ครม.ใหม่ หวยจะไปที่ใคร? เท่าที่ฟังเสียงจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ไล่ตั้งแต่นายกฯผู้มีอำนาจแต่งตั้งบอกว่า ให้ทุกพรรคการเมืองร่วมรัฐบาลไปพูดคุยกันว่าจะเอายังไง เสนอชื่อใคร

ส่งมาให้ก็จะตัดสินใจด้วยตนเอง...น่าจะเสร็จสิ้นปลายเดือนนี้ถึงต้นเดือนหน้า

มองจากรูปการณ์แล้ว นายกฯคงมีโครงร่างในใจอยู่แล้วว่าจะดำเนินการหรือตัดสินใจอย่างไรต่อไป

นี่รวมถึง “พรรคจิ๋ว” ด้วยนะ...

พูดง่ายๆว่าเปิดกว้างให้ทุกพรรคได้หารือเพื่อให้มีทางออกที่ดีที่สุดเพื่อหยุดความสับสนวุ่นวายที่กำลังเกิดขึ้น

เนื่องจากทุกคน ทุกพรรคก็อยากเป็น “รัฐมนตรี” กันทั้งนั้น

โควตาเดิมที่แบ่งสันกันนั้นเอาเลข 7 เป็นตัวตั้งคือ พรรคไหน ได้เท่าไรก็อยู่ในจำนวนนี้ พลังประชารัฐ 18 คน ภูมิใจไทย 7 คน และประชาธิปัตย์ 7 คน เป็นหลัก

ที่หลุดไปมี 3 คน จากพลังประชารัฐ 2 คน และประชาธิปัตย์ 1 คน

ถ้าตั้งตามนี้ด้วยการส่งชื่อเข้ามาทดแทนก็จบ...

แต่การเมืองนั้นมันมีช่องทางขยับเขยื้อนได้เพื่อสนองประโยชน์ร่วมกัน หากเพื่อชาติบ้านเมืองก็ต้อง “เขย่า” คัดเจ๋งๆเข้ามาช่วยกันทำงาน

หากตรงกันข้ามก็จะต่างกันไปเพื่อเอกภาพ เสถียรภาพและความมั่นคงของรัฐบาลสมคบคิดประโยชน์ร่วมกันต่อไป

ตัวแปรหนึ่งที่ไม่ควรมองข้ามโดยเฉพาะประชาธิปัตย์ หากจำนวน ส.ส.ลดลงก็จะทำให้เสียงสนับสนุนลดลงตามไปด้วย

หล่นไปอยู่พรรคที่ 3 ที่ฝ่ามือหายไปอีก

การเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 3 นครศรีธรรมราช ในวันที่ 7 มี.ค.64 ที่จะถึงนี้ จึงเป็นสนามที่มีผลต่อการเมืองด้วย

เพราะถ้าประชาธิปัตย์แพ้เลือกตั้ง นอกจากจะมี ส.ส.น้อยลง 1 เก้าอี้ สถานภาพ ดุลอำนาจต่อรองในรัฐบาลก็จะลดลงโดยปริยาย

...

อีกทั้งผลในระยะยาว ภาคใต้ที่เคยเป็นฐานที่มั่นสำคัญมายาวนานก็จะสั่นคลอนหนักเข้าไปอีก เพราะทุกวันนี้ก็ถูกพรรคอื่น ทะลุทะลวงแย่ง ส.ส.ไปหลายเขตหลายจังหวัด

การเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้จึงเป็นเดิมพันสำคัญในทางการเมืองทั้งปัจจุบันและอนาคตข้างหน้า ไม่ว่าพรรคการเมืองไหนก็ตามที่เอาชนะประชาธิปัตย์ได้

ยิ่ง “พลังประชารัฐ” ยิ่งเกินห้ามใจทางการเมือง

ต้องไม่ลืมว่าแขนงการเมืองในปัจจุบันนั้นก็เหลือพรรค การเมืองไม่กี่พรรคที่จะมีบทบาทและนำทัพทางการเมืองต่อไปได้ในฝั่งนี้

การจับขั้วทางการเมืองที่พอจะไปทางเดียวกันได้น่าจะเป็นพลังประชารัฐ ภูมิใจไทย และประชาธิปัตย์เท่านั้น

อยู่ที่ผู้นำพรรคและแต่ละพรรคจะสามารถพัฒนาให้ได้รับการยอมรับแค่ไหน นั่นแหละโอกาสที่จะเป็นแกนนำรัฐบาลต่อไปได้

แพ้-ชนะการเลือกตั้งซ่อมจึงมีความสำคัญที่มีต่ออำนาจการต่อรองทางการเมือง แม้กระทั่งการปรับ ครม.ครั้งนี้ด้วย

“ประชาธิปัตย์” ถ้าแพ้ก็จะได้รู้ล่ะว่า...อะไรจะเกิดขึ้นต่อไป

ขนาดว่า “พี่ใหญ่” โดดลงไปคุมทัพเอง คิดดูก็แล้วกัน...

“สายล่อฟ้า”