“บิ๊กป้อม” โอ่ รมต.ใหม่ พปชร.เจ๋ง คัดคนมีความรู้ความสามารถ ใครนั่งกระทรวงไหนโบ้ยถามนายกฯคนจัดวาง “ชัยวุฒิ” แก้ข่าวผู้ใหญ่คอนเฟิร์มนั่ง รมต. ลั่นพร้อมลุยเต็มที่ทุกบทบาท ปชป.นัดถกเคาะชื่อ รมต. 12 มี.ค. กลุ่ม ส.ส.ก่อหวอดเขย่าไล่ รมต.โลกลืม “คุณหญิงกัลยา” เก้าอี้สั่น ส.ส.รุมสวดไร้ผลงาน ไม่ดูแล ส.ส.เขต หน.ปชป.ยึดโควตาเดิม ยันไม่ปิดกั้นคนมีศักยภาพ “วีรศักดิ์” ไม่มีปัญหาโยกข้ามกระทรวง ฝ่ายค้านตั้งวอร์รูมลุ้นคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ “สุทิน” กังวลรับฟังแต่เสียงฝ่ายต้านแก้ รธน. พท.ส่ง ป.ป.ช.ฟันนายกฯ-จุรินทร์ เซ่นทุจริตถุงมือยาง อคส. รมว.พณ.ตัดตอนชี้ผิดแค่ขั้นตอนโอนมัดจำ 2 พันล้าน “ประยุทธ์” งดจ้อหลังสื่อนอกตีข่าวดังทั่วโลกผู้นำไทยไล่ฉีดสเปรย์แอลกอฮอล์ใส่นักข่าว โอดแค่จะเล่นกับสื่อเป็นเรื่องจนได้
โผ ครม. “ประยุทธ์ 2/4” ใกล้ลงตัว โดยพรรคพลังประชารัฐส่งรายชื่อรัฐมนตรีไปก่อนหน้านี้แล้ว ยังคงเหลือในส่วนพรรคภูมิใจไทย (ภท.) เจรจาแลกเปลี่ยน รมช.ข้ามกระทรวงกับพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเกิดแรงกระเพื่อมภายในเมื่อมีกลุ่ม ส.ส.กดดันผู้บริหารพรรคให้เปลี่ยนตัวรัฐมนตรีที่ไร้ผลงาน ไม่มีปฏิสัมพันธ์กับ ส.ส.ของพรรค
...
“บิ๊กป้อม” โว รมต.ใหม่ พปชร.เจ๋ง
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 10 มี.ค. ที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)ให้สัมภาษณ์ถึงการส่งรายชื่อรัฐมนตรีส่วนของพรรคพลังประชารัฐให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหมว่า ส่งไปเรียบร้อยแล้วและเป็นเรื่องของตนว่าจะส่งใครไป เมื่อถามว่าหน้าตารัฐมนตรีใหม่จะออกมาดีหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า “ก็ต้องดีซิ จะไม่ดีได้ยังไง เพราะต้องเป็นคนที่มีความรู้ ความสามารถ”
โบ้ยถามผู้นำ “ธรรมนัส” นั่งดีอีเอส
เมื่อถามว่ามีกระแสข่าว ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ไปนั่งเป็น รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า “ผมไม่รู้ ต้องไปถามนายกฯ ที่เป็นคนจัดว่าใครจะอยู่กระทรวงไหน เพราะผมส่งแต่รายชื่อให้พิจารณาตำแหน่งที่เหมาะสม หน้าที่ของผมคือส่งคนที่มีความรู้ความสามารถไปเท่านั้น ทุกอย่างเป็นอำนาจนายกฯคนเดียว ซึ่งไม่ได้มาปรึกษาผม เป็นความรับผิดชอบของใครของมัน และที่ผ่านมาก็ไม่ได้ปรึกษาว่าผมจะส่งใคร” เมื่อถามว่าพรรคร่วมรัฐบาลได้หารือกับพรรคพลังประชารัฐ เพื่อขอสลับเก้าอี้รัฐมนตรีช่วยหรือไม่ พล.อ.ประวิตรอมยิ้มพร้อมกล่าวว่า ไม่มี ส่วนพรรคพลังประชารัฐเสนอตามโควตาเก้าอี้รัฐมนตรี เมื่อถามว่า ชื่อที่พรรคเสนอไป ตรงตามที่สื่อมวลชนได้เผยแพร่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า “ผมจะไปรู้ได้อย่างไรเล่า ผมส่งก็เป็นเรื่องที่ผมรู้ ไม่ใช่เรื่องที่คุณรู้ ข่าวที่ออกมาผมไม่รู้ จะไปรู้ได้อย่างไร”
“ชัยวุฒิ” พร้อมเต็มที่ทุกบทบาท
ด้านนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ชี้แจงกรณีที่มีข่าวยอมรับว่าผู้ใหญ่ระบุจะได้เป็นรัฐมนตรีแน่นอนว่า ขอปฏิเสธว่าตนไม่ได้พูดว่าได้รับตำแหน่งอย่างแน่นอน ไม่เคยระบุตัวเองได้ชัดเจนแบบนั้น เพียงแต่ทราบจากข่าวว่าพรรคพลังประชารัฐได้เสนอชื่อให้นายกฯได้พิจารณา ส่วนจะได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับนายกฯพิจารณา และเป็นอำนาจ นายกฯเพียงคนเดียว จะพิจารณาคนที่เหมาะสม ขอย้ำไม่ได้พูดว่าจะได้ตำแหน่งอย่างแน่นอน จนถึงขณะนี้ยังไม่มีผู้ใหญ่แจ้งอะไรมาให้ทราบ แต่สำหรับตนหากผู้ใหญ่มอบหมายไม่ว่าอยู่ตรงไหนพร้อมทำงานเต็มที่ทุกบทบาทอยู่แล้ว และเชื่อนายกฯจะพิจารณาคนดีที่สุด เป็นที่พึ่งที่หวังให้กับประชาชน
“ประยุทธ์” งดจ้อสื่อโบกมือบ๊ายบาย
สำหรับความเคลื่อนไหว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เมื่อเวลา 13.30 น. ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ครั้งที่ 1/2564 ต่อมาหลังการประชุม พล.อ.ประยุทธ์เดินกลับขึ้นห้องทำงานตึกไทยคู่ฟ้าทันที โดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์แต่อย่างใด เพียงแต่หันมาโบกมือ พร้อมพูดเพียงว่า “บ๊ายบาย” ให้กับผู้สื่อข่าวเท่านั้น ภายหลังผู้สื่อข่าวถามว่ามีอะไรอยากจะพูดไหม
ปัดไม่ได้งอนสื่อนอกตีข่าวเชิงลบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสอบถามคณะทำงานนายกฯ ถึงสาเหตุที่นายกฯไม่ได้ให้สัมภาษณ์เกิดจากกรณีกระแสวิพากษ์วิจารณ์เหตุการณ์นายกฯไล่ฉีดสเปรย์แอลกอฮอล์ใส่ผู้สื่อข่าว โดยเฉพาะสำนักข่าวต่างประเทศจับเอาไปนำเสนอข่าวเป็นประเด็นใหญ่ ออกมาในเชิงลบต่อภาพลักษณ์ผู้นำของประเทศไทย เมื่อวันที่ 9 มี.ค.หรือไม่ โดยคณะทำงานนายกฯระบุว่า นายกฯไม่ได้งอนอะไร เพียงแต่นายกฯมอบให้ สคร.เป็นผู้แถลงผลการประชุม มีรายงานว่านายกฯได้ปรารภกับคนใกล้ชิด “แค่จะเล่นกับสื่อ เป็นเรื่องจนได้”
ปชป.นัดเคาะรายชื่อ รมต. 12 มี.ค.
ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงเรื่องการปรับ ครม.ในส่วนของพรรคว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯและ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรค และ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค เชิญประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) วันที่ 12 มี.ค.เวลา 14.00 น. และจะมีการประชุมร่วมกรรมการบริหารพรรค และ ส.ส.วันเดียวกันเวลา 16.00 น.ที่ห้องประชุม ชั้น 3 อาคาร ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช มีวาระพิจารณาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองและเรื่องอื่นๆ ยังตอบไม่ได้ว่ามีผู้ใดบ้างที่ถูกเสนอชื่อเพื่อดำรงตำแหน่งทางการเมือง เป็นอำนาจ กก.บห.นำเสนอเพื่อให้ที่ประชุมร่วมกรรมการบริหารพรรคและ ส.ส.พิจารณาอีกครั้ง
ก๊วน ส.ส.เขย่าพ่วงปรับเก้าอี้ “กัลยา”
ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคประชาธิปัตย์ว่า นอกจากกระแสข่าวว่ามีการแลกตำแหน่ง รมช.คมนาคมกับ รมช.พาณิชย์แล้ว ล่าสุดยังเกิดแรงกระเพื่อมในพรรค เนื่องจากมี ส.ส.บางกลุ่มที่เห็นว่าน่าจะถึงรอบการประเมินผลงานของรัฐมนตรีบางคน ที่ไม่ปรากฏผลงานเป็นรูปธรรมจับต้องได้ พุ่งเป้าไปที่ตำแหน่ง รมช.ศึกษาธิการของคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช โดย ส.ส.ส่วนหนึ่งต่างวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนักว่านอกจากเป็นรัฐมนตรีที่ไม่มีผลงานแล้ว ยังไม่ดูแล ส.ส.เขต แม้กระทั่งในการลงพื้นที่ไปช่วยรณรงค์หาเสียงยังจำชื่อ ส.ส.ของพรรค หรือจำจังหวัด ส.ส.เขตสลับจังหวัด จึงมีการกดดันไปถึงผู้บริหารพรรค เพื่อเรียกร้องให้มีการพิจารณาเพื่อปรับเปลี่ยนไปในคราวเดียวกันนี้เลย ขึ้นอยู่กับที่ประชุมกรรมการบริหารพรรควันที่ 12 มี.ค. จะมีการหยิบยกเรื่องนี้มาพิจารณาด้วย หรือไม่
“อู๊ดด้า” ท่องคาถากอดโควตาเดิม
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯและ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ว่า โควตาพรรคยังคงเหมือนเดิม พรรคจะประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคและประชุม ส.ส.ในวันที่ 12 มี.ค.นี้ เพื่อพิจารณาบุคคลที่มีความเหมาะสม ก่อนเสนอรายชื่อรัฐมนตรีให้นายกฯ การพิจารณาบุคคลที่จะเป็นรัฐมนตรีพรรคเปิดกว้าง ไม่ได้ปิดกั้นใคร หากเป็นคนที่มีความรู้ ความสามารถและมีศักยภาพ ส่วนจะมีการสลับเก้าอี้กับพรรคภูมิใจไทยบางกระทรวงหรือไม่ ได้มอบให้นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคเป็นผู้พิจารณา แต่ขณะนี้ยังคงยึดหลักเดิมและจำนวนที่นั่งเดิม เมื่อถามว่ามีข่าวว่านายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รมช.พาณิชย์ จะสลับเก้าอี้กับ ปชป.ไปนั่งกระทรวงอื่น และให้รัฐมนตรีของ ปชป.จากกระทรวงอื่นมาแทนนั้น นายจุรินทร์กล่าวว่า ยังไม่สามารถตอบได้ ที่ผ่านมาตนและนายวีรศักดิ์ได้ทำงานกันอย่างใกลชิด ไม่มีปัญหา
“วีรศักดิ์” อ้อนรัก พณ.ไร้ปัญหาถ้าโยก
ด้านนายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รมช.พาณิชย์ กล่าวว่า ยังไม่ทราบว่ามีชื่อสลับไปเป็น รมช.คมนาคม ขณะนี้ยังไม่มีการคุยกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย การตัดสินใจสลับเก้าอี้รัฐมนตรีขึ้นกับหัวหน้าพรรคที่เห็นว่าเหมาะสม หากมีการโยกย้ายไปเป็นรัฐมนตรีกระทรวงอื่นก็ไม่มีปัญหา พร้อมทำงานเพื่อพรรคและพรรคร่วมรัฐบาล แต่ขณะนี้ยังทำงานอยู่ที่กระทรวงพาณิชย์ และรู้สึกรักกระทรวงพาณิชย์
ฝ่ายค้านตั้งวอร์รูมเกาะติดศาล รธน.
อีกเรื่องนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญนัดวินิจฉัยคำร้องให้ตีความอำนาจรัฐสภาในการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ในวันที่ 11 มี.ค.ว่า ก่อนหน้านี้ฝ่ายค้านได้ทำความเห็นให้ศาลรัฐธรรมนูญรับฟังความคิดเห็นรอบด้าน ต้องติดตามผลการวินิจฉัยวันที่ 11 มี.ค. มั่นใจว่าอำนาจในการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นอำนาจรัฐสภา และในวันที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย พรรคร่วมฝ่ายค้านได้ตั้งวอร์รูมในเวลา 14.00 น. ที่พรรคเพื่อไทยเพื่อติดตามคำวินิจฉัยอย่างใกล้ชิด และหาแนวทางออกหลังคำวินิจฉัยร่วมกับพรรคร่วมฝ่ายค้าน ส่วนแผนสำรองในการแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา หากศาลรัฐธรรมนูญตีตกการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับนั้นยังไม่ได้มีการพูดคุยอย่างจริงจัง อยากให้รอผลคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญก่อนจะไปในทิศทางใด เมื่อทราบผลคำวินิจฉัยแล้วจะประชุมกำหนดแนวทางพรรคร่วมฝ่ายค้านต่อไป
“สุทิน” กังวลฟังแต่เสียงต้านแก้ รธน.
นายสุทิน คลังแสง ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน ให้สัมภาษณ์ว่าคงดูยากว่าคำวินิจฉัยจะออกมาอย่างไร ข้อกังวลบางฝ่ายที่กลัวว่าจะแก้ไขทั้งฉบับคงไม่ใช่ เพราะเรายืนยันแล้วว่าการแก้ไขยกเว้นหมวด 1 และ 2 ส่วนตัวไม่ค่อยสบายใจตั้งแต่ศาลรัฐธรรมนูญขอฟังความเห็นจากบุคคลที่ไม่ค่อยอยากให้มีแก้รัฐธรรมนูญ แม้พรรคเพื่อไทยพรรคร่วมฝ่ายค้านเสนอให้ฟังความเห็นบุคคลอื่นๆอย่างรอบด้าน แต่ไม่ได้รับการตอบสนอง ตรงนี้เป็นอีกเรื่องที่ไม่ค่อยสบายใจและน่ากังวล ส่วนความคิดเห็นของ ส.ว.บางคน ที่กังวลจะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตราอื่นอีก 38 มาตรา ทำให้กระทบเรื่องพระราชอำนาจ สภาฯเคยลงมติไปแล้ว แม้ฝั่งเขาจะมีเสียงมากกว่ากลับโหวตแพ้ ข้อคิดเห็นนี้จึงไม่มีเหตุผลเพียงพอ ฟังไม่ขึ้น เมื่อถามว่าหากผลคำวินิจฉัยออกมาทางลบ พรรคเพื่อไทยเตรียมแนวทางแก้ไขรายมาตราหรือไม่ นายสุทินกล่าวว่า พรรคเพื่อไทยจะสู้ต่อ แต่จะสู้อย่างไรคงต้องไปปรึกษากับพรรคร่วมฝ่ายค้านและภาคประชาชนว่าจะเอาอย่างไร ในเมื่อทางที่เราจะเดินนั้นแคบลง และถ้าสมมติเราอยากจะแก้ไขรายมาตรา แต่เขาไม่ยอมให้แก้ไข คงแก้ไขไม่ได้อยู่ดี
ปชป.ย้ำจริงใจน้อมรับคำตัดสิน
นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ยังอยู่ระหว่างรอ พ.ร.ฎ.เรียกประชุมสมัยวิสามัญในวันที่ 17-18 มี.ค.ว่า ที่ผ่านมาพรรคแสดงความจริงใจมาตลอด ตั้งแต่ยื่นเป็น 1 ในเงื่อนไขการร่วมรัฐบาล และเป็น 1 ในนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล จนนำไปสู่ มี ส.ส.พรรค ยื่นให้ตั้ง กมธ.วิสามัญเพื่อศึกษาการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ จนต่อมามีการเสนอร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญต่อรัฐสภา จากนี้เป็นความตั้งใจของพรรคในการผลักดันให้มีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ที่มีความเป็นประชาธิปไตยมากยิ่งขึ้นในชั้นการพิจารณาของรัฐสภา โดยต้องการให้ดำเนินกระบวนการต่างๆเป็นไปตามครรลองที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ วันที่ 11 มี.ค. จะนัดฟังคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ พรรคพร้อมน้อมรับในคำวินิจฉัยที่จะออกมา
“เสรีฯ” ติงไม่ควรก้าวล่วงอำนาจรัฐสภา
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทยกล่าวว่า ศาลรัฐธรรมนูญไม่ควรก้าวล่วงอำนาจของรัฐสภา เพราะการแก้รัฐธรรมนูญเป็นอำนาจรัฐสภาที่จะดำเนินการอยู่แล้ว ศาลควรอยู่ส่วนศาล ไม่ควรมาก้าวล่วงอำนาจรัฐสภา ฝ่ายค้านจะนัดประชุมกัน เพื่อเตรียมรองรับการแก้ไขปัญหา หากศาลรัฐธรรมนูญชี้ว่าไม่สามารถแก้ไขทั้งฉบับได้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 11 มี.ค. เวลา 11.00 น.ที่พรรคเพื่อไทย มีการประชุมหัวหน้าพรรคร่วมฝ่ายค้าน เพื่อกำหนดท่าทีและการดำเนินการหลังคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญกรณีอำนาจหน้าที่ของรัฐสภาสามารถแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญได้หรือไม่
ฟ้อง กกต.ไม่ป้องกันการซื้อเสียง
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวถึงการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 3 นครศรีธรรมราชที่ผ่านมาว่า มีการซื้อสิทธิขายเสียงโดยพรรครัฐบาล เพราะเป็นไปได้อย่างไรที่พรรคพลังประชารัฐและพรรคประชาธิปัตย์จะได้เสียงเพิ่มมาหมื่นกว่าเสียง พรรคประชาธิปัตย์และพรรคพลังประชารัฐต่างซื้อเสียงทั้งนั้น การเลือกตั้งครั้งนี้วัดกันที่กำลังเงิน ตนมีข้อมูลแต่สามารถเอาผิดได้แค่ตัวเล็กๆ ในครั้งนี้จึงไม่มีการฟ้องร้องใดๆ เพราะที่ผ่านมาการเลือกตั้งที่ จ.ลำปาง และสมุทรปราการมีหลักฐานชัดเจน ยื่น กกต.ไปแล้ว แต่เรื่องเงียบเฉย ดังนั้นครั้งนี้จะฟ้อง กกต.แทน เพราะไม่มีปัญญาป้องกันการซื้อสิทธิขายเสียง ประธาน กกต.ควรลาออกจากตำแหน่ง
ขยี้ ลต.ซ่อมชุมพร–สงขลา ปชป.แพ้อีก
เมื่อถามว่าการที่พรรคพลังประชารัฐชนะเลือกตั้งครั้งนี้ เพราะ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคลงพื้นที่ไปเองหรือไม่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ตอบว่า พล.อ.ประวิตรเดินไม่ไหวอยู่แล้ว ขึ้นเวทีต้องทำลิฟต์ให้ แล้วต้องมาทำลิฟต์ให้ในทำเนียบฯอีก แบบนี้จะไปช่วยอะไร อย่าบอกว่าพรรคพลังประชารัฐเดินเคาะประตูตามบ้านเพราะไม่เคยเห็น ผลการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นบทเรียนให้พรรคประชาธิปัตย์คิดว่า หากยังอยู่ร่วมรัฐบาลต่อไปจะหมดอนาคตในการเลือกตั้งครั้งหน้า ไม่มีที่ยืน อาจแพ้พรรคเสรีรวมไทย เร็วๆนี้จะมีการเลือกตั้งซ่อมที่ จ.ชุมพร และสงขลา ผลจะออกมารูปแบบเดียวกันอีก พรรคพลังประชารัฐจะสู้เต็มที่ไม่สนใจมารยาททางการเมือง พรรคประชาธิปัตย์จะสู้ได้หรือ จะถูกพรรคพลังประชารัฐยึดทุกเขต ดังนั้นจะยอมเป็นเบี้ยถูกย่ำยีอีกหรือ หากเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์จะลาออกจากรัฐบาล เพื่อให้ยุบสภาจัดการเลือกตั้งใหม่ มองว่าพรรคประชาธิปัตย์เป็นแค่คนรับใช้เผด็จการ ไม่ได้เป็นเผด็จการเอง ยังพอพูดคุยกับพรรคเสรีรวมไทยได้ แต่ถ้าเป็นเผด็จการตัวจริงตนไม่คุยด้วย
พท.ส่ง ป.ป.ช.ฟันนายกฯ–จุรินทร์
เมื่อเวลา 10.00 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ยื่นเรื่องต่อ ป.ป.ช.เอาผิด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กับนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ กรณีปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริตการซื้อขายถุงมือยางขององค์การคลังสินค้า (อคส.)มูลค่า 112,500 ล้านบาท โดยนายประเสริฐกล่าวว่า นำหลักฐานกล่าวหา พล.อ.ประยุทธ์และนายจุรินทร์ 32 หน้า พร้อมเอกสารประกอบ 47 รายการ ยื่นต่อ ป.ป.ช.ให้ไต่สวนเป็นกรณีเร่งด่วน กรณีการทำสัญญาลวงซื้อขายถุงมือยางของ อคส.ตามที่ได้อภิปรายไม่ไว้วางใจไป พล.อ.ประยุทธ์ต้องร่วมรับผิดชอบด้วย ในฐานะประธานกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ แต่จงใจร่วมกับนายจุรินทร์ปกปิดการกระทำทุจริตในหน่วยงานและไม่ยับยั้งความเสียหายจากการทุจริต ทำให้ผู้กระทำผิดยักย้ายถ่ายโอนเงินทุจริต 2,000 ล้านบาท ไปจนเสร็จสิ้น ทั้งที่อยู่ในอำนาจจะยับยั้งได้ แต่ละเว้นไม่ทำ
ร่วมปกปิดทุจริตงาบถุงมือยาง อคส.
นายประเสริฐกล่าวอีกว่า ส่วนนายจุรินทร์มีความผิดกรณีเอื้อประโยชน์แต่งตั้งคนสนิท ที่ไม่มีคุณสมบัติมาเป็นประธาน อคส. โดยมีพยานหลักฐานเป็นคลิปการประชุมคณะกรรมการ อคส.เป็นเสียงนายสุชาติ เตชจักรเสมา ประธาน อคส.พาดพิงถึงนายจุรินทร์ อีกทั้งนายจุรินทร์ยังมีพฤติกรรมร่วมปกปิดการทุจริตที่ ป.ป.ช.ต้องสอบว่า นายจุรินทร์รู้เห็นเป็นใจกับประธาน อคส.ในการทุจริตหรือไม่ ทั้งนี้ได้ยื่นเอาผิด พล.อ.ประยุทธ์และนายจุรินทร์ข้อหาทำผิดประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 และผิดจริยธรรมร้ายแรงด้วย หลังจากนี้สัปดาห์หน้าจะยื่นเอาผิดนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ อดีต รมว.ศึกษาธิการ กรณีแต่งตั้งผู้ขาดคุณสมบัติเป็นเลขาธิการสำนักงานส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) จะทยอยยื่นรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายให้เสร็จภายในเดือน มี.ค.นี้
“จุรินทร์” ตัดตอนผิดแค่โอนมัดจำ
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯและ รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า กำลังให้เร่งสอบสวนกรณีการจัดซื้อถุงมือยางขององค์การคลังสินค้า (อคส.) ให้เสร็จโดยเร็ว จากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการลงโทษ 1. ตั้งกรรมการชี้โทษ 2.ชี้โทษทางแพ่งต่อผู้กระทำความผิดที่ต้องชดใช้เงิน ในส่วนผู้กระทำผิดระดับ ผอ.อคส.ขึ้นไปเป็นหน้าที่ ป.ป.ช.จะชี้มูล ได้อายัดบัญชีเส้นทางการเงิน 2,000 ล้านบาทที่อดีตรักษาการ ผอ.อคส.โอนให้บริษัทการ์เดียนโกลฟส์ไปแล้วรวมทั้ง 8 สัญญาจัดซื้อมูลค่า 112,500 ล้านบาท ฝ่ายกฎหมาย อคส.รายงานแล้วน่าจะเป็นโมฆะเพราะบางบริษัทที่เซ็นสัญญาไม่ประทับตราบริษัทหรือไม่มีอำนาจตามกฎหมายถือว่ายังไม่เกิดขึ้น จะมีปัญหาเฉพาะเงินมัดจำ 2,000 ล้านบาทที่โอนไปเท่านั้น ใครผิดไม่เอาไว้ เร่งรัดติดตามจริงจังจัดการจนถึงที่สุด ไม่ว่าทางวินัย อาญาหรือทางแพ่ง
ป.ป.ช.ยื่นศาลฎีกาเอาผิด “ปารีณา”
นายนิวัติไชย เกษมมงคล รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะโฆษก ป.ป.ช. กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินการเอาผิดทางจริยธรรม น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ กรณีบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ จ.ราชบุรีว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการเซ็นรับรองมติของ ป.ป.ช. และการรับรองรายงานการประชุม เพื่อเตรียมส่งเอกสารให้ศาลฎีกาดำเนินการเอาผิด น.ส.ปารีณา คาดว่าจะยื่นต่อศาลได้ในวันที่ 11 มี.ค.หรือช้าสุดช่วงต้นสัปดาห์หน้า ถือว่ายังอยู่ตามกรอบเวลาที่กฎหมายกำหนดเอาไว้ว่าหลัง ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิดแล้ว จะต้องดำเนินการยื่นเรื่องต่อศาลให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน ส่วนการตรวจสอบ ส.ส.รายอื่นๆอีกกว่า 10 คน ที่เข้าข่ายถูกตรวจสอบความผิดทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงเช่นเดียวกับ น.ส.ปารีณาอยู่ระหว่างหาข้อมูลเพิ่มเติม ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ขณะนี้ยังไม่มีรายใดรวบรวมหลักฐานได้ครบถ้วนถึงขั้นสามารถนำเข้าสู่การพิจารณาที่ประชุม ป.ป.ช.ชุดใหญ่
สร้างไทยชง 7 มาตรการกู้เชื่อมั่น ปท.
วันเดียวกัน คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานกลุ่มสร้างไทย โพสต์เฟซบุ๊กเสนอ 7 มาตรการเร่งด่วนเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนไทยและต่างประเทศ 1.ปฏิรูประบบคิดของราชการ จากการทำตัวเป็นผู้กำกับควบคุม (คือทั้งกำกับและควบคุม) มาเป็น “ผู้สนับสนุนส่งเสริม” ให้ประชาชนทำมาหากินได้อย่างสะดวก 2.“ปฏิรูปกฎหมาย” ที่ซ้ำซ้อนและเป็นอุปสรรคต่อการดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ออกกฎหมายใหม่ส่งเสริมการค้า การลงทุนสำหรับคนตัวเล็กให้เร็วที่สุด 3.เร่งดำเนินการข้อตกลงการค้าเสรี เพื่อโอกาสการส่งออกสินค้าไทย เช่น เวียดนามมีข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) 16 ฉบับกับ 53 ประเทศ ไทยมีเพียง 14 ฉบับกับ 18 ประเทศ 4.ให้ความสำคัญ กับการพัฒนาคน การพัฒนาระบบการศึกษา ส่งเสริมให้เด็กได้รับการศึกษาถ้วนหน้า ต้องทำให้เด็กไทยมีความรู้ที่จะเป็น “พลเมืองของโลก” มีความรู้เรื่องภาษา เทคโนโลยีสมัยใหม่ และส่งเสริมให้เกิดนวัตกรรมใหม่ๆ ส่งเสริมให้เกิด Start up 5.พัฒนาแรงงานไทย ให้มีความรู้และทักษะตรงความต้องการของผู้ประกอบการ บริษัทข้ามชาติต่างๆจึงจะเข้ามาลงทุนในประเทศไทย 6.ต้องสร้างความมั่นใจให้นักลงทุนเรื่องความโปร่งใส ธรรมาภิบาล และความเป็นนิติรัฐของรัฐบาล และระบบราชการไทย 7.เร่งปรับปรุงการบริหารราชการ เข้าสู่ E-Government อย่างแท้จริง
“ปู” เปิด “โต่วอิน” เอาใจแฟนคลับจีน
วันเดียวกัน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เปิดแอปพลิเคชันโต่วอิน หรือ ติ๊กต่อกของประเทศจีน เอาใจแฟนคลับชาวจีน ชื่อบัญชี “Yingla888” เนื่องจากเป็นชื่อที่ชาวจีนใช้เรียกอดีตนายกฯ แอปพลิเคชันดังกล่าวมีความแตกต่างกับติ๊กต่อกตรงที่มียอดดาวน์โหลดเป็นอันดับหนึ่งของโลกในปีที่ผ่านมา และเป็นที่นิยมของชาวจีนสูงมาก แต่จะใช้ได้เฉพาะผู้อยู่อาศัยในประเทศจีนเท่านั้น ความโด่งดังของแอปพลิเคชันโต่วอิน กลายเป็นอันดับ 1 ในอุตสาหกรรมการบันเทิงของจีนและอันดับ 2 ในอุตสาหกรรมโฆษณาออนไลน์ในจีน กลายเป็นที่นิยมสำหรับนักการตลาดที่ต้องการบุกเบิกตลาดนำสินค้าเข้าจีนอย่างเลี่ยงไม่ได้ ทั้งนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังได้โพสต์คลิปวิดีโอดังกล่าวในเฟซบุ๊กและไอจีสตอรีอีกด้วย