เพนกวิน นั่งวีลแชร์มาศาล มีพยาบาลคอยประกบ หลังอดอาหารประท้วงฟังคำสั่งกรณีลุกขึ้นยืนแถลง ก่อนเกิดวุ่นวายมีคนขว้างปาขวดน้ำในศาล ในวันตรวจพยานหลักฐานคดีชุมนุมท้องสนามหลวง 19 กันยา ก่อนศาลมีคำสั่ง ผิดฐาน "ไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดของศาล และประพฤติตนไม่เรียบร้อยในบริเวณศาล" จำคุก 1 เดือน ลดเหลือกักขัง 15 วัน   

เวลา 14.00 น. วันที่ 22 มีนาคม ที่ศาลอาญารัชดาภิเษก ผู้พิากษาได้ออกนั่งบัลลังก์ไต่สวนคดี ที่ผู้อำนวยการสำนักอำนวยการประจำศาลอาญา หรือ ผอ.ศาลอาญา กล่าวหา นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน จำเลยคดี ม.112 และความผิดฐานชุมนุมโดยฝ่าฝืนกฎหมาย เป็นผู้ถูกกล่าวหาคดีละเมิดอำนาจศาล

กรณีเมื่อวันที่ 15 มีนาคม เวลา 10.00 น. ที่ศาลอาญาได้นัดตรวจพยานหลักฐานคดีชุมนุมที่ท้องสนามหลวงวันที่ 19-20 ก.ย.63 และอัยการขอให้รวมสำนวนคดี ปรากฏว่ามีรายงานว่า นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ ปฏิบัติตัวไม่เรียบร้อย โต้ตอบผู้พิพากษาในขณะปฏิบัติหน้าที่ ขออ่านแถลงการณ์ แม้ถูกคัดค้านก็ไม่ยอมฟัง ยังยืนยันอ่านแถลงการณ์โดยลุกขึ้นยืนบนเก้าอี้ จนเกิดเหตุการณ์วุ่นวาย มีคนขว้างขวดน้ำลงพื้น

โดยศาลได้อ่านข้อกล่าวหาของ ผอ.ศาล ให้นายพริษฐ์ฟังจนเป็นที่เข้าใจ ประกอบกับมีหลักฐานเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดบันทึกเหตุการณ์วันเกิดเหตุในห้องพิจารณาคดี และได้สอบถามนายพริษฐ์จะให้การว่าอย่างไร ซึ่งนายพริษฐ์ได้ขอเวลาระบายความอึดอัดใจไปพร้อมกับการแถลง โดยศาลอนุญาตให้นายพริษฐ์ แถลงได้ภายในเวลา 5 นาที

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้นายพริษฐ์เดินทางมาศาลด้วยการนั่งรถเข็นวีลแชร์ มีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ 3-4 เป็นผู้พามาศาล โดยมีทีมพยาบาลจาก รพ.ราชทัณฑ์ 2 คน มาคอยดูแลอาการจากการที่ประท้วงเนื่องจากอดอาหารมาหลายวันแล้ว โดยนายพริษฐ์มีสีหน้าท่าทางอ่อนเพลีย ต้องคอยดมยาดมเป็นระยะ โดยมีพ่อแม่มาคอยให้กำลังใจในการไต่สวน ถึงกับผวาเข้ากอดกัน

...

ทั้งนี้ ระหว่างแถลง นายพริษฐ์ได้กล่าวว่า ตนเองถูกปฏิเสธสิทธิในการประกันตัว ทั้งที่ยังไม่ถูกตัดสินคดีใดๆ โดยศาลให้เหตุผลว่า กลัวกลับไปกระทำผิดซ้ำ ทั้งที่ยังไม่มีการตัดสินว่าการกระทำของตนเองเป็นความผิดแต่อย่างใด ทั้งยังบอกว่าไม่ควรได้สิทธิประกันตัว เพราะไปเหยียบย่ำหัวใจคนไทย เท่ากับว่าศาลได้ตัดสินให้มีความผิดแล้ว จึงเป็นการขัดรัฐธรรมนูญ ผู้ที่ยังไม่ถูกพิพากษาถือเป็นผู้บริสุทธิ์ ต้องไม่ถูกปฏิบัติแบบนักโทษ ไม่คำนึงถึงการใช้ชีวิตที่ยังเป็นนักศึกษา ไม่สามารถไปเล่าเรียนได้ตามปกติ ต้องเข้าห้องสมุดหาหนังสือวรรณกรรมชั้นเลิศอ่าน

จากนั้นศาลได้สอบถาม นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความว่า อยู่ในห้องพิจารณาวันเกิดเหตุด้วยหรือไม่ นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ตอบว่า วันนั้นมีจำเลยที่ได้รับความเดือดร้อนหลายคนแย่งกันพูดหลายรอบหลายหน ในส่วนของนายเพนกวินไม่ได้เกลียดชังศาล แต่ต้องการอธิบายเหตุผลและความอึดอัดใจที่ไม่ได้รับประกันตัว

อย่างไรก็ดี เมื่อศาลให้เปิดภาพจากกล้องวงจรปิดบันทึกภาพในห้องพิจารณาคดีขณะเกิดเหตุ แต่นายเพนกวินก้มหน้าเขียนจดหมาย โดยขอกระดาษจากผู้สื่อข่าวในห้อง แต่ถูกเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ขอตรวจสอบพบว่าเป็นกระดาษเปล่า จึงอนุญาตให้เพนกวินนำไปเขียน ก่อนยื่นให้กับทนายความจำนวน 3 แผ่น เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้ขอตรวจสอบเนื้อหาในจดหมาย แต่ทนายความไม่อนุญาต

ภายหลังเปิดภาพกล้องวงจรปิดได้ราว 5 นาที ทนายความได้ไปปรึกษาคดีกับเพนกวิน จากนั้นทนายความได้แถลงต่อศาลบอกว่า นายเพนกวินยอมรับว่ามีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นจริง แต่เกิดจากสิ่งอัดอั้นที่อยู่ในใจเรื่องไม่ได้รับการประกันตัว

ภายหลังศาลไต่สวนเสร็จสิ้น โดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ศาลจึงทำการปรึกษากันภายในองค์คณะ

เมื่อออกนอกห้องพิจารณาคดีผู้สื่อข่าวได้สอบถาม นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความบอกว่า จดหมายทั้ง 3 แผ่น นายเพนกวินเขียนไว้ใช้เป็นหลักฐานในการยื่นอุทธรณ์คดีนี้ หากศาลมีคำสั่งลงโทษจำคุก จะต้องยื่นอุทธรณ์คำสั่งภายใน 15 วัน จึงถือว่าเป็นหลักฐานในคดี ไม่สามารถให้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ตรวจสอบได้

ต่อมาเวลา 16.30 น. ศาลได้อ่านคำสั่งโดยพิเคราะห์พยานหลักฐานประกอบสำนวนการไต่สวนแล้วเห็นว่า นายพริษฐ์ ผู้ถูกกล่าวหาได้พูดตอบโต้กับผู้พิพากษาในระหว่างพิจารณาและขออ่านคำแถลงการณ์ที่เตรียมมาผู้พิพากษาจึงได้อธิบายสิทธิของจำเลย และการประพฤติตนในห้องพิจารณาคดีให้ผู้ถูกกล่าวหาทราบ แต่ผู้ถูกกล่าวหายังคงยืนยันที่จะอ่านคำแถลงการณ์ที่เตรียมมา ผู้พิพากษาจึงไม่อนุญาต และออกข้อกำหนดเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยในห้องพิจารณา สั่งให้ตำรวจศาลนำตัวผู้ถูกกล่าวหาออกไปจากห้องพิจารณา แต่มีเหตุการณ์ไม่เรียบร้อยเกิดขึ้น ผู้พิพากษาจึงพักการพิจารณาชั่วคราว

ระหว่างนั้นผู้ถูกกล่าวหาได้ยืนขึ้นอ่านคำแถลงการณ์และเกิดเหตุการณ์วุ่นวายในห้องพิจารณาตามคำกล่าวหา การกระทำของผู้ถูกกล่าวหาจึงเป็นการขัดขืนไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดของศาลและประพฤติตนไม่เรียบร้อยในบริเวณศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 31(1) ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15 และมาตรา 180 จึงมีคำสั่งให้ลงโทษจำคุกผู้ถูกกล่าวหามีกำหนด 1 เดือน

ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา นับเป็นเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษกึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 15 วัน

เมื่อพิจารณาถึงอายุ การศึกษาอบรม สภาพความผิด และความรู้สำนึกในการกระทำความผิดของผู้ถูกกล่าวหาแล้ว ประกอบกับโทษจำคุกที่จะลงแก่ผู้ถูกกล่าวหามีกำหนดไม่เกิน 3 เดือน และไม่ปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหาเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน จึงเห็นสมควรให้ลงโทษกักขังแทนโทษจำคุกมีกำหนด 15 วัน นับแต่วันนี้ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 23

จากนั้นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้ควบคุมตัวนายพริษฐ์กลับเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพ โดยในวันนี้ไม่มีมวลชนมาแสดงกำลังใจในบริเวณรอบศาล มีแต่ญาติสนิทประมาณ 10 คนที่มาให้กำลังใจนายเพนกวิน.