นายกฯ สั่งกระทรวงเกี่ยวข้องหาทางช่วย "ไรเดอร์" ถูกเอาเปรียบ สั่ง ฝ่ายมั่นคงหาแนวทางแก้ หลังชาวบ้านรับผลกระทบใช้สนามบินอุดร ฝึกร่วมไทย-สิงคโปร์ ลั่น รถไฟฟ้าสายสีเขียว จะทำให้ดีที่สุด ส่วนปมจัดซื้อ รถปรับอากาศ ขส.ทบ. ผิดตรงไหนก็ให้ไปดู
วันที่ 30 มี.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ตอบคำถามถึงแนวทางรัฐบาลในการคุ้มครองกลุ่มคนส่งอาหาร (ไรเดอร์) ที่เรียกร้องสิทธิ ค่าตอบแทน/สวัสดิการ จากผู้ประกอบการต่างชาติ เจ้าของแอปพลิเคชันส่งอาหาร-สินค้า ที่มาเปิดกิจการในไทย เพราะหลายแห่งถูกระบุเอารัดเอาเปรียบแรงงานไทยว่า ได้ให้กระทรวงที่เกี่ยวข้องไปดูว่าจะช่วยเหลือได้อย่างไร เพราะเขาถูกเอาเปรียบ ทั้งแพลตฟอร์มต่างประเทศและในไทย และเรื่องของการที่ไปส่งอาหารแล้วคนสั่งไม่รับ ทำให้คนส่งอาหารต้องรับผิดชอบค่าอาหารเอง อย่างนี้มันไม่ได้ ซึ่งตนก็ติดตามเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน
พล.อ.ประยุทธ์ ยังให้สัมภาษณ์ถึงกรณีแนวคิดย้ายการฝึกร่วมทางอากาศไทย-สิงคโปร์ ที่ใช้สนามบินกองบิน 23 อุดรธานี เป็นฐานการฝึก เพราะกระทบกับชาวบ้านว่า ก็ไปหารือกัน ฝ่ายความมั่นคงก็รับเรื่องไปพิจารณา ซึ่งมันเป็นความจำเป็น เพราะมีหลักการในเรื่องของการฝึกร่วม ฝึกผสม เรื่องของภูมิภาค ความมั่นคง ก็ต้องไปดูว่าจะมีการแก้ปัญหานี้อย่างไร ซึ่งรัฐบาลก็รับฟัง
พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงความคืบหน้า การพิจารณาต่อการสัมปทานโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต รัฐบาลจะเดินหน้าเซ็นสัญญาสัมปทานบีทีเอสและชำระหนี้แทนกทม.ทันในสิ้นเดือนมี.ค.หรือไม่ว่า กำลังพิจารณาอยู่ บางเรื่องเราก็รู้ถึงความเดือดร้อนของประชาชน รัฐบาลก็จะทำให้ดีที่สุด
นายกฯ ยังตอบคำถามกรณีที่กรมส่งกำลังบำรุงทหารบก หน่วยงานภายใต้สังกัดกองทัพบก ปฏิเสธที่จะเปิดเผยข้อมูลกับสื่อมวลชน ที่ใช้สิทธิตาม พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารฯ เพื่อขอให้เปิดเผยข้อมูลการจัดซื้อรถยนต์โดยสารปรับอากาศขนาดใหญ่ ของกรมการขนส่งทหารบก (ขส.ทบ.) ในปีงบประมาณ 2558, 2561-2563 รวม 7 ครั้ง รวมทั้งสิ้น 429 คัน เป็นเงินประมาณ 2,250 ล้านบาท ว่า เรื่องของการจัดซื้อจัดจ้างก็ไปดูแล้วกัน มันเป็นเรื่องของการปฏิบัติตาม พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างฯ ผิดถูกตรงไหน ก็ไปดูตรงโน้น ตอบไปแล้ว พูดไปแล้ว ก็กลับมาใหม่ ก็ต้องไปฟังในส่วนของการตรวจสอบอะไรทางโน้น
...