จุรินทร์เล็งเชือด3กบฏปชป. ม็อบราษฎรซักฟอกนอกสภา
“อนุทิน” ครองแชมป์โหวตไว้วางใจท่วมท้น 275 เสียง “เสี่ยตั้น” เข็นไม่ขึ้นจบกินบ๊วย 258 เสียง เจอพรรคเล็กรวมหัวคว่ำบาตร “บิ๊กป้อม-ผู้กองนัส” ตีคู่มีแต้มเหนือ “บิ๊กตู่” เฉย 3 กบฏ ปชป.งดออกเสียง “จุรินทร์” งูเห่าฝ่ายค้านทั้ง พท.-ก้าวไกล-เสรีรวมไทย-ประชาชาติ-เพื่อชาติ ชูคอสลอนรอกล้วย นายกฯยังไม่คิดปรับ ครม. ไว้รอถึงเวลาก่อน “ลุงป้อม” จ่อหวด ส.ส.แหกคอก “หนู” กระหยิ่มขย่มโควตาเพิ่ม “จุรินทร์” ให้ “เฉลิมชัย” ไปจัดการ ก้าวไกลกระตุกคองูเห่าไม่ปล่อยเป็นอิสระ ฝ่ายค้านโรยเกลือย้ำแผล ส่งไม้ต่อ ป.ป.ช.สอบ “จุรินทร์-นิพนธ์”กลุ่มราษฎรมาแล้ว เปิดเวทีซักฟอกนอกสภา ตร.จัดเต็มรับมือ
หลังกรำศึกอภิปรายไว้วางใจ 10 รัฐมนตรีมา 4 วันเต็มๆ ผลปรากฏว่านายอนุทิน ชาญวีรกูลรองนายกฯและ รมว.สาธารณสุข ได้รับเสียงโหวตไว้วางใจสูงสุด ส่วนผู้ที่ได้คะแนนต่ำสุดคือ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ ต้องจับตากระแสการปรับ ครม. ที่จะมีแรงกดดันจากปัญหาความล้มเหลวการบริหารงานของรัฐบาล
...
“2 ป.” ลอยลำเสียงโหวตท่วมท้น
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 20 ก.พ. ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาลงมติญัตติการขอเปิดอภิปรายทั่วไปไม่ไว้วางใจ 10 รัฐมนตรี มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม นายชวนแจ้งต่อที่ประชุมว่า ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 ผู้ที่ได้คะแนนไว้วางใจต้องมีคะแนนเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวน ส.ส.ที่มีอยู่ ขณะนี้มี ส.ส.ทั้งสิ้น 487 คน ดังนั้นผู้ได้คะแนนไว้วางใจต้องได้คะแนนมากกว่า 244 เสียงขึ้นไป จากนั้นจึงเริ่มลงมติเริ่มจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้รับโหวตไว้วางใจด้วยคะแนน 272 ต่อ 206 เสียง งดออกเสียง 3 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีได้รับคะแนนไว้วางใจ 274 ต่อ 204 เสียง งดออกเสียง4
“หนู” ครองแชมป์-“ตั้น” จมบ๊วย
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ได้คะแนนไว้วางใจ 275 ต่อ201 งดออกเสียง 6 ถือเป็นรัฐมนตรีที่ได้คะแนนเสียงไว้วางใจสูงสุด นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ได้คะแนนไว้วางใจ 268 ต่อ 207 เสียง งดออกเสียง 7 พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ได้คะแนนไว้วางใจ 272 ต่อ 205 เสียง งดออกเสียง 3 นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณรมว.ศึกษาธิการ ได้คะแนนไว้วางใจ 258 ต่อ 215เสียง งดออกเสียง 8 ถือเป็นรัฐมนตรีที่ได้เสียงไว้วางใจน้อยที่สุด นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ได้คะแนนไว้วางใจ 263 ต่อ 212 เสียง งดออกเสียง 5 ไม่ลงคะแนน 1 นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ได้คะแนนไว้วางใจ 268 ต่อ 201 เสียง งดออกเสียง 12ไม่ลงคะแนน 1 นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย ได้คะแนนไว้วางใจ 272 ต่อ 206 เสียง งดออกเสียง 4 ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ได้คะแนนไว้วางใจ 274 ต่อ 199 เสียง งดออกเสียง5 ไม่ลงคะแนน 1 ถือเป็นรัฐมนตรีที่มีเสียงไม่ไว้วางใจน้อยที่สุด จากนั้นนายชวนแจ้งต่อที่ประชุมว่า ถือว่ารัฐมนตรีทุกคนได้รับเสียงไว้วางใจ พร้อมสั่งปิดประชุม
“เทามนัส” ยิ้มร่า-“เสมา 1” เครียด
ผู้สื่อข่าวรายงาน ในช่วงที่นายชวนขานคะแนนลงมติของ ร.อ.ธรรมนัส ที่มีเสียงไม่ไว้วางใจน้อยที่สุดในบรรดา 10 รัฐมนตรี ร.อ.ธรรมนัสถึงกับยกมือไหว้ และยิ้มขอบคุณ ส.ส.ไปทั่วห้องประชุม ผิดจากก่อนลงมติที่มีอาการลุ้นคะแนนอยู่ตลอดเวลา เช่นเดียวกับ พล.อ.ประวิตร เมื่อเห็นคะแนนไว้วางใจถึง 274 เสียง ก็ยิ้มรับทันที ส่วนนายณัฏฐพลและนายสุชาติมีสีหน้าเคร่งเครียดที่ได้คะแนนน้อยกว่าคนอื่น โดยเฉพาะนายณัฏฐพลที่ได้น้อยที่สุด
งูเห่าฝ่ายค้านชูคอสลอนรอกล้วย
สำหรับผลการลงมติที่น่าสนใจและถูกจับตามอง คือการโหวตของ ส.ส.พรรคฝ่ายค้านที่แปรพักตร์ อาทิ นายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ ส.ส.กทม. น.ส.พรพิมล ธรรมสาร ส.ส.ปทุมธานี นายวันนิวัติ สมบูรณ์ ส.ส.ขอนแก่น นายศักดา คงเพชร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย นายอารี ไกรนรา ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อชาติ นายอนุมัติ ซูสารอ ส.ส.ปัตตานี พรรคประชาชาติ นายเพชร เอกกำลังกุล พล.ต.ท.วิศณุ ม่วงแพรสี ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย ที่มีทั้งโหวตไว้วางใจรัฐมนตรี โหวตงดออกเสียง และไม่ปรากฏการลงคะแนน โดยเฉพาะคะแนนที่นายอนุทินได้รับสูงสุดนั้น พบว่ามี ส.ส.ก้าวไกล 4 คน แหกมติพรรคลงมติไว้วางใจ คือนายขวัญเลิศ พานิชมาท ส.ส.ชลบุรี นายคารม พลพรกลาง ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายพีรเดช คำสมุทร ส.ส.เชียงราย นายเอกภพ เพียรพิเศษ ส.ส.เชียงราย รวมถึง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ที่โหวตงดออกเสียง
3 กบฏ ปชป.งดออกเสียง “จุรินทร์”
ส่วนคะแนนของนายจุรินทร์พบว่ามี 3 ส.ส.ประชาธิปัตย์ที่โหวตงดออกเสียง ได้แก่ นายพนิต วิกิตเศรษฐ์ นายอภิชัย เตชะอุบล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายอันวาร์ สาและ ส.ส.ปัตตานี รวมถึงนายสมพงษ์ โสภณ ส.ส.ระยอง พรรคพลังประชารัฐ โดยทั้งนายพนิตและนายอันวาร์ส่วนใหญ่จะโหวตงดออกเสียงรัฐมนตรี และโหวตไม่ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส แต่ ร.อ.ธรรมนัสมาได้คะแนนจากพรรคเพื่อไทยยกพรรคทั้ง 5 เสียง
พรรคเล็กรวมหัวไล่ “ณัฏฐพล”
ทั้งนี้คะแนนเสียงนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ ที่ได้รับความไว้วางใจน้อยที่สุดนั้น พบว่าเป็น ส.ส.พรรคเล็กร่วมรัฐบาลลงมติไม่ไว้วางใจนายณัฏฐพล ได้แก่ นายดำรง พิเดช ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย พล.ต.ทรงกลด ทิพยรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังชาติไทย นายพีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทรักธรรม นายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธรรมไทย และ ส.ส.พรรคเศรษฐกิจใหม่อีก 5 คน ที่อยู่ฝั่งรัฐบาล ขณะที่พรรคเล็กอีกหลายพรรคงดออกเสียง ได้แก่ นายคฑาเทพ เตชะเดชเรืองกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังไทยรักไทย น.ส.ศิลัมพา เลิศนุวัฒน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลเมืองไทย นายระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังธรรมใหม่ นายยรรยงก์ ถนอมพิชัยธำรง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครักษ์ผืนป่าฯ เช่นเดียวกับนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ที่ได้คะแนนไว้วางใจน้อยที่สุดรองลงมา ที่ถูกพรรคเล็กคว่ำบาตร
นายกฯอ้อน ส.ส.เราไม่ใช่ศัตรูกัน
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังการโหวตอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า ขอบคุณสื่อที่ติดตามการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้อย่างเข้มข้น หลายเรื่องเป็นประโยชน์ จดไว้หมดแล้ว บางอันก็เป็นเรื่องเดิมๆ สิ่งไหนดีรัฐบาลจะนำไปดำเนินการต่อ คงมีเท่านั้น ต้องขอบคุณประธานสภาผู้แทนราษฎร และ ส.ส.ทุกคน เราไม่ใช่ศัตรูกันอยู่แล้ว วิถีทางการเมืองก็ว่ากันไป ขอบคุณที่ทำให้การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ขอความรักความสามัคคีกลับคืนสู่ประเทศของเรา
ยังไม่คิดปรับ ครม.ไว้รอถึงเวลา
ผู้สื่อข่าวถามว่าหลังจากนี้จะมีการปรับ ครม.หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า ยังไม่มี ยังไม่ได้คิดอะไร ประเมินด้วยผลงาน ถึงเวลาดำเนินการอยู่แล้ว เมื่อถามว่าคะแนนโหวตสะท้อนว่าพรรคร่วมรัฐบาลดีหมด แต่ในพรรคพลังประชารัฐมีขย่มกันเอง นายกฯตอบว่า ไม่ทราบ เป็นเรื่องของคะแนนเสียง เป็นมติ และเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของแต่ละคน ใครจะคิดอะไรก็ว่าไป เมื่อถามว่าจากนี้ถือว่ารัฐบาลเดินหน้าทำงานได้อย่างสบายใจพล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า ไม่เคยหยุดงาน ทำทุกวัน ไม่ว่าจะอภิปรายหรือไม่อภิปราย เมื่อถามถึงการหารือกับ ผบ.ตร. หลังการอภิปรายเสร็จสิ้น มีคุยอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า คุยเรื่องสถานการณ์ภายนอก
“บิ๊กป้อม” จ่อหวด ส.ส.แหกคอก
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ขอบคุณประธานสภาฯ และ ส.ส. ที่ทำให้การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ ผ่านไปอย่างเรียบร้อย ถือเป็นการตรวจสอบของฝ่ายค้านตามระบอบประชาธิปไตย และขอบคุณพรรคร่วมรัฐบาลที่สะท้อนให้เห็นถึงความมีเสถียรภาพของรัฐบาลว่าแน่นแฟ้น ในฐานะหัวหน้าพรรคแกนนำจะนำข้อมูลการอภิปรายครั้งนี้ไปประเมินในพรรค ที่นัดประชุมกรรมการบริหารพรรคในสัปดาห์หน้า เพื่อพิจารณามาตรการดำเนินการกับ ส.ส.ที่ไม่ปฏิบัติตามแนวทางของพรรคต่อไป
“อนุทิน” กระหยิ่มขย่มขอเก้าอี้เพิ่ม
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสหลังได้รับโหวตไว้วางใจมากที่สุดว่า ขอให้ดูที่ผลว่าใครกดอะไรไม่กดอะไร ตรวจสอบได้ ขอบคุณเจ้าของคะแนน อาจเป็นเพราะชี้แจงได้ชัดเจน และลบล้างข้อกล่าวหาผู้อภิปรายได้ เมื่อถามว่าการได้คะแนนเสียงไว้วางใจมากกว่านายกฯจะมีผลอะไรหรือไม่ นายอนุทินตอบว่าไม่เกี่ยวกัน เพราะทำงานหนักมาก อาจมีคนสงสารว่าโดนคนเอาเรื่องไม่จริงมาโยนใส่ เมื่อถามถึงการปรับ ครม.มีส่งสัญญาณมาหรือยัง นายอนุทินตอบว่า ตอบไปแล้วว่าไม่มีอะไร คนปรับ ครม.คือนายกฯ ถ้าจะมีปรับนายกฯต้องส่งสัญญาณมาก่อน ถ้านายกฯส่งสัญญาณมาเราก็ต้องประเมินในส่วนรัฐมนตรีของเรา เมื่อถามย้ำว่าถ้ามีการปรับจริง เก้าอี้พรรคภูมิใจไทยจะลดลงหรือไม่ นายอนุทินหัวเราะและย้อนถามว่า “มีเหรอ มีแต่จะขอเพิ่ม”
“จุรินทร์”ให้เลขา ปชป.ไปจัดการ
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯและ รมว.พาณิชย์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกรณี ส.ส.บางคนในพรรคงดออกเสียงให้ว่า ทราบแล้ว นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ รับไปดำเนินการ เท่าที่ตรวจสอบดูมีเสียงหายไป 3 เสียง เมื่อถามว่าการที่ ส.ส.พรรคไม่ลงคะแนนเสียงให้นายจุรินทร์และรัฐมนตรีในพรรคร่วม จะส่งผลกระทบต่อประชาธิปัตย์หรือไม่ นายจุรินทร์ตอบว่า ไม่สามารถตอบได้ว่าจะกระทบอะไรมากน้อยแค่ไหน แต่เรื่องในพรรคเลขาธิการพรรคฯจะรับไปดำเนินการ เมื่อถามว่ายังคงเป็นคนเดิมจะดำเนินการให้เด็ดขาดอย่างไร นายจุรินทร์ตอบว่า คิดว่าสังคมรับทราบ เป็นเรื่องภายในไม่อยากมาพูดกับภายนอก ในพรรคเราพูดกันเสมอถ้ามีอะไรให้พูดกันภายใน แต่เรื่องนี้พรรคต้องดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง คุยกันแล้ว
“เฉลิมชัย” ยังไม่คิดขับออกจาก ปชป.
นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ให้วิปพรรคขอรายงานการประชุมและการลงคะแนนเป็นเอกสาร ได้มาแล้วจึงจะพิจารณา ก่อนหน้านี้อาจมีกระแสเรื่องความคิดเห็นต่างกันบ้าง แต่ที่ผ่านมาทั้งหมดเรายังไม่เคยมีการขัดมติพรรคในสภาเลย นี่อาจเป็นครั้งแรก ขอเวลาสักนิดในการดำเนินการ และเป็นเรื่องภายในของพรรค ต้องมีมาตรการอย่างใดอย่างหนึ่ง ต้องไปดูในส่วนของข้อบังคับพรรค ที่จะดำเนินการได้ เมื่อถามว่าไม่ถึงขั้นต้องขับออกจากพรรคใช่หรือไม่ นายเฉลิมชัยตอบว่า ยังไม่คิดไปถึงขนาดนั้น
ปิดห้องถกกันเครียดก่อนลงมติ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนหน้านี้ตั้งแต่ช่วงเช้า นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ประธาน ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้เรียกประชุม ส.ส.ของพรรคที่ห้องรับรองรัฐมนตรี ชั้น 3 มีรัฐมนตรีและ ส.ส.ทั้ง 51 คนเข้าร่วมประชุมพร้อมหน้า ทั้งนี้มีการเปิดโอกาสให้ ส.ส.แสดงความเห็น โดยนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง ระบุว่ากรณีถุงมือยาง สังคมจับตามอง แม้นายจุรินทร์จะไม่เกี่ยวข้องกับการทุจริต แต่ปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ และไม่ได้บอกว่าจะจัดการคนใกล้ตัว อย่างไร แต่ยอมรับว่าเกิดการทุจริต ที่สำคัญรัฐมนตรีของพรรคละเลย ส.ส. ประชุมพรรคก็มาบ้างไม่มาบ้าง แต่พอถึงเวลาขอเสียงสนับสนุนก็มา จึงถึงเวลาประเมินผลงานอย่างจริงจังเสียที ขณะที่ นพ.บัญญัติ จันทร์เสนะ ส.ส.ระยอง ถามกลางที่ประชุมว่าถึงเวลาหรือยังที่พรรคประชาธิปัตย์จะแสดงออกให้พรรคแกนนำรู้ว่าเราไม่อยู่ในอาณัติของเขา โดยเฉพาะ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯ
“สมพงษ์” ให้ประชาชนตัดสินใจ
ขณะที่นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมแกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้าน ร่วมแถลง ข่าวหลังการลงมติ ว่า ผลการอภิปรายทำให้เห็นชัดว่า รัฐมนตรีคนใดควรหรือไม่ควรอย่างไร แต่คะแนนเสียงเขาก็ท่วมท้น แต่น่าสังเกตคะแนนเสียง พล.อ.ประยุทธ์ น้อยไปหน่อย อยากให้ประชาชนตัดสินใจ การอภิปราย ครั้งนี้พรรคร่วมฝ่ายค้านหาข้อมูลต่างๆมาอภิปราย ประชาชนและสื่อมวลชนต้องตัดสินใจว่าสิ่งที่ผ่านมา 4 วัน เป็นอย่างไร และตัวเลขผลคะแนนที่ออกมาไม่เท่ากัน หวังว่าสิ่งที่เราทำมาจะเป็นผลงานของพรรคร่วมฝ่ายค้าน
ส่งไม้ต่อ ป.ป.ช.สอบ “จุรินทร์”
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า แม้คะแนนเสียงในสภา พรรคร่วม ฝ่ายค้านจะแพ้รัฐบาล แต่เชื่อมั่นว่าชนะใจประชาชนที่ติดตามการอภิปราย ด้วยข้อมูลและเหตุผลที่ได้อภิปรายมา หลังจากนี้พรรคร่วมฝ่ายค้านมีงานทำต่อ อีกหลายอย่าง บางประเด็นที่มีการทุจริตชัดเจนจะดำเนินการต่อไป เมื่อถามว่าจะนำไปฟ้องร้องต่อศาลหรือไม่ นายประเสริฐตอบว่า มีรัฐมนตรีบางคน ที่มีความผิดชัดเจนตามที่ได้อภิปรายคือ นายจุรินทร์ ดำเนินการไปยังศาลรัฐธรรมนูญ ศาลฎีกา และป.ป.ช. ส่วนคนอื่นกำลังรวบรวมรายละเอียด
“พิธา” ปฏิบัติการโรยเกลือย้ำแผล
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล แถลงสรุปว่า ยืนยันว่าเราตั้งใจทำทั้ง 4 วัน อย่างสุด ความสามารถ การอภิปรายครั้งนี้พรรคได้กรีดแผลลงไปในสภา สะท้อนกับปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคมปัจจุบัน หลังจากนี้จะเป็นยุทธการโรยเกลือย้ำแผลที่เราได้กรีดไว้ ทั้งการยื่นเรื่องต่อไปยัง ป.ป.ช. หรือการควบคุม การบริหารราชการแผ่นดินให้เป็นไปตามความต้องการของประชาชน ส่วนการดำเนินการกับ ส.ส.ที่โหวต สวนมติพรรค มีกระบวนการภายในเตรียมไว้แล้ว ส่วน ส.ส.ที่ร่วมอภิปรายหากถูกดำเนินคดี มีฝ่ายกฎหมายติดตามอยู่ มั่นใจว่าสิ่งที่อภิปรายไปทั้งในและ นอกสภาเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ไม่กังวลกับเรื่องที่จะเกิดขึ้น ส่วนกรณีที่ไม่ลงคะแนนไม่ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัสเป็น เพราะเครื่องลงคะแนนมีปัญหา ตั้งใจโหวตไม่ไว้วางใจ ทั้ง 10 รัฐมนตรี เตรียมยื่นเรื่องให้สภาฯ ตรวจสอบแล้ว ส่วนตัวมองว่าอย่างน้อยคงมีการปรับ ครม.
ยื่น ป.ป.ช.เชือด “นิพนธ์” คนแรก
น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า หลังจากนี้จะยื่นเรื่องถอดถอนรัฐมนตรีที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการซื้อขายที่ดิน และกระทำผิด จริยธรรมนักการเมืองไปที่ ป.ป.ช. คนแรก คือ นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย ที่มีหลักฐาน ชัดเจนครบแล้ว และจะมีการยื่นตรวจสอบการจัดซื้อ จัดจ้างของกระทรวงกลาโหมด้วย
ยังไม่ขับงูเห่าแต่กดดันภายใน
ด้านนายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวว่า กำลังตรวจสอบรายชื่อ ส.ส.ของพรรค ที่ไปโหวตให้นายอนุทิน พรรคมีคณะกรรมการวินัยพิจารณาอยู่แล้ว ส่วนบทลงโทษคงไม่ไล่ออก เพราะจะกลายเป็นการเตะหมูเข้าปากหมา เข้าทางผู้มีอำนาจ แต่ไม่ให้เข้าร่วมกิจกรรมของพรรคทั้งหมด รวมถึงสิทธิที่จะได้ในการทำงานสภา สำหรับภาพรวมคะแนน มองว่าสะท้อนการเมืองแบบเก่า ยังมีเรื่องของอิทธิพล เรื่องผลประโยชน์
“เสรีฯ” แซะ “บิ๊กตู่” สู้ “ลุงป้อม” ไม่ได้
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวว่า สื่อและประชาชนไม่ต้องไปสนใจ คะแนนที่ออกมา ก่อนลงมติก็รู้กันอยู่แล้วว่าจะเป็นเช่นนี้ มันเป็นเพียงพิธีกรรมที่รัฐธรรมนูญกำหนด คะแนนฝ่ายรัฐบาลมากกว่าฝ่ายค้านอยู่แล้ว แต่เชื่อว่า ประชาชนที่รับฟังการอภิปราย จะเข้าใจและเห็นด้วย กับพยานหลักฐานที่เรานำมาแสดง เมื่อผลออกมาเช่นนี้ แม้รัฐบาลจะเป็นฝ่ายชนะ แต่นายกฯ ต้องคิดให้หนัก เพราะไม่ได้คะแนนเป็นที่หนึ่งถึง 2 ครั้งแล้ว ควรพิจารณาตัวเอง คนเป็นถึงผู้นำประเทศ แต่ให้คนที่ตอบคำถามแค่ว่า “ที่ผู้อภิปรายอภิปรายมา ไม่เป็นความจริง” ได้คะแนนมากกว่า ถือเป็นเรื่องตลก ถ้ามี สปิริตเป็นนายกฯ มา 7 ปี อย่ามัวเมากับอำนาจ
อ้อนขอกำลังใจขับเคลื่อนไทย
ต่อมาเวลา 18.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ กล่าวผ่านรายการ PM PODCAST นายกรัฐมนตรีเล่าเรื่องว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจมีการลงมติไปเรียบร้อยแล้ว งานของรัฐบาลต้องมีความต่อเนื่อง สิ่งสำคัญอยากขอความร่วมมือจากทุกคน บ้านเมืองเรามีอีกหลายอย่างที่ต้องร่วมกันคิดร่วมกันทำ ทั้งการเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน การยกระดับคุณภาพชีวิต การขยายสิทธิ์และสวัสดิการ และการปรับปรุงสภาพแวดล้อม สิ่งเหล่านี้จะเปลี่ยนแปลงประเทศในอนาคตจะค่อยๆเห็นผลสัมฤทธิ์ เพียงแต่ทุกคนต้องก้าวข้ามผ่านกับดักในอดีต เพื่อร่วมกันสร้างอนาคตที่ดีกว่าไว้ให้ลูกหลาน โดยเราจะต้องยึดแนวคิดรวมไทยสร้างชาติ และไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ส่วนหลักปฏิบัตินั้นรัฐบาลยืนยันจะยึดผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นสำคัญ
ยันไม่มี ส.ส.คาใจ “ธรรมนัส”
นายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่าเห็นกระแสข่าวว่านายกฯพูดทีเล่นทีจริงกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯ ว่า “ได้คะแนนมากขนาดนี้ มาเป็นนายกฯดีกว่าไหม” ทำให้ ส.ส.ในพรรคไม่สบายใจนั้น เห็นข่าวและสอบถามแล้ว ยังไม่มี ส.ส.ในพรรคพูดถึงเรื่องนี้ เท่าที่ได้ยินมาเป็นการพูดถึงการทำงานมากกว่า คงไม่มีอะไรน่าวิตกกังวล ข่าวที่ออกมาไม่น่าจะเป็นไปตามนั้น ยืนยัน ส.ส.ในพรรคยังทำงานร่วมกันได้ดีเป็นเอกภาพ มีความสามัคคีกัน ไม่ได้มองว่าผลคะแนนลงมติจะทำให้นายกฯเสียหน้า แต่มองถึงการทำงานของนายกฯและรัฐมนตรีว่าทุกคนยังคงทำหน้าที่ได้ดีตลอดมา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค ย้ำเสมอกับ ส.ส.เรื่องความรักความสามัคคีที่สมาชิกพรรคต้องมี
“เดียร์” โชว์ซีนผู้นำก๊วนดาวฤกษ์
น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี ส.ส.บัญชีรายชื่อโพสต์ลงเฟซบุ๊กชี้แจงกรณี ส.ส.กลุ่มดาวฤกษ์ พรรคพลังประชารัฐ ทั้ง 6 คน โหวตงดออกเสียงนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ระบุว่า เหตุผลที่โหวตงดออกเสียง เพราะตลอดการอภิปราย 4 วัน ไม่พบคำชี้แจงที่ชัดเจนเพียงพอ ทำให้สังคมตั้งข้อกังขาใน 2 ประเด็นหลัก คือ การเปลี่ยนเงื่อนไข (TOR) และการล้มการประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม การไม่ปกป้องหรือเรียกคืนที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ในพื้นที่เขากระโดง จ.บุรีรัมย์ และประเด็นรัฐวิสาหกิจในการกำกับดูแลของ รมว.คมนาคมโดยตรง คือ รฟท. และ รฟม.ส.ส.กลุ่มดาวฤกษ์พยายามอย่างที่สุดที่จะปฏิบัติตามมติพรรค แต่จำเป็นต้องปฏิบัติตามจิตวิญญาณความเป็น ส.ส. ด้วยการงดออกเสียง ส่วนผลที่จะเกิดตามมาหลังการลงมติ ส.ส.ในกลุ่มพร้อมน้อมรับ
จี้ “สตง.-ป.ป.ช.” ส่องกองทุนพลังงาน
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ด้านเศรษฐกิจ กล่าวว่า จากการอภิปรายไม่ไว้วางใจของนายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ขอเรียกร้องให้สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เข้าไปตรวจสอบการใช้เงินในกองทุนอนุรักษ์พลังงาน ในทุกโครงการ เหมือนที่เคยเข้าตรวจสอบทุกโครงการในอดีต เพราะจากการตรวจสอบย้อนหลังตั้งแต่ปี 2558-2561 ปรากฏว่ากองทุนอนุรักษ์พลังงานภายใต้การกำกับดูแลของนายกฯ มีการจัดสรรเงินกองทุนให้กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ กอ.รมน. และ ศอ.บต. หลายพันล้านบาท เฉพาะแค่ กอ.รมน. และ ศอ.บต. มีจำนวนเงินถึงกว่า 1,232 ล้านบาท จากข้อมูลที่ได้รับพบว่ามีปัญหาการจัดซื้อจัดจ้าง และปัญหาของอุปกรณ์ และปัญหาการตรวจรับโครงการจำนวนมาก เชื่อได้ว่าต้องมีการทุจริตอีกเป็นจำนวนมาก
พิษอภิปรายเรียกถกด่วน ก.ต.ช.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ นัดประชุมคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) วาระเร่งด่วนในสัปดาห์หน้า หลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้าน ที่มีประเด็นปัญหาเรื่องบ่อนการพนัน การขนแรงงานต่างด้าวเถื่อน รวมทั้งประเด็นแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจ คาดว่าจะมีการเสนอขออนุมัติเปิดตำแหน่ง ผบช. และ ผบก.ประจำ ตร. ไว้รองรับการโยกย้ายนายตำรวจที่มีส่วนพัวพัน ปล่อยปละละเลย และย่อหย่อน ซึ่งจเรตำรวจแห่งชาติได้เข้าสืบสวนข้อเท็จจริง และรายงานข้อบกพร่องเสนอ ผบ.ตร.ให้ดำเนินการไว้แล้ว
ราษฎรมาแล้วอภิปรายนอกสภา
สำหรับความเคลื่อนไหวนอกสภาหลังศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ วันเดียวกันเวลา 15.00 น. ที่บริเวณด้านหน้ารัฐสภา กลุ่มราษฎรจัดกิจกรรม “อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นอกสภา” เรียกร้องให้นายกฯและคณะรัฐมนตรีลาออกทั้งคณะ มีแนวร่วมส่วนใหญ่เป็นนักเรียน นักศึกษา และประชาชน ทยอยมาปักหลักชุมนุมกันคึกคัก น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง แกนนำและโฆษกกลุ่มราษฎร กล่าวว่า วันนี้ไม่มีการตั้งเวทีชั่วคราว แกนนำจะใช้วิธีปราศรัยผ่านเครื่องขยายเสียงที่ติดตั้งบนรถซาเล้งเคลื่อนที่ สะท้อนการลงมติที่ไม่ตอบโจทย์แก้ปัญหาอะไรให้ประชาชนได้ ทำให้ประชาชนต้องออกมาเคลื่อนไหวบนถนนอีกครั้ง แต่กลุ่มของตนจะเป็นหลักอยู่ที่หน้ารัฐสภา ยืนยันว่าตนและผู้ชุมนุมยังคงยึดสันติวิธี ไม่มีการพกพาอาวุธใดๆทั้งสิ้น ตามที่มีการปล่อยข่าวลือ และยืนยันว่าทุกครั้งผู้ชุมนุมไม่เคยมีการพกพาอาวุธ
ย้ำไม่มีอาวุธ-ไม่ใช้ความรุนแรง
ด้านนายปิยรัฐ จงเทพ หรือโตโต้ หัวหน้าการ์ดกลุ่ม wevo กล่าวว่า มีกลุ่มการ์ดและการ์ดอาสากว่า 500 คน คอยดูแลความเรียบร้อยรอบพื้นที่การชุมนุมวันนี้ แบ่งพื้นที่ดูแลเป็นชั้นในและชั้นนอก ยืนยันว่า การชุมนุมวันนี้จะไม่ใช้ความรุนแรง โดยเฉพาะกลุ่มการ์ดวีโว่ที่จะใส่ผ้าพันคอสีเหลืองเป็นสัญ-ลักษณ์ชัดเจน ส่วนบุคคลที่ 3 จะมาสร้างสถานการณ์หรือไม่นั้น จากการประเมินเชื่อว่าไม่น่าจะมา วันนี้ กิจกรรมจะเป็นการปราศรัย หากไม่มีเจ้าหน้าที่มากดดัน ปล่อยให้จัดกิจกรรมจนเสร็จก็จะไม่เกิดเหตุการณ์วุ่นวาย เสร็จกิจกรรมก็เดินทางกลับ
ตร.จัดเต็ม 4,000 นายรับมือม็อบ
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) กล่าวว่า เตรียมกำลังตำรวจกว่า 4,000 นาย ไว้รักษาความปลอดภัยเป็นหลัก
สำหรับบรรยากาศที่ท้องสนามหลวง เจ้าหน้าที่ได้นำตู้คอนเทนเนอร์ และลวดหนามมาวางปิดเป็นแนวยาวผ่านกลางสนามหลวงบริเวณฝั่งตรงข้าม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ไปจนถึงฝั่งตรงข้ามศาลฎีกา ทำให้ไม่สามารถใช้พื้นที่สนามหลวงด้านทิศใต้ฝั่งสนามหญ้าได้
ผุดเวทีขอนแก่น#ปล่อยหมู่เฮา
ด้านความเคลื่อนไหวในต่างจังหวัด ที่ จ.ขอนแก่น กลุ่มขอนแก่นพอกันที, คณะราษฎรขอนแก่น และกลุ่มดาวดิน จัดกิจกรรมปักหลักค้างคืน#ปล่อยหมู่เฮา ที่บริเวณลานด้านหน้าอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ภายในศาลเจ้าพ่อหลักเมือง เขตเทศบาลนครขอนแก่น ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และฝ่ายปกครอง รวมถึงเจ้าหน้าที่ฝ่ายสาธารณสุข โดยกลุ่มผู้ชุมนุมมีการนำห่วงยางเป็ดสีเหลืองมาวางในเวทีกลาง นำธงสีแดงที่มีข้อความ “ยกเลิกมาตรา 112” มาติดตั้งโดยรอบ มีกลุ่มการ์ดวีโว่อีสาน กระจายกำลังอยู่โดยรอบสถานที่ของการจัดชุมนุม เพื่อควบคุมดูแลการชุมนุมอย่างใกล้ชิด ขณะที่ พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น กล่าวว่า ย้ำเตือนกับกลุ่มผู้ชุมนุมต้องทำตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
โปรยอาหารสุนัขให้แก๊งงูเห่า
จากนั้นเวลา 17.00 น. บรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มราษฎรและเครือข่าย ที่บริเวณด้านหน้ารัฐสภา นอกจากอภิปรายโจมตีรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์แล้ว ยังโจมตีไปถึง ส.ส.พรรคฝ่ายค้านที่แปรพักตร์ไปลงคะแนนไว้วางใจให้รัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจว่าเป็นพวกงูเห่าทรยศขบวนการเรียกร้องประชาธิปไตย ขณะเดียวกันคณะผู้จัดการชุมนุมได้แจกฟิวเจอร์บอร์ดสีขาว และปากกาเมจิกสีน้ำเงิน ให้มวลชนที่มาร่วมชุมนุมเขียนข้อความสะท้อนสิ่งที่ตัวเองต้องการ และข้อความฝากถึงรัฐบาล รวมทั้งมีการเล่นดนตรี เคาะ ตีหม้อ แสดงเชิงสัญลักษณ์ ขณะที่กลุ่มมวลชนจำนวนหนึ่งพากันมาที่หน้าประตูทางเข้า-ออก รัฐสภา พร้อมชูป้ายข้อความต่างๆ และชูสัญลักษณ์ 3 นิ้วใส่เจ้าหน้าที่ มีการโปรยอาหารสุนัขใส่เข้าไปในประตู พร้อมกับเขียนสีชอล์กบนพื้นถนน และสกรีนลายเสื้อผ้าตั้งอยู่หน้าทางเข้าออก มีทีมการ์ดวีโว่ยืนคุมไม่ให้มวลชนก่อความวุ่นวาย
กลุ่มอาชีวะแยกขาดจากราษฎร
อีกด้านเมื่อเวลา 18.00 น. ที่หน้าร้านแมคโดนัลด์ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย กลุ่มมวลชนเสื้อแดง ในนามรวมพลคนประชาธิปไตย นำโดยนายวีรวิชญ์ รุ่งเรืองศิริผล ร่วมกับกลุ่มอาชีวะไล่เผด็จการ นำโดยนายธนเดช ศรีสงคราม หรือม่อน จัดชุมนุมตั้งเวทีแยกขาดกับกลุ่มราษฎร ทั้งนี้ ทางกลุ่มประกาศจุดยืนว่าหลังจากนี้จะแยกเคลื่อนไหวเรียกร้องเพียงแค่ประเด็นขับไล่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ และโจมตีการทำงานที่ผิดพลาดของรัฐบาลเท่านั้น ไม่ข้องเกี่ยวกับเรื่องสถาบัน แบบกินข้าวทีละคำ ทั้งยังมองว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่สภาสิ้นสุดแล้ว การไปชุมนุมที่หน้ารัฐสภา สุ่มเสี่ยงที่จะเกิดการปะทะ สำหรับกลุ่มอาชีวะได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจขอใช้พื้นที่แล้ว
จับแล้วมือยิงการ์ดอาชีวะเจ็บ
อีกเรื่อง มีรายงานความคืบหน้าคดียิงการ์ดอาชีวะบาดเจ็บหน้าร้านสะดวกซื้อ ท่าเรือสะพานผ่านฟ้า เมื่อคืนวันที่ 19 ก.พ. พ.ต.อ.นิมิตร นูโพนทอง ผกก.สน.นางเลิ้ง พร้อมฝ่ายสืบสวน ร่วมกับ กก.สส.บก.น.7 จับกุมนายรัฐชา หรือต๊อบ ศรีประเสริฐ อายุ 27 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่น มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน ไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้านหรือที่ชุมชน จับกุมได้ที่บ้านแม่ผู้ต้องหาใน อ.บางกรวย จ.นนทบุรี สอบสวนนายรัฐชาให้การปฏิเสธ ตรวจสอบไม่มีประวัติการถูกดำเนินคดี นำตัวฝากขังที่ศาลอาญา ศาลให้ประกันตัวในวงเงิน 300,000 บาท
ตอกย้ำข้อเรียกร้อง 3 ข้อเดิม
กระทั่งเวลา 20.45 น. กลุ่มราษฎรได้อ่านแถลงการณ์แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม “หมุดหมายการต่อสู้ครั้งต่อไปของพวกเรา” สรุปว่า ขณะนี้เป็นที่กระจ่างชัดแล้วว่าเราไม่สามารถพึ่งหวังกับการเมืองในระบอบรัฐสภา เนื่องด้วยแม้จะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจถึงความเน่าเฟะของการเมืองไทย การชี้ให้เห็นถึงความเชื่อมโยงของระบอบศักดินา และกลุ่มผลประโยชน์ด้วยหลักฐานอันแน่นหนาเพียงใด แต่ก็ไม่สามารถนำเอาพวกเหลือบไรเหล่านั้นออกไปจากรัฐสภา ทำให้เรายังคงยืนยันในข้อเรียกร้อง 3 ข้อนายกฯและองคาพยพต้องลาออก รัฐสภาต้องเปิดประชุมสมัยวิสามัญทันทีเพื่อรับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ และปฏิรูปสถาบัน ขอให้ทุกคนยึดมั่นในสันติวิธี อุดมการณ์ประชาธิปไตย สังคมที่เท่าเทียม และรัฐสวัสดิการ และยุติการชุมนุมในเวลา 20.53 น.