ปชป.-ภท.ประสานเสียงเดินหน้าโหวตแก้รัฐธรรมนูญวาระ 3 “เทพไท” ติงพรรคร่วมรัฐบาลอย่าเขียนด้วยมือลบด้วยเท้า หลอกลวงหักหลังประชาชนบี้ พปชร.โชว์จุดยืนให้ชัด เด็ก ปชป.พลิ้วขอถกในวง ส.ส.ก่อน “นิพิฏฐ์” ถามล้างอำนาจแก๊งลากตั้งขอมากไปหรือ “ภราดร” ลั่น ภท.สั่งลุยโหวตตั้ง ส.ส.ร.รื้อ รธน. เลขาฯ “ชวน” ยันลุยโหวตวาระ 3 ไม่มีเป็นอื่น พท.จี้พรรคร่วมเลิกพายเรือให้ “ตู่” นั่ง รอพิสูจน์ความจริงใจพวกนั่งร้าน หวด ส.ส.-ส.ว.หยุดสมคบคิดลากอำนาจ “เสรี” ขอให้รอคำวินิจฉัยกลางก่อน อย่ามอง ส.ว.เป็นผู้ร้ายจ้องคว่ำ “ผู้กองนัส” โยนความเห็นส่วนตัว “วิษณุ” ให้รอฟังจุดยืน พปชร.
แม้บรรดาแกนนำในรัฐบาล และพรรคแกนนำ รัฐบาลอย่างพลังประชารัฐ จะพากันออกมาส่งสัญญาณคว่ำกระดานการแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระ 3 แต่ในส่วนพรรคร่วมรัฐบาลสำคัญอย่างพรรคประชาธิปัตย์ และภูมิใจไทย ยังคงประกาศเดินหน้าโหวตวาระ 3 เพื่อตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ขึ้นมาร่างรัฐธรรมนูญใหม่
“เทพไท” ติงรัฐบาลอย่าลบด้วยเท้า
เมื่อเวลา 10.45 น. วันที่ 14 มี.ค. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขอสนับสนุนแนวทางนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เดินหน้าให้ที่ประชุมร่วมรัฐสภาโหวตลงมติร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญวาระ 3 ต่อไป เป็นแนวทางที่ถูกต้อง และสนับสนุนแนวทางจุดยืนของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ประกาศว่าสามารถลงมติเห็นชอบในวาระ 3 ได้ เพราะเป็นญัตติที่เสนอโดยพรรคร่วมรัฐบาล หากพรรคร่วมรัฐบาลพรรคใดไม่ลงมติสนับสนุนญัตติที่ตัวเองเสนอ ต้องมีคำตอบให้ประชาชนว่ามีความจริงใจมากน้อยแค่ไหน และถือว่าเป็นการเขียนด้วยมือลบด้วยเท้า หลอกลวงหักหลังประชาชน รวมถึงหักหลังพรรคร่วมรัฐบาลกันเอง ทั้งที่การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็น 1 ใน 12 นโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ถ้าญัตตินี้ถูกตีตกไปพรรคร่วมรัฐบาลต้องแสดงความรับผิดชอบทางการเมืองร่วมกัน โดยเฉพาะพรรคประชาธิปัตย์ที่ชูประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็น 1 ใน 3 เงื่อนไขหลักของการเข้าร่วมรัฐบาล ต้องทบทวนเงื่อนไขการเข้าร่วมรัฐบาลแน่นอน พรรคจำเป็นต้องทำ ไม่ใช่แค่คำขู่ แต่เพื่อรักษาจุดยืน หลักการ และอุดมการณ์ที่มีมาร่วม 75 ปี
...
บี้พลังประชารัฐโชว์จุดยืนให้ชัด
นายเทพไทกล่าวต่อว่า ขณะนี้มี 3 พรรคร่วมรัฐบาลที่มีท่าทีชัดเจนว่า โหวตผ่านเพื่อให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ คือ พรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทยพัฒนา รวมถึงพรรคภูมิใจไทย รอแค่ความชัดเจนจากพรรคพลังประชารัฐจะมีจุดยืนอย่างไร เพราะยังมีความเห็นต่างของสมาชิกบางคน เมื่อถามว่าถ้าประชาธิปัตย์ถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล จะส่งผลกระทบให้ต้องยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่หรือไม่ นายเทพไทตอบว่า เป็นอำนาจของนายกฯ ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ถ้าตอบคำถามนี้กับสมาชิกพรรคไม่ได้ ประชาชนจะเสื่อมศรัทธาต่อพรรคได้ ถ้าจะเดินต่อในกรอบเดิมๆ จะยิ่งสร้างความขัดแย้งในสังคม และประชาชน โดยเฉพาะม็อบกลุ่มต่างๆคงไม่ยอม เขาต้องการให้แก้ไขรัฐธรรมนูญก่อนการเลือกตั้ง หากเลือกตั้งภายใต้กติกาเดิม ไม่สามารถแก้ไขปัญหาขัดแย้งในสังคมได้
เด็ก ปชป.พลิ้วขอถกวง ส.ส.ก่อน
นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคยังไม่มีมติในเรื่องนี้ ต้องรอหารือในที่ประชุมพรรควันที่ 16 มี.ค.ก่อน ที่นายเทพไทระบุว่า หากพรรคลงมติไม่เห็นชอบในวาระ 3 ควรทบทวนถอนตัวจากการร่วมรัฐบาลนั้น เป็นคนละเรื่อง การลงมติใดๆต้องคำนึงถึงคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญด้วย แม้นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค ระบุว่าสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย จำเป็นต้องนำเนื้อหาพิจารณาก่อนตัดสินต่อทิศทางที่ ส.ส.ของพรรคจะลงมติวาระ3 ของร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างไร
“นิพิฏฐ์” ถามแก้ รธน.ขอมากไปหรือ
ขณะที่นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า “แก้ไขรัฐธรรมนูญประชาชนขอมากไปหรือ?” เอาประเด็นง่ายๆ เรื่องขอให้ ส.ส.ที่มาจากการเลือกตั้งเลือกนายกฯกันเอง โดย ส.ว.ที่มาจากการแต่งตั้งไม่มีสิทธิเข้าไปเลือก อย่างนี้ประชาชนเขาขอมากไปหรือไม่ ต่อมานายนิพิฏฐ์ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า ประเด็นหลักนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ที่สังคมมองว่าไม่มีความเป็นประชาธิปไตย และเป็นการสืบทอดอำนาจ จึงถามแทนประชาชนว่าเราขอมากไปหรือไม่ และพรรคร่วมรัฐบาลควรกำหนดท่าทีให้ออกมาเป็นทิศทางเดียวกัน ไม่ใช่ไปคนละทาง ถ้าพรรคร่วมรัฐบาลโหวตออกมาในแนวทางเดียวกัน แต่ ส.ว.กลับคว่ำร่างในวาระที่ 3 ก็ต้องมาดูเหตุผลว่า ส.ว.มีที่มาจากใคร
เลขา “ชวน” ยันลุยโหวตวาระ 3
นพ.สุกิจ อัตโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรและประธานรัฐสภา จะไม่นัดประชุมวิป 3 ฝ่ายคือ วุฒิสภา พรรคฝ่ายค้าน และพรรครัฐบาล เพื่อหารือการลงมติร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญวาระ 3 เนื่องจากนายชวนระบุแล้วจะเดินหน้าพิจารณาตามระเบียบวาระที่กำหนดไว้ ดังนั้น วันที่ 17 มี.ค. จะมีการลงมติวาระ 3 ว่าจะเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบร่างแก้รัฐธรรมนูญเท่านั้น อีกทั้งความเห็นคณะทำงานด้านกฎหมายของประธานรัฐสภา ทำความเห็นสรุปว่าการลงมติวาระ 3 สามารถทำได้ เพราะการแก้รัฐธรรมนูญรอบนี้คือการแก้ไขเพิ่มเติม ไม่ใช่กรณีทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่ศาลรัฐธรรมนูญให้ไปทำประชามติถามประชาชนก่อน หากรัฐสภาไม่ลงมติตามขั้นตอน อาจมีผู้ยื่นฟ้องร้องได้ ส่วนการลงมติของรัฐสภาจะเป็นอย่างไรขึ้นอยู่ดุลพินิจแต่ละบุคคล
จี้พรรคร่วมเลิกพายเรือให้ “ตู่” นั่ง
ด้านนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ข้อแนะนำของนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ที่ให้ที่ประชุมรัฐสภาโหวตคว่ำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 3 จะเป็นทางออกดีที่สุดแก้ปัญหาความคลุมเครือคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญนั้น ถือเป็นหลักฐานชัดว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ มีพิมพ์เขียวสืบทอดอำนาจ ประกอบกับคำพูดของนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ อดีตประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ที่ระบุว่า “เขาอยากอยู่ยาว” เราจึงเห็นแต่แท็กติกพายเรือในอ่างซื้อเวลา จึงเป็นสิทธิประชาชนตั้งข้อกล่าวหารัฐบาลยื้อเพื่อสืบทอดอำนาจ หลอกลวงประชาชน ตามทฤษฎีสมคบคิดปกป้องอำนาจและผลประโยชน์ วันนี้ประชาชนพากันหันไปถามพรรคร่วมรัฐบาล ว่าจะร่วมกันพายเรือให้ พล.อ.ประยุทธ์นั่งอีกนานแค่ไหน หาก พล.อ. ประยุทธ์ประเมินการเคลื่อนไหวของการเมืองภาคประชาชนอ่อนกำลังลง อาจคิดผิด สถานการณ์มีสิทธิ์พลิกผันกลายเป็นการเผชิญหน้า ความขัดแย้งรอบใหม่อาจถูกยกระดับขึ้นมา
รอพิสูจน์ความจริงใจพวกนั่งร้าน
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ฝ่ายค้านยืนยันเดินหน้าโหวตวาระ 3 ตามจุดยืนที่เรียกร้องไป หาก ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล และ ส.ว.โหวตให้ชะลอการลงมติวาระ 3 ออกไป เพื่อรอคำวินิจฉัยกลางศาลรัฐธรรมนูญ จะเป็นการพิสูจน์ความจริงใจของรัฐบาล คงต้องถามไปยังพรรคร่วมรัฐบาลที่เคยประกาศจุดยืนเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะตอบประชาชนอย่างไร พรรคเพื่อไทยได้เตรียมผู้อภิปรายชี้แจงไว้แล้ว ว่าเหตุใดต้องเดินหน้าโหวตวาระ 3
หวด ส.ส.-ส.ว.หยุดสมคบคิด
น.ส.อรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การโหวตวาระ 3 วันที่ 17 มี.ค. ขอให้พรรคร่วมรัฐบาล และ ส.ว. คำนึงถึงการเดินหน้าประเทศที่มีรัฐธรรมนูญเป็นกุญแจสำคัญ การที่ ส.ว.และ ส.ส.บางคนข่มขู่ว่าถ้าโหวตวาระ 3 จะยื่นตีความว่าขัดคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ สะท้อนว่า ส.ว. และ ส.ส.รัฐบาล สมคบคิดไม่ให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เป็นต้นเหตุปัญหา ยึดแต่ผลประโยชน์ตัวเองเป็นที่ตั้ง ตามญัตติพรรคร่วมฝ่ายค้านไม่ได้แก้ไขหมวด 1 และหมวด 2 ไม่ได้แก้ทั้งฉบับมาตั้งแต่ต้น ส่วนการทำประชามติสามารถทำได้หลังผ่านวาระ 3 หาก ส.ว.และ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล ยังนิ่งเฉยต่ออำนาจประชาชน พรรคเพื่อไทยจะทำหน้าที่ให้เห็นว่าอำนาจที่แท้จริงของประชาชนเป็นอย่างไร โดยการร่วมสร้างกระบวนการรับรู้ตื่นรู้ในภาคประชาชนให้มากขึ้น
“เสรี” แนะให้รอคำวินิจฉัยกลาง
วันเดียวกัน นายเสรี สุวรรณภานนท์ ส.ว.กล่าวว่า รัฐสภาควรรอการลงมติวาระ 3 ไปก่อน จนกว่าจะมีคำวินิจฉัยกลางเผยแพร่ เชื่อว่าคำวินิจฉัยกลางของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญจะออกมาในไม่ช้า เมื่อถามว่าทิศทางการโหวตของ ส.ว.จะเป็นอย่างไร นายเสรีตอบว่า วันที่ 15 มี.ค. วิปวุฒิสภานัดหารือเรื่องดังกล่าว แต่ไม่ใช่การกำหนดมติวุฒิสภา แต่นำคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญและข้อมูลที่เกี่ยวข้องแจ้งให้ ส.ว.ทราบ เพื่อประกอบการตัดสินใจเท่านั้น ส่วนตัวมองว่า เมื่อคำวินิจฉัยไม่ชัดเจน ทิศทาง ส.ว.อาจเกิดขึ้นได้4ทาง คือ 1.ไม่แสดงตน 2.ไม่เห็นชอบ 3.งดออกเสียง 4.ให้ความเห็นชอบ
อย่ามอง ส.ว.เป็นผู้ร้ายจ้องคว่ำ
เมื่อถามว่า มีหลายฝ่ายประเมินว่า ส.ว.จะโหวตคว่ำ นายเสรีตอบว่า หากใช้คำว่าคว่ำเท่ากับมองว่า ส.ว.เป็นผู้ร้าย ทั้งที่ข้อเท็จจริง ส.ว.ต้องพิจารณาก่อนตัดสินใจลงมติตามเหตุและผล รวมถึงพิจารณาคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ชัดเจนด้วย ส่วนที่ระบุว่า ส.ว.ที่ลงมติรับหลักการวาระแรกแล้ว ควรลงมติเห็นชอบวาระ 3 นั้น เป็นความเข้าใจผิด ส่วนใครที่บอกว่าหากรัฐสภาลงมติเห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญจะไปฟ้อง ป.ป.ช.นั้น ถือเป็นกลไกตรวจสอบถ่วงดุลตามรัฐธรรมนูญ แม้การลงมติจะเป็นอำนาจและดุลพินิจของรัฐสภา แต่ต้องเป็นไปอย่างถูกต้อง และไม่ขัดรัฐธรรมนูญรวมถึงกฎหมายด้วย
“ผู้กองนัส” ขอรอฟังจุดยืน พปชร.
ที่สำนักงาน ก.พ. ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่ารมช.เกษตรและสหกรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงข้อเรียกร้องจากฝ่ายต่างๆให้พรรคพลังประชารัฐแสดงจุดยืนปมการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ชัดเจนว่า ไม่มีความเห็น เป็นหน้าที่วิปรัฐบาลดูแล เราจะไม่ก้าวก่ายการทำงานกัน พรรคนัดประชุมวันที่ 16มี.ค. หากที่ประชุมเห็นว่าอย่างไรก็ว่าอย่างนั้น เมื่อถามว่ามองว่าเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญจะเป็นประเด็นความขัดแย้งรอบใหม่ของพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสตอบว่า อย่ามองไปไกลขนาดนั้น ให้ประชุมพรรคก่อน ส่วนข้อเสนอของนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ที่ให้ไปโหวตคว่ำในวาระ 3 จะได้จบเรื่องและเริ่มต้นใหม่นั้น เป็นข้อเสนอนายวิษณุ พรรคพลังประชารัฐจะประชุมหาข้อสรุปก่อน
“แรมโบ้” แซะ “ชลน่าน” หมกมุ่น
นายเสกสกล อัตถาวงศ์ หรือแรมโบ้อีสานผู้ช่วย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เชื่อว่าข้อเสนอของนายวิษณุไม่ได้ส่งสัญญาณไปถึงใครให้โหวตคว่ำวาระ 3 แต่ตอบคำถามเรื่องที่เป็นไปได้เท่านั้น การแก้ไขรัฐธรรมนูญถือเป็นหน้าที่สมาชิกรัฐสภา นายกฯและรัฐบาลบอกแล้วว่าเห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และพร้อมสนับสนุน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย อย่าตีโพย–ตีพายไปก่อน ยังไม่รู้ว่าจะออกมาอย่างไร มีพรรคร่วมรัฐบาลบางพรรคยืนยันจะโหวตเห็นชอบวาระ 3 เป็นถึงรองหัวหน้าพรรคแต่คิดหมกมุ่นอยู่แต่กับนายกฯ กินไม่ได้ถ่ายไม่ออกก็ปรักปรำโทษแต่นายกฯ ควรปรับพฤติกรรมความคิดให้มากกว่านี้
“สิระ” กร้าวใส่ “ศรีฯ” อย่าคุกคาม
นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ กล่าวตอบโต้นายศรีสุวรรณ จรรยาเลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ที่ขู่จะยื่นฟ้อง ป.ป.ช.เอาผิด ส.ส. ส.ว.ที่ร่วมโหวตวาระ 3 ว่าเป็นพฤติกรรมที่น่าเอือมระอา ทำตัวเป็นนักร้องเหมือนรู้ทุกเรื่อง เสียอย่างเดียวไม่รู้เรื่องตัวเอง ไม่มีความรู้เรื่องกฎหมายจริง มองแต่มุมเห็นประโยชน์ให้ตัวเองโหนกระแสบนหน้าสื่อ อยากเตือนว่าก่อนขู่ใครให้ระวังตัวเอง เพราะขาข้างหนึ่งอาจไปอยู่ในคุกแล้ว เนื่องจากกำลังทำผิดรัฐธรรมนูญมาตรา 114 สิ่งที่นายศรีสุวรรณทำอยู่เป็นการข่มขู่คุกคามฝ่ายนิติบัญญัติ เป็นเรื่องร้ายแรง ส.ส.และ ส.ว.ทุกคนมีสิทธิ์โหวตได้อิสระ ไม่ต้องอยู่ภายใต้อาณัติใคร ไม่ต้องมาก้าวก่ายข่มขู่กัน เรื่องแบบนี้ไม่มีใครกลัวใคร ทุกคนมีคุณวุฒิวัยวุฒิพิจารณาได้ บางคนเป็นนักกฎหมายเข้าใจกฎหมายมากกว่านายศรีสุวรรณด้วยซ้ำ เลิกโหนกระแสเสียที
ภท.สั่งลุยโหวตตั้ง ส.ส.ร.รื้อ รธน.
นายภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง โฆษกพรรคภูมิใจไทยกล่าวว่า พรรคมีเจตนารมณ์แก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ขึ้นมายกร่าง ดังนั้นขบวนการใดที่จะฉุดรั้งการแก้รัฐธรรมนูญให้ยุติลง พรรคภูมิใจไทยขอปฏิเสธทุกแนวทาง และพร้อมเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยตั้ง ส.ส.ร.มายกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ตามแนวทางคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ต้องทำประชามติหลังการพิจารณาวาระ 3 ก่อนที่จะมี ส.ส.ร. ประธานรัฐสภาบรรจุระเบียบวาระและนัดประชุมแล้ว ต้องเดินหน้าต่อไปเป็นอื่นไม่ได้
เกาะติดบทลงโทษก๊วนดาวฤกษ์
นายภราดรยังกล่าวถึงบทลงโทษ 6 ส.ส.กลุ่มดาวฤกษ์ พรรคพลังประชารัฐ ที่โหวตสวนมติพรรคร่วมรัฐบาลในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีที่ผ่านมาว่า พรรคภูมิใจไทยยังรอผลการพิจารณาของคณะกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ ว่าบทลงโทษสำหรับ 6 ส.ส.กลุ่มดาวฤกษ์ จะถูกดำเนินการอย่างไร เราต้องการความชัดเจนจากพรรคแกนนำรัฐบาล เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญที่จะทำให้เสถียรภาพรัฐบาลสั่นคลอน เพราะนั่นคือความศักดิ์สิทธิ์ของมติพรรคร่วมรัฐบาล หากมีคนหนึ่งหรือกลุ่มหนึ่งทำได้ ต่อไปจะมีกลุ่มอื่นตามมา พรรคแกนนำควรมีมาตรการทำโทษที่ชัดเจนออกมาเป็นแนวทาง
“ผู้กองนัส” ทำไม่สนปรับ ครม.
ที่สำนักงาน ก.พ. ฝั่งตรงข้ามทำเนียบรัฐบาล ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวเพียงสั้นๆถึงประเด็นการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มีกระแสข่าวมีสิทธิขึ้นนั่งว่าการ ว่า ไม่ได้ใส่ใจในเรื่องนี้ สนใจแต่เรื่องการทำงานช่วยเหลือประชาชน
โพลชี้เหตุ ปชป.สิ้นมนต์ภาคใต้
อีกเรื่องนิด้าโพลเปิดผลสำรวจความเห็นประชาชนเรื่อง “ทำไมพรรคประชาธิปัตย์พ่ายเลือกตั้งซ่อมนครศรีธรรมราช” สำรวจระหว่างวันที่ 10-11 มี.ค. จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปและมีสิทธิเลือกตั้งในภาคใต้รวม 1,317 หน่วยตัวอย่าง พบว่าส่วนใหญ่ร้อยละ 46.62 ระบุสาเหตุที่ทำให้พรรคประชาธิปัตย์พ่ายแพ้ คือประชาชนเบื่อ/ไม่ชอบวิธีการดำเนินงานการเมือง รองลงมาคือกระแส/ผลงาน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แต่กระแส/ผลงานนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ในภาคใต้ยังไม่แข็งแกร่งพอ พรรคพลังประชารัฐกำหนดยุทธศาสตร์การหาเสียงได้ดีกว่าพรรคประชาธิปัตย์ สำหรับสิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์ควรทำเพื่อให้ภาคใต้ยังคงเป็นฐานเสียงหลัก ส่วนใหญ่ร้อยละ 45.94 ระบุว่า ส.ส. อดีต ส.ส.และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ควรลงพื้นที่ดูแลประชาชนให้มากขึ้น รองลงมาคือผู้บริหารพรรคฯควรทุ่มเทและแสดงผลงานให้เด่นชัดมากขึ้น ควรปรับวิธีการดำเนินงานและยุทธศาสตร์ทางการเมือง รวมถึงควรเปลี่ยนหัวหน้าพรรค เปลี่ยนกรรมการบริหารพรรคฯ ควรไปเป็นฝ่ายค้านสักระยะเพื่อเพิ่มบทบาททางการเมือง
“ราเมศ” โต้ไม่ทำให้หวั่นไหว
นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงผลสำรวจความคิดเห็นนิด้าโพล ว่า พรรคตั้งมา 75 ปี จนเป็นสถาบันการเมือง เรารับฟังทุกความคิดเห็นตลอดมา ไม่หวั่นไหวกับผลการเลือกตั้ง ถือเป็นปกติที่เคยแพ้ เคยชนะมา ก่อนเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ มีเลือกตั้งนายก อบจ. พรรคก็รับชัยชนะมาหลายจังหวัด เช่นเดียวกับที่พรรคผ่านการทำหน้าที่ทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาล โดยเฉพาะช่วงการปฏิวัติเราเป็นพรรคเดียวที่ยังทำหน้าที่ ไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจเพื่อใคร ส่วนผลการเลือกตั้งซ่อมพรรคจะเก็บรายละเอียดเพื่อนำไปวิเคราะห์ปัจจัยในเรื่องต่างๆ ดังนั้นผลโพลที่ออกมาจึงไม่ได้ทำให้เกิดความกังวลใจใดๆ