รองโฆษกอัยการสูงสุด เผยสั่งฟ้อง 18 แกนนำราษฎร ชุมนุม 19 กันยา ส่วน "รุ้ง-ไมค์-ไผ่" ที่นัดมาวันนี้ ทั้ง 3 คน ถูกแจ้งข้อหา ม.112 เพิ่ม ยันไม่มีการฟ้องเกินกว่าเหตุ ใช้มาตรฐานเดียวกับคดีอื่นๆ
วันที่ 8 มี.ค. ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.รัชดาภิเษก นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวถึงคำสั่งฟ้องคดีชุมนุม 19 กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร กับ 18 ผู้ต้องหา แกนนำและแนวร่วมกลุ่มราษฎร ว่า สำนักงานอัยการคดีอาญา 7 ได้นัดผู้ต้องหาที่เหลือทั้ง 18 คน ซึ่งก่อนหน้านี้มีฟ้องไปแล้วบางส่วน เช่น นายอานนท์ นำภา, นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน
โดยผู้ต้องหาทั้ง 18 คน จะถูกฟ้องข้อหาร่วมกันกระทำผิดฐานยุยงปลุกปั่นฯ ป.อาญา ม.116, ร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปฯ ป.อาญา ม.215, ฝ่าฝืน พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะฯ, ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, กีดขวางทางสาธารณะฯ, ร่วมกันกีดขวางการจราจรฯ, ตั้งวางวัตถุบนถนนอันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายฯ, ทำลายโบราณสถานฯ, ทำให้เสียทรัพย์ฯ และร่วมกันโฆษณาเครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ รวม 11 ข้อหา แต่ น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง, นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์ และนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน เฉพาะ 3 คนนี้จะมีข้อหาหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ ป.อาญา ม.112 เพิ่มเติม
นายประยุทธ กล่าวด้วยว่า กรณีมีการสั่งฟ้องไว้แล้ว และนัดผู้ต้องหาทั้งหมดมาในวันนี้ ส่วนกรณีของนายไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธ์ หรือแอมมี่ (อยู่ในเรือนจำหลังถูกฝากขังไม่ได้ประกันตัว คดีวางเพลิงเผาทรัพย์ฯ) ก็คงต้องส่งฟ้องโดยวิธีการเบิกตัว เพราะอยู่ในการควบคุมของเจ้าหน้าที่
ทั้งนี้ ทางผู้ต้องหาไม่มีการร้องขอความเป็นธรรมผ่านทางอัยการ สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ การประกันตัวขึ้นอยู่กับความจำนงของผู้ต้องหา และการพิจารณาของศาล
...
เมื่อถามว่ามวลชนมองว่า กระบวนการยุติธรรมมีการฟ้องเกินกว่าเหตุหรือไม่ นายชาญชัย ชลานนท์นิวัฒน์ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า ใช้มาตรฐานเดียวกับกับคดีอาญาอื่นๆ โดยมีการพิจารณาไปตามพยานหลักฐานจากข้อเท็จจริง จากการสอบสวน ความจริงจะเป็นเช่นไรก็ขึ้นกับการซักค้านในชั้นศาล สำนวนในวันนี้จะนำไปรวมกับสำนวนแรกที่มีการฟ้องไปก่อนหน้านี้ ส่วนเรื่องการประกันตัว ทางพนักงานสอบสวนได้คัดค้านการปล่อยชั่วคราวและให้เหตุผลว่ามีอัตราโทษสูง ซึ่งต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณาของศาล ผู้ต้องหาบางคนอาจจะได้ประกันตัวก็เป็นไปได้
ในเวลาไล่เลี่ยกัน นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า เดินทางมาให้กำลังใจ 18 ผู้ต้องหา แกนนำและแนวร่วมกลุ่มราษฎร ที่เข้าฟังคำสั่งคดี โดยให้สัมภาษณ์ว่า ใน 18 คนนี้ หลายคนต่อสู้ร่วมขบวนการประชาธิปไตยมา อย่างนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน ตั้งแต่ร่วมกันโหวตโนไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ นายอดิศักดิ์ สมบัติคำ และนายณัทพัช อัคฮาด เป็นอดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ นายชินวัตร จันทร์กระจ่าง หรือไบร์ท เคยทำงานกับเครือข่ายเยาวชนนนทบุรีของพรรคอนาคตใหม่ และอีกหลายคน วันนี้พรรคถูกยุบไปหลายคนก็มาเคลื่อนไหวเรื่องประชาธิปไตย
นายปิยบุตร กล่าวต่อไปว่า อยากฝากถึงบุคคลผู้มีอำนาจกระบวนการยุติธรรมทั้งหมด หลักใหญ่ใจความที่ควรคำนึงถึงคือกลุ่มคนเหล่านี้ไม่ใช่อาชญากร เป็นคนหวังดีต่อชาติบ้านเมือง อยากให้บ้านเมืองเปลี่ยนแปลงเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น ใช้เสรีภาพตามที่รัฐธรรมนูญรับรองไว้ การใช้กฎหมายตีความต่างๆ ควรคำนึงถึงสิทธิเสรีภาพเป็นหลัก เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง นอกจากนั้นแล้วตามรัฐธรรมนูญสันนิษฐานไว้ว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ สิทธิในการได้รับการปล่อยชั่วคราวเป็นสิทธิพื้นฐาน
นายปิยบุตร กล่าวด้วยว่า การใช้ ป.อาญา ม.112 ห้ำหั่นกันแบบนี้ไม่เป็นประโยชน์ต่อใครเลย หากคิดว่าจะต้องจัดการเอากฎหมายปิดปาก ตนเห็นว่าวิธีการนี้ปิดปากไม่ได้ ถ้าเห็นว่าพวกเขามองสถาบันไม่เหมือนคนรุ่นก่อน การเอาไปขังคุกไม่ช่วยอะไร ไม่มีทางเปลี่ยนวิธีคิดแน่นอน ยิ่งจับยิ่งบานปลาย
ล่าสุด ศาลพิจารณาแล้ว ไม่อนุญาตให้ประกันตัว ทั้ง น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์ และนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน ที่ถูกแจ้งข้อหามาตรา 112 ซึ่งทั้ง 3 คน จะต้องถูกนำตัวเข้าควบคุมในเรือนจำ ระหว่างการพิจารณาคดี.