ตำรวจ อคฝ.ดีเดย์ช่วงเช้ามืด บุกปิดหมู่บ้านทะลุฟ้าข้างทำเนียบรัฐบาล จับกุมผู้ร่วมชุมนุม 67 คน เป็นเยาวชน 6 คน ส่งสอบสวนดำเนินคดีที่ บก.ตชด.ภ.1 เรียก “พฐ.-อีโอดี” ตรวจค้นเก็บหลักฐาน พบกัญชาอัดแท่งและน้ำกระท่อมจำนวนหนึ่ง “นครบาล” แถลงได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านและโรงเรียนใกล้เคียงถึงขนาดเข้าแจ้งความตำรวจ สน.นางเลิ้งหลายครั้ง แถมแอบต่อไฟใช้ฟรี แจ้งให้หยุดชุมนุมแล้วตั้งแต่วันที่ 13 มี.ค. ทุกขั้นตอนถูกต้องตามกฎหมาย “เลิศศักดิ์ คำคมศักดิ์” เจ้าของหมู่บ้าน โวยตำรวจให้เวลาแค่ 3 นาทีเก็บข้าวของใครจะทัน สงสัยยัดข้อหาเพราะค้นเองไม่มีพยาน หลังปิดหมู่บ้านแนวร่วมทยอยรวมตัวทวงคืนหมู่บ้านทะลุฟ้า เรียกร้องให้ปล่อยตัวผู้ถูกจับกุมโดยไม่มีเงื่อนไข โดนจับเพิ่มอีก 32 คน รวม “ไบรท์-ชินวัตร”

กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีและจับกุม กลุ่มม็อบที่ออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองหลายกลุ่ม ส่วนใหญ่เป็นข้อหาตามมาตรา 112 มาตรา 116 และความผิดอื่น แกนนำส่วนใหญ่ไม่ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว ถูกส่งตัวเข้าเรือนจำ แต่ยังมีแนวร่วมหลายกลุ่มสลับสับเปลี่ยนกันออกมาชุมนุมเรียกร้องให้ปล่อยแกนนำตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

...

ลุยรื้อบ้านทะลุฟ้า-เซฟบางกลอย

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 05.30 น. วันที่ 28 มี.ค. บริเวณถนนพระราม 5 ติดกับสะพานชมัยมรุเชฐ แขวงสวนจิตรลดา เขตดุสิต กทม. พล.ต.ต.ปราศรัย จิตตสนธิ ผบก.น.1 และ พล.ต.ต.มานพ สุคนธ์ธนพัฒน์ ผบก.อคฝ. นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน (บก.อคฝ.) 2 กองร้อย ขอคืนพื้นที่บริเวณซอยพระราม 5 เลียบคลองผดุงกรุงเกษมใกล้สะพานชมัยมรุเชฐ ข้างทำเนียบรัฐบาล ที่ตั้งของกลุ่มผู้ชุมนุมภาคีเซฟบางกลอยและกลุ่มเดินทะลุฟ้า ที่ปักหลักชุมนุมมาตั้งแต่วันที่ 13 มี.ค. พร้อม 4 ข้อเรียกร้องคือ ปล่อยแกนนำราษฎรและแนวร่วมที่ถูกจับกุม ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ยกเลิกมาตรา 112 และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องลาออก

ให้เวลา 3 นาทีก่อนจับกุม 67 คน

เจ้าหน้าที่ประกาศแจ้งขอให้กลุ่มผู้ชุมนุมเก็บของออกจากพื้นที่ภายใน 3 นาที แต่เนื่องจากเป็นช่วงเช้าตรู่ทุกคนกำลังนอนหลับ ประกอบกับมีสัมภาระจำนวนมากทำให้การ์ดผู้ชุมนุมพยายามต่อรองขอเวลาเก็บข้าวของ แต่ตำรวจไม่ยินยอมนำกำลัง อคฝ.เข้ากระชับพื้นที่ทั้งทางฝั่งสะพานชมัยมรุเชฐและสะพานอรทัย จับกุมผู้อยู่ในพื้นที่ทั้งหมด 67 คน ไปสอบสวนที่ บก.ตชด.ภาค 1 ดำเนินคดีข้อหา พ.ร.บ.โรคติดต่อ และ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และประสานหน่วยเก็บกู้และตรวจสอบวัตถุระเบิด (อีโอดี) กับกองพิสูจน์หลักฐานกลาง (พฐก.) มาตรวจสอบพื้นที่อย่างละเอียด แล้วให้ กทม. มารื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง

แนวร่วมแห่ประชิดแนวตำรวจ

หลังการขอคืนพื้นที่และจับกุมกลุ่มผู้ชุมนุม ควบคุมไปสอบสวนที่ ตชด.ภาค 1 ตำรวจ อคฝ.ยังคงตรึงกำลังบริเวณพื้นที่แนวถนนพระราม 5 หน้าทำเนียบรัฐบาล เพื่อไม่ให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปในบริเวณที่ตั้งหมู่บ้านทะลุฟ้าและภาคีเซฟบางกลอย มีกำลัง พฐก.เข้าตรวจสอบและเก็บหลักฐาน พร้อมนำพนักงานรักษาความสะอาดสำนักงานเขตดุสิตเข้าทำความสะอาด โดยมี พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผบช.น. มาดูแลการปฏิบัติ ขณะที่มีกลุ่มแนวร่วมที่เพิ่งทราบข่าวพากันเดินทางมาสังเกตการณ์นั่งประชิดแนวเจ้าหน้าที่ตำรวจบริเวณเชิงสะพานชมัยมรุเชฐ

“เลิศศักดิ์” โวย ตร.ยัดของกลาง

ต่อมานายเลิศศักดิ์ คำคมศักดิ์ ผู้แจ้งขอจัดการชุมนุม เผยว่า เมื่อช่วงเช้ามืดมีการสลายการชุมนุมกับกลุ่มพี่น้องในหมู่บ้านทะลุฟ้า การกระทำดังกล่าวเป็นการสลายการชุมนุมที่ละเมิดสิทธิเสรีภาพการชุมนุมขั้นพื้นฐาน การที่เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจค้นนำเจ้าหน้าที่ พฐก.เข้าไปตรวจสอบ โดยไม่มีกลุ่มผู้ชุมนุมสังเกตการณ์หรือสื่อมวลชนเข้าไปตรวจสอบ รื้อค้นเสื้อผ้า อาหาร ยารักษาโรค กระทั่งพบอาวุธบางประเภทและยาเสพติดบางชนิด ทำให้เกิดคำถามว่า การเข้าไปโดยลำพังของเจ้าหน้าที่ยัดข้อหาหรือสร้างพยานหลักฐานเท็จหรือไม่ หากยังไม่มีการปล่อยกลุ่มมวลชนที่จับกุมไป ตนพร้อมจะสร้างหมู่บ้านทะลุฟ้าแห่งใหม่ขึ้นมาทันที

แจงจับ 67 คน จับพระสึกด้วย

ที่ บช.น เวลา 10.50 น. พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รอง ผบช.น. และ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. แถลงการสลายการชุมนุมหมู่บ้านทะลุฟ้าของกลุ่มภาคีเซฟบางกลอย และกลุ่มเดินทะลุฟ้า พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า การชุมนุมดังกล่าวผิดกฎหมาย บุกรุกสถานที่สาธารณะ และสถานที่ราชการบางส่วน ลักทรัพย์สินไฟฟ้า น้ำประปา ทุบทำลายสิ่งของราชการและประชาชน รวมถึงต่อท่อสิ่งปฏิกูลลงคลองและที่สาธารณะจนสกปรก และยังขวางประตูทางเข้าออกฝั่งถนนพระราม 5 ทำให้ผู้คนที่สัญจรไปมาได้รับความเดือดร้อน ตำรวจจับกุมผู้ชุมนุม 67 คน มีพระภิกษุพาไปสึกที่วัดเบญจมบพิตรฯ ก่อนส่ง บก.ตชด.ภ.1 ข้อหาชุมนุมมั่วสุมผิดกฎหมายตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ประกอบ พ.ร.บ.ควบคุมโรค ชุมนุมมั่วสุมเสี่ยงต่อการควบคุมโรค

ยันมีสื่อและผู้ชุมนุมร่วมตรวจค้น

พล.ต.ต.ปิยะกล่าวอีกว่า ส่วนความผิดอื่น ตำรวจยังพบกัญชาแท่งจำนวนหนึ่ง อุปกรณ์เซ็กซ์ทอย และถุงยางอนามัย พนักงานสอบสวนจะรวบรวมหลักฐานพิสูจน์ตัวผู้กระทำผิดดำเนินคดีตามกฎหมายอื่นต่อไป นอกจากนี้มีการแพร่ข่าวปลอมระบุว่า การตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ไม่มีสื่อมวลชนหรือตัวแทนผู้ต้องหานำตรวจ ยืนยันปฏิบัติหน้าที่ตาม ป.วิอาญา มีตัวแทนสื่อและผู้ถูกจับ 2 คนคือ นายพรชัย ยวนยี และนายนพดล ต้นงาม นำตรวจค้น ขอให้ผู้ส่งข่าวปลอมหยุดการกระทำ เพราะมีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ส่วนกรณีประกาศให้เวลารื้อถอนตัวเพียง 3 นาทีถือว่าเพียงพอหรือไม่ ตำรวจนครบาล, บก.น.1 และ สน.นางเลิ้ง แจ้งเตือนผู้ชุมนุมมาตั้งแต่วันที่ 13 มี.ค.แล้ว ยืนยันมีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ของ บช.น.ควบคุมการปฏิบัติการตามกฎหมายทุกขั้นตอน

เตรียมรับมือม็อบที่อโศกแล้ว

พล.ต.ต.ปิยะกล่าวถึงการชุมนุมที่สถานีรถไฟฟ้าสถานีอโศกในช่วงเย็นว่า ผบช.น.สั่งการให้ ผบก.น.5 และ ผบก.น.6 เตรียมกำลังรับมือไว้กองบังคับการละ 2 กองร้อย และเตรียมกำลังสำรองไว้ 4-6 กองร้อย หากมีการเคลื่อนตัวไปสถานทูตประเทศใด ขอให้คำนึงถึงเกียรติยศของประเทศชาติและประโยชน์ส่วนรวมด้วย

ชาวบ้านเดือดร้อนแจ้งความ

พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร กล่าวว่า ตำรวจรับการร้องเรียนจากประชาชนว่า ได้รับผลกระทบจากการส่งเสียงดังและสัญจรไม่สะดวก แจ้งความที่ สน.นางเลิ้งบ่อยครั้ง ก่อนสืบสวนทราบว่าลักลอบใช้ไฟฟ้า ต่อสายจากเสาต้นแรกของสะพานชมัยมรุเชฐมาถึงพื้นที่ชุมนุม และสร้างห้องน้ำชั่วคราว 5 ห้องต่อท่อปฏิกูลลงท่อระบายน้ำ กฟน. การสลายการชุมนุมประกาศเตือนผู้ชุมนุมว่า มีประชาชนได้รับความเดือดร้อนและเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรค พร้อมให้เวลาและเปิดโอกาสให้เดินทางกลับ แต่มีผู้เดินทางกลับเพียง 4-5 คน ส่วนการตรวจค้นเต็นท์ใหญ่หลังเวทีพบกัญชาอัดแท่งครึ่งกิโลกรัม น้ำกระท่อมต้ม 2 ขวด ยืนยันว่าการตรวจค้นดำเนินการร่วมกับ พฐ. และอีโอดี ตัวแทนผู้ชุมนุมพาตำรวจตรวจสอบทั้งหมด

ส่งอาหาร-น้ำที่ ตชด.ภาค 1

บรรยากาศที่ บก.ตชด.ภ.1 มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองห้า มาตั้งด่านกันคนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปภายใน มีกลุ่มมวลชนเดินทางมาให้กำลังใจและนำอาหารน้ำดื่มมาส่งให้กลุ่มผู้ชุมนุมที่ถูกจับ มีกระทบกระทั่งกันเล็กน้อย เมื่อกลุ่มแนวร่วมพยายามนำรถกระบะบรรทุกอาหาร และเครื่องดื่มขับเข้าไปใน ตชด.ภ.1 แต่ตำรวจ ตชด.ไม่อนุญาตจนเกิดโต้เถียง สรุปให้ตำรวจ สภ.คลองห้า นำอาหารและเครื่องดื่มเข้าไปแทน นอกจากนี้ยังมีมวลชนประมาณ 40 คนนำเครื่องขยายเสียงมาเจรจากับเจ้าหน้าที่เพื่อขอเข้าไปด้านใน แต่ไม่ได้รับอนุญาต สอบถามกลุ่มมวลชนบอกว่า เมื่อช่วงเวลา 05.30 น. ตำรวจควบคุมฝูงชนเข้าไปในหมู่บ้านทะลุฟ้าให้เก็บของออก จับกุมพวกเรา 67 คน มีรายงานด้วยว่า ผู้ถูกจับกุมครั้งนี้มี 67 คน เป็นผู้ชาย 40 คน ผู้หญิง 21 คน เยาวชน ชาย 2 คน และเยาวชนหญิง 4 คน

“แรมโบ้” ยัน ตร.ขอคืนพื้นที่ถูกต้อง

นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วย รมต.ประจำนายกรัฐมนตรี เผยกรณีตำรวจขอคืนพื้นที่หมู่บ้านทะลุฟ้าว่า เป็นการทำตามกฎหมาย การชุมนุมตั้งหมู่บ้านดังกล่าวเป็นการทำผิดกฎหมาย ประชาชนและโรงเรียนใกล้เคียง รวมถึงผู้สัญจรได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากใช้เครื่องขยายเสียง มีเสียงดังทุกวัน นักเรียนกำลังจะสอบเดือดร้อนมาก ตลอดจนตะโกนด่าทอเวลาคณะนายกฯ และรัฐมนตรีเข้าออกทำเนียบรัฐบาล แท้จริงแล้วมาเรียกร้องประชาธิปไตยตามข้อเรียกร้อง 4 ข้อ หรืออยากใช้สถานที่เป็นที่มั่วสุม มีทั้งถุงยางอนามัย กัญชาอัดแท่ง ใบกระท่อม มีดอาวุธ สิ่งเหล่านี้ตำรวจไม่ได้ไปยัดหลักฐานเท็จ ป้ายสีผู้ชุมนุมเด็ดขาด ขอผู้ชุมนุมอย่าอาศัยจังหวะตำรวจไม่เข้าไปตรวจค้นหมู่บ้านทะลุฟ้า แล้วมั่วสุมกันอย่างสบายใจ ใช้การเรียกร้องประชาธิปไตยบังหน้า การกระทำเช่นนี้น่าอับอายที่สุด

แฉสลายม็อบเพื่อถ่ายรูป ครม.

นายณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ว่า จากการประสานงานกับทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนทราบว่า จับกุมผู้ชุมนุมเกือบ 70 คนไปควบคุมตัวที่ ตชด.ภาค 1 บังคับสึกพระภิกษุซึ่งไม่ถูกต้องตามหลักศาสนา มีผู้ชุมนุมบางส่วนเจ็บป่วย กลับไม่ได้รับการรักษาตามหลักกฎหมายและมนุษยธรรม ปล่อยให้ผู้ชุมนุมดูแลกันเอง ขณะนี้ ส.ส.ก้าวไกล และคณะทำงานติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด แม้ตำรวจอ้างเป็นการปฏิบัติการตามกฎหมาย และพบสิ่งผิดกฎหมายในที่ชุมนุม แต่ผู้ชุมนุมทั้งหมดควรได้รับการประกันตัวตั้งแต่ชั้นพนักงานสอบสวน มีเด็กและเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี อย่างน้อย 6 คน ต้องได้รับการปฏิบัติตามวิธีการเฉพาะ การสลายการชุมนุมครั้งนี้สะท้อนว่า ตำรวจมุ่งเน้นเอาใจนายที่จะถ่ายรูปหมู่ ครม.ชุดใหม่ วันที่ 30 เม.ย. มากกว่าการปฏิบัติตามกฎหมายและมาตรฐานสากล ขอเรียกร้องให้ประกันตัวผู้ถูกจับกุมทั้งหมดในชั้นพนักงานสอบสวน

ประณามสลายหมู่บ้านทะลุฟ้า

นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวว่า หยุดดำเนินคดีกับชาวหมู่บ้านทะลุฟ้าทุกคน เพราะเป็นการกระทำที่รัฐล้ำเส้นประชาชน การปักหลักค้างแรมข้างทำเนียบรัฐบาล มีแต่กิจกรรมสงบสันติ อาทิ การเสวนาวิชาการ การแสดงผลงานศิลปะ แฟชั่นโชว์และอื่นๆ เจ้าหน้าที่ไม่มีความชอบธรรมใดๆสลายการชุมนุม ขอประณามรัฐบาล และผู้สั่งสลายการชุมนุม เรียกร้องให้ยุติการควบคุมตัวซึ่งมิชอบด้วยกฎหมาย และยุติการดำเนินคดีต่อพวกเขาทั้งหมด ผมต้องเน้นย้ำด้วยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ต้องหยุดมองประชาชนเป็นศัตรู หยุดใช้อำนาจบาตรใหญ่ หากผู้มีอำนาจไม่ยอมรับฟังเสียงเรียกร้องแห่งยุคสมัย ไม่ยอมเจรจาประนีประนอมกับประชาชน ประเทศชาติจะไร้ซึ่งอนาคต

แนวร่วมทวงคืนหมู่บ้านทะลุฟ้า

ต่อมาเวลา 14.30 น. บริเวณแยกพาณิชยการ ถนนพระราม 5 เครือข่ายรามคำแหงเพื่อประชาธิปไตย นำโดยนายนันทพงศ์ ปานมาศ และนายกฤษณ ไก่แก้ว พร้อมมวลชนแนวร่วมกลุ่มหมู่บ้านทะลุฟ้าและภาคีเครือข่ายเซฟบางกลอยจำนวนหนึ่ง มาทำกิจกรรมใช้ชื่อว่า “ทวงคืนหมู่บ้านทะลุฟ้า” ประณามการกระทำของเจ้าหน้าที่ เริ่มปราศรัยบริเวณถนนพระรามที่ 5 เวลา 15.00 น. ระบุว่าต้องการกลับมา ทวงคืนความยุติธรรมให้เพื่อนๆ 67 คนที่ถูกคุมตัว ที่ ตชด.ภาค 1 กลุ่มปักหลักชุมนุมนานนับ 10 วันโดยสงบไม่มีอาวุธ หรือใช้ความรุนแรง ขอตั้งคำถามว่า การเข้าสลายการชุมนุมช่วงเช้า มีคำสั่งศาลตามวิธีปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะหรือไม่ การ อ้างว่าเป็นไปตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อการควบคุมโรค บังคับใช้เพื่อควบคุมโรคหรือควบคุมม็อบ ยืนยันว่าจะปักหลักชุมนุมย้ำ 4 ข้อเรียกร้องของกลุ่ม จากนั้นปูผ้าใบใช้เป็นสถานที่ทำกิจกรรม ประเด็นร่วมกันประณามการสลายและจับกุมไม่ชอบธรรม เรียกร้องปล่อยตัวทุกคนอย่างไม่มีเงื่อนไข ขณะที่ตำรวจ อคฝ.ยังตรึงกำลังอยู่หลังเวทีปราศรัย มีแผงเหล็กกั้นระหว่างตำรวจกับจุดเสวนา

จับอีก 20 คนรวม “ไบรท์”

ต่อมาเวลา 18.20 น. ตำรวจ อคฝ.นำกำลังเข้าปิดล้อมกลุ่มผู้ชุมนุมที่นอนอยู่บนผ้าใบสีฟ้ากลางสะพานชมัยมรุเชฐ แล้วชูสัญลักษณ์ 3 นิ้ว และรูปแกนนำแนวร่วมกลุ่มราษฎรที่ถูกขังอยู่ในเรือนจำ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ใช้วิธีผลักดันให้ออกจากสะพาน แต่มีการขัดขืนผลักดันกัน ตำรวจ อคฝ.ตัดสินใจควบคุมตัวผู้ที่ขัดขืนประมาณ 20 คน รวมทั้งนายชินวัตร จันทร์กระจ่าง หรือไบรท์ แกนนำคนรุ่นใหม่นนทบุรี ขึ้นรถควบคุมผู้ต้องหาไปสอบสวนดำเนินคดี โดยตำรวจยังตรึงกำลังปิดสะพานชมัยมรุเชฐอยู่ต่อไป เนื่องจากมีกลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนปักหลักอยู่บนถนนพิษณุโลกฝั่งแยกนางเลิ้งโดยไม่มีการปิดการจราจร ต่อมาเวลา 18.40 น. มีผู้ประกาศยุติการชุมนุม แต่ยืนยันข้อเรียกร้องเดิม 4 ข้อ

เคลียร์ถนนระเบิดปิงปองลง

หลังจากนั้นเวลา 20.15 น. ขณะตำรวจ อคฝ.เข้ากระชับพื้นที่อีกครั้ง เพื่อเปิดช่องทางการจราจรรอบบริเวณ เริ่มเคลียร์พื้นที่ตั้งแต่สะพานชมัยมรุเชฐไปตามถนนพิษณุโลกยาวจนถึงแยกนางเลิ้ง แต่ยังมีผู้ชุมนุมกระจายตัววิ่งหนีออกนอกพื้นที่ ทันใดนั้นมีเสียงระเบิดปิงปองดังขึ้น 1 ครั้งบริเวณแยกนางเลิ้ง แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต จากนั้นเหตุการณ์กลับเข้าสู่ความสงบ ผู้ชุมนุมสลายตัวออกจากพื้นที่จนหมด

จับเพิ่มอีก 32 คน รวม 99 คน

ที่แยกนางเลิ้ง พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. ให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนในพื้นที่ พล.ต.ต.ปิยะกล่าวว่า ช่วงเช้าตำรวจขอพื้นที่คืนจากผู้ชุมนุมที่หมู่บ้านทะลุฟ้า พร้อมจับกุมผู้ชุมนุม 67 คน ช่วงบ่ายและเย็นมีผู้นำผ้ายางสีฟ้าปูพื้นนอนกีดขวางการจราจร ตำรวจแจ้งให้ยุติเป็นระยะตั้งแต่เริ่มรวมตัวกัน และมีการข่าวว่า คนกลุ่มนี้อาจกระทำการให้เกิดความเสียหายต่อความสงบเรียบร้อย ตำรวจต้องบังคับใช้กฎหมายและจับกุมผู้ชุมนุมเพิ่มอีก 32 คน ข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ร.บ.ควบคุมโรค และ พ.ร.บ.จราจรทางบก ก่อนส่งตัวไปยังสถานที่ควบคุมตัวชั่วคราว บช.ปส. เนื่องจากเกรงจะเกิดความแออัดที่ บก.ตชด.ภ.1 จ.ปทุมธานี และจะคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดรวม 99 คน ส่งศาลพิจารณาตามขั้นตอน ส่วนมาตรการต่อจากนี้ พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. สั่งให้กำลังสายตรวจ ทุกพื้นที่ออกตระเวนรักษาความเรียบร้อย โดยเฉพาะพื้นที่สำคัญใจกลางเมือง และเปิดการจราจรตามปกติ

วีโว่จัดกิจกรรมอนุสาวรีย์ชัย

เย็นวันเดียวกันที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ คณะตัวแทนกลุ่มวีโว่ ส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยต่างๆ ทำกิจกรรมเชิงลักษณ์ แกล้งนอนตายมีใบโปสเตอร์โจมตีตำรวจ-ทหารใช้ความรุนแรงทำร้ายประชาชนที่ออกมาใช้เสรีภาพอย่างสงบ แถลงการณ์ประณามรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ใช้กำลังสลายการชุมนุมกลุ่มหมู่บ้านทะลุฟ้า เรียกร้องให้ศาลยุติธรรมสั่งปล่อยตัวแกนนำและสมาชิกแนวร่วมกลุ่มราษฎรที่ถูกดำเนินคดี ม.112 ให้ยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ลาออกจากนายกฯ และเรียกร้อง ให้ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ ระบุว่า ขอประณามการเข้าจับกุมเมื่อรุ่งเช้าในยามที่ผู้คนเริ่มตื่นนอน คุณกลับนำกองกำลังเข้าจับกุมประชาชนผู้เรียกร้องสิทธิ์ที่ทุกคนควรได้รับ นี่หรือคือการทำงานเพื่อประชาชนของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ เหตุไฉนให้เวลาเพียง 3 นาที จัดการทุกอย่าง หากเป็นคุณ คุณจะเก็บข้าวของทันหรือไม่ ณ ประเทศแห่งนี้ทุกพื้นที่ควรจะเป็นของประชาชน นายกและรัฐมนตรีควรน้อมรับฟังปัญหา และเสียงถ้อยคำสาปแช่ง เพื่อนำไปปรับปรุงแก้ไข

กลุ่มราษฎรประณามตำรวจ

ที่สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสอโศก แนวร่วมกลุ่มราษฎรนำโดย น.ส.วรรณวลี ธรรมสัตยา หรือตี้ พะเยา นำมวลชนจำนวนหนึ่งมาจัดกิจกรรมปราศรัยประณามรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทน์โอชา และกรณีตำรวจสลายหมู่บ้านทะลุฟ้า รวมถึงการบริหารงานราชการแผ่นดินที่ล้มเหลวของนายกรัฐมนตรี เรียกร้องให้ปล่อยตัวแกนนำกลุ่มราษฎร บรรยากาศการชุมนุมเป็นไปด้วยความเรียบร้อยตำรวจ บก.น.5 สน.ทองหล่อ และ สน.ลุมพินี ดูแลความเรียบร้อย