"บิ๊กตู่" หน้าเครียด แผนฉีดวัคซีนไม่ได้ดั่งใจ ชี้ทั้งเรื่องวัคซีนโควิดและเศรษฐกิจต้องเดินไปพร้อมกัน แถมถูกต่อว่า มาตรการแจกเงิน หวังจีดีพีไทยโตถึงร้อยละ 4 ในปีนี้ และปีหน้า
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 26 มี.ค. ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ครั้งที่ 1/2564
โดยนายกฯ กล่าวในช่วงต้นของการประชุม ศบศ.ด้วยใบหน้ายิ้มแย้มทักทายผู้เข้าร่วมประชุมว่า วันนี้ทุกคนที่มาร่วมประชุม ล้วนเป็นหลักในการบริหารช่วงที่มีสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ จึงขอให้ร่วมกันรับฟังข้อเสนอว่า จะสามารถทำอะไรได้บ้าง โดยเฉพาะการทำให้ประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้น และในขณะเดียวกันต้องมีความปลอดภัยจากสถานการณ์โควิด-19 ด้วย หลายอย่างต้องเข้าใจซึ่งกันและกัน
ต่อมาเวลา 10.50 น. หลัง พล.อ.ประยุทธ์ ประชุม ศบศ. ผ่านไปเพียง 50 นาที ได้มอบหมาย นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมต่อ โดยนายกฯ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กล่าวด้วยสีหน้าเคร่งเครียดทันที ที่ถึงโพเดียม แม้ผู้สื่อข่าวและช่างภาพยังมาไม่ถึงว่า ในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ เราต้องดูทั้งเรื่องของปัญหาสุขภาพ และเรื่องของเศรษฐกิจไปพร้อมๆ กัน ทั้งสองอย่างต้องเดินหน้าไปด้วยกัน สิ่งสำคัญที่สุด คือ เรื่องของวัคซีน ได้รับรายงานว่า วันนี้มีการนำวัคซีนเข้ามาอีกยี่ห้อหนึ่ง คือ "จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน" ซึ่งฉีดเพียงเข็มเดียว ถือเป็นสินค้าในภาวะฉุกเฉินก่อนในขณะนี้ จะเห็นได้ว่า รัฐบาลไม่ได้ไปจำกัดใครทั้งสิ้น
วันนี้ก็ได้เน้นย้ำในเรื่องของการฉีดวัคซีนให้เป็นไปตามแผนที่เรามีวัคซีนเข้ามาในประเทศ ทั้ง 3 ยี่ห้อ ประกอบด้วย แอสตราเซเนกา ซิโนแวค และจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน ก็จะทยอยดำเนินการฉีด วันนี้เข้ามาเพียงแค่ 200,000 โดส แล้วก็จะเข้ามาอีก 800,000 โดส เป็น 1 ล้านโดส ภายใน 2 เดือนนี้ ซึ่งอย่าลืมว่า ทั้งหมดเราจะมีวัคซีนเพียงแค่ 2 ล้านโดส ซึ่งก็เหมือนกับประเทศอื่นที่จะทยอยเข้ามา การแข่งขันทางการค้าค่อนข้างสูง แต่หลังจากเดือนเมษายนแล้ว จะเข้ามาอีกมากพอสมควร ประมาณเดือนละ 10 ล้านโดส ดังนั้น เราต้องเร่งรัดในเรื่องการฉีดวัคซีน ซึ่งจะต้องมีการกำหนดว่า จะฉีดที่ไหน อย่างไร และกลุ่มใดบ้าง ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างกระทรวงสาธารณสุข ท้องถิ่น สาธารณสุขจังหวัด และจังหวัดที่สำคัญต้องหาข้อมูลว่า ประชาชนยินดีจะฉีดหรือไม่ หลายคนไม่อยากฉีด ไม่กล้าฉีด แต่ถ้าเรานับจำนวนฉีดวัคซีนวันนี้ เราก็ฉีดได้สอดคล้องกับวัคซีนที่มีอยู่ สิ่งสำคัญที่สุดอีกประการหนึ่ง คือวันนี้เรามีมาตรการช่วยเหลือประชาชนไปมากพอสมควรหลายอย่าง
...
"แต่ก็ไม่ใช่เป็นการไปแจกเงิน แต่เป็นการทำให้ทุกคนสามารถดำรงชีพอยู่ได้ สนับสนุนห่วงโซ่ เรื่องการใช้จ่ายในสังคม ซึ่งตามไปถึงผู้ผลิต นำสู่ถึงวัตถุดิบ ถ้าคนไม่มีกำลังซื้อก็ต้องทำแบบนี้ ขณะเดียวกันก็ต้องเสริมธุรกิจใหม่ของเรา ในการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจ ไม่เช่นนั้นก็จะเป็นอยู่แบบนี้ ทุกคนต้องช่วยกัน ในเรื่องของการลงทุนใหม่ ลงทุนภายในประเทศ การออมเงินของเรามีเพิ่มขึ้นหลายแสนล้าน ไม่ใช่ไม่มีสตางค์ คนมีสตางค์เราก็มี แต่ต้องช่วยเอามาใช้จ่าย ช่วยกันลงทุนบ้าง รัฐบาลเองก็มีเงินจำกัดอยู่แค่นี้ คืองบประมาณแผ่นดินและเงินในส่วนของรัฐวิสาหกิจ ซึ่งก็ต้องเร่งลงทุนไป ถึงคาดการณ์ว่าถ้าเราช่วยกันแบบนี้ทุกภาคส่วน หอการค้า ภาคอุตสาหกรรม รัฐบาล ธุรกิจเอกชน ร่วมมือกันในทุกมิติ เราน่าจะดันจีดีพีของประเทศให้ขึ้นถึงร้อยละ 4 ได้ ในปีนี้และปีหน้า เราตั้งเป้าหมายไว้ เราต้องทำลายอุปสรรคตรงนี้ให้ได้ ด้วยความเข้าใจซึ่งกันและกัน ผมไม่อาจสามารถทำให้ทุกคนเข้าใจได้ทั้งหมด แต่อยากให้ทุกคนพยายามทำความเข้าใจกับผมหน่อย ว่าผมพยายามทำอย่างเต็มที่ ในการใช้จ่ายเงินอย่างระมัดระวัง ไม่มีเงินให้ ก็ไม่ชอบ พอให้ก็บอกว่าแจกเงิน แล้วมันจะไปทางไหน ดังนั้นเวลาจะเสนอแนวทางอะไรก็ขอเสนอวิธีการที่เหมาะสมให้ผมดูด้วย วันนี้ในส่วนนี้เราก็ต้องใช้จ่ายไป เพื่อให้ประชาชนสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ ภาคการผลิตก็สามารถดำเนินการได้ ไม่เช่นนั้นก็จะตกงานกันหมด ทั้งหมดคือวัตถุประสงค์ตรงนี้ ไม่ได้ให้ใครมารักผม เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องทำแบบนี้ ขณะเดียวกันก็ต้องหาเงินให้ได้มากยิ่งขึ้น ว่าจะทำอย่างไรถ้าเราไม่สร้างความเข้าใจซึ่งกันและกัน มันก็ไปไม่ได้ทั้งหมดนั่นแหละประเทศไทย มันไปไม่ได้ ทั้งที่เรามีศักยภาพเยอะพอสมควร คนไทยไม่ใช่ไม่เก่ง เพียงแต่สิ่งที่เรารับรู้รับทราบในวันนี้ เป็นเรื่องของความอุปสรรค ขัดแย้ง จนทุกอย่างไปไม่ได้หมด ผมไม่ได้โทษใคร กรุณาเข้าใจด้วย ผมไม่ได้โทษประชาชน และผมไม่อยากจะโทษใครทั้งสิ้น แค่นี้นะขอบคุณ" พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอย่างมีอารมณ์ฉุนเฉียว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้น นายกฯ ได้เดินกลับขึ้นไปยังห้องทำงาน บนตึกไทยคู่ฟ้า เป็นเวลาประมาณ 5 นาที ก่อนที่จะเดินกลับเข้ามา ร่วมประชุม ศบศ. ต่อ
ผู้สื่อข่าวรายงานจากที่ประชุม ศบศ.ว่า พล.อ.ประยุทธ์ มีอารมณ์หงุดหงิดตั้งแต่วันที่ 25 มี.ค. โดยเฉพาะเรื่องแผนการฉีดวัคซีน ที่ยังมีการทวงถามและความไม่ชัดเจน ในส่วนของภาคเอกชน รวมทั้งมาตรการการช่วยเหลือประชาชน ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ โดยแบ่งความเห็นออกเป็น 2 ฝ่าย ทั้งผู้ที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยในโครงการให้เงินช่วยเหลือประชาชน