"คุณหญิงสุดารัตน์" ยังแบ่งรับแบ่งสู้นั่งเป็นหัวหน้าพรรค "ไทยสร้างไทย" ระบุแล้วแต่ที่ประชุมใหญ่พิจารณา เผยจุดยืนพรรคฯ อยู่ตรงข้ามรัฐบาล มุ่งจับกลุ่มคนรุ่นใหม่
เมื่อวันที่ 1 เม.ย. คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรคไทยสร้างไทย กล่าวว่า พร้อมเปิดตัวพรรคไทยสร้างไทย หลังจากคณะกรรมการการเลือก หรือ กกต. ตั้งประกาศรับรองอย่างเป็นทางการแล้ว หลังจากนี้ จะเร่งเปิดสาขาพรรคและเปิดรับสมาชิก เพื่อให้ทันการเปิดประชุมใหญ่นัดแรก เพื่อหารือระเบียบข้อบังคับ นโยบายและโครงสร้างกรรมการบริหารพรรคฯ คาดว่า ทุกอย่างจะแล้วเสร็จภายในเดือน เม.ย.2564 และจะเปิดประชุมใหญ่ให้ทันภายในเดือน พ.ค.2564 ส่วนการจะนั่งเป็นหัวหน้าพรรคฯ เองหรือไม่นั้น ต้องรอที่ประชุมใหญ่พิจารณา
ทั้งนี้ แนวคิดและการทำงานของพรรคไทยสร้างไทยจะเน้นเรื่องสิทธิของประชาชนที่หายไปในสังคม ตั้งแต่ 7 ปี ที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เข้ามาบริหารประเทศ ซึ่งสิทธิของประชาชนถูกลิดรอน กดขี่ นอกจากนั้น จะยืนหยัดและสู้เพื่อคนตัวเล็ก ทั้งเรื่องสิทธิเสรีภาพ การยืนหยัดด้วยตัวเอง ให้สามารถทำมาหากินเลี้ยงชีพตัวเองได้
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวต่อว่า กรณีหากเป็นหัวหน้าพรรคฯ จะทำให้พรรคไทยสร้างไทยเป็นพรรคการเมืองที่ดีโดยใช้ประสบการณ์ตลอด 29 ปี ที่อยู่บนสนามการเมืองมาทำงานให้กับคนรุ่นใหม่เข้ามาช่วยเหลือเข้ามาช่วยทำงานการเมือง เพราะเห็นว่า ประเทศบอบช้ำจากวิกฤติทางการเมืองมามากจนพื้นฐานประเทศไม่เหลืออะไรแล้ว แต่สิ่งเดียวที่เหลืออยู่คือ คน ดังนั้น คนรุ่นใหม่จึงคือความหวังของประเทศ ซึ่งความตั้งใจของตนเองคือทำจุดนี้ให้ดีแล้วให้คนรุ่นใหม่มาสานต่อ
สำหรับการเปิดตัวพรรคการเมืองใหม่ของบุคคลสำคัญหลายคนจะเป็นสัญญาณชี้ว่า ใกล้ถึงเวลายุบสภาผู้แทนราษฎรและเลือกตั้งใหม่แล้วหรือไม่นั้น เรื่องนี้ ยังตอบไม่ได้ ตอบได้อย่างเดียวว่า ผู้มีอำนาจในขณะนี้ ต้องการจะสืบทอดอำนาจอย่างชัดเจน โดยเห็นได้จากการขัดขวางทุกวิถีทางของการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ส่วนการยุบสภาฯ จะเกิดหรือไม่นั้น อาจจะเกิดได้ แต่พรรคไทยสร้างไทยจะทำพรรคให้ดีที่สุด
...
"เรายืนอยู่ตรงข้ามรัฐบาลนั้น ไม่ใช่ความเกลียดชัง แต่ไม่เห็นด้วยกับรัฐธรรมนูญที่เขียนมาเพื่อลิดรอนสิทธิของประชาชนและสืบทอดอำนาจของพลเอกประยุทธ์เท่านั้นเอง โดยไม่สนว่าประชาชนจะอยู่ได้หรือไม่ จึงเห็นว่าวันนี้บ้านเมืองจะต้องรอดก่อนไม่ใช่รัฐบาลรอดแล้วประชาชนตาย" คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว