักศึกษาก็ไปหลงเชื่อ แล้ว พล.อ.ประยุทธ์ ก็กลับมาเอาโทษ นักศึกษาก็ไปติดคุก สถาบันก็เดือดร้อน พล.อ.ประยุทธ์ ก็ยังอยู่ในตำแหน่งต่อไป ดังนั้น กรณี "ณัฐวุฒิ" ไปร่วมกับกลุ่มคนรุ่นใหม่ ส่วนตัวเห็นเป็นเรื่องน่ายินดี ก็ถือเป็นสิทธิ เสรีภาพ ผมก็รอมองดูว่า ณัฐวุฒิ จะไปร่วมอย่างไร แต่ตอนนี้ยังไม่เห็นภาพ เมื่อเห็นแล้วจึงจะนำมาประเมิน ของผมก็ต้องผ่านวันที่ 4 เม.ย.ไปก่อน ถึงเป็นรูปธรรม" นายจตุพร กล่าว...

ห่วง 4 เม.ย.จะเกิดความรุนแรง ไหม?

ประธาน นปช. กล่าวว่า ก็จัดอยู่ที่อนุสรณ์สถาน 2535 ติดกับโรงพัก สน.ชนะสงคราม เราประสาน จนท.ตำรวจมาดูแล เพราะว่า มันเป็นเรื่องกึ่งวิชาการ กึ่งการปราศรัย กึ่งการเสวนา มันจึงไม่ได้เป็นลักษณะการเผชิญหน้า ที่ต้องเกิดปัญหาอย่างนั้น ฉะนั้นเป็นช่วงเวลาทำความเข้าใจ โดยที่หลายฝ่ายได้แสดงความวิตกกังวล ควรตั้งคำถามว่า คนที่ปราบประชาชนควรคิดให้มาก เพราะปัญหาวันนี้ไม่ใช่เรื่องการเผชิญหน้า แต่เป็นเรื่องการให้เหตุผล และถ้ายอมรับเหตุผลด้วยวิธีการสันติวิธีกันได้ ปัญหาของชาติก็จะได้รับการแก้ไข ยันไม่มีการเคลื่อนออกจากอนุสรณ์สถาน เป็นการพูดอยู่ในพื้นที่ ยังไม่มีแนวคิดที่จะเคลื่อนไปจุดไหน

ได้พูดคุย กับเพื่อนเกลอ "เต้น" ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ บ้างหรือยัง?

"กับ "ณัฐวุฒิ" ก็ยังไม่ได้คุยกัน ปกติถาม "สารทุกข์สุกดิบ" กัน แต่เรื่องนี้ผมยังอยู่ในจุดที่ คุณอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ชวนอยู่ และผมไม่ได้ไปในฐานะองค์กร นปช. แต่เป็นเรื่องส่วนบุคคล ก็ให้มันผ่านวันที่ 4 เม.ย.ไปก่อน สถานการณ์เป็นอย่างไร ถึงจะได้มีโอกาสพูดคุยกัน ตอนนี้ให้ผ่านจุดเริ่มต้นไปก่อน แล้วตอนนี้ก็เห็นว่า ทุกฝ่ายไม่ควรเอาองค์กรเข้ามา ควรเป็นเรื่องของบุคคล" นายจตุพร กล่าว...

ทั้งหมดนี้เป็นความในใจของ ประธาน นปช. ที่อยากจะสื่อสารให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบ ส่วนผลสุดท้ายจะเป็นเช่นไร จะเป็นไปตามที่ "ตู่" จตุพร ให้สัมภาษณ์หรือไม่ คงต้องรอหลัง วันที่ 4 เม.ย. ก็จะได้รู้กัน  



ผู้เขียน: เดชจิวยี่

กราฟิก: Theerapong Chaiyatep