นับเป็นนายทหารอีกคนที่มีบทบาทโดดเด่นระดับแถวหน้าของเมืองไทย เดินอยู่บนถนนสายความมั่นคงมาตลอด รู้จักกันดีในนาม “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง เป็น 1 ใน 10 รัฐมนตรีที่ถูกฝ่ายค้านยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ
ไปสำรวจความพร้อมการนำทัพรับศึกใหญ่ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ปกติมีภารกิจเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการชุดต่างๆทุกวัน ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม มอบหมาย
เปิดใจทุกประเด็น ยกเว้นบางเรื่องไม่ขอพูด เริ่มจากมุมมองมิติความมั่นคงในยุคโควิด-19
ตามยุทธศาสตร์ความมั่นคงไม่ต้องเปลี่ยนแปลง ยุทธศาสตร์ป้องกันการแพร่ระบาดไวรัสโควิด รัฐบาลทำทุกอย่างไม่ให้ประชาชนติดเชื้อโควิด เมื่อมีวัคซีนก็เริ่มเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ รัฐบาลตั้งเป้าฉีดฟรีให้กับประชาชน
มาตรการป้องกันแพร่ระบาดโควิดที่ออกมา ก็ดูเศรษฐกิจฐานรากประกอบ เพื่อไม่ให้กระทบต่อเศรษฐกิจระดับฐานราก มาตรการช่วยธุรกิจเอสเอ็มอีก็ทยอยออกมา เพื่อต้องการให้เศรษฐกิจภาพรวมขับเคลื่อนไปได้
ไม่ขอลงรายละเอียดถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะอยู่ในขั้นตอนของรัฐสภา เป็นหน้าที่ของสมาชิกรัฐสภาว่าจะแก้ไขอย่างไร
เฉกเช่นการสร้างความปรองดอง คนทั้งประเทศควรให้ความร่วมมือ แต่ละฝ่ายได้หารือพูดคุยกัน รัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุน เช่น สภาเสนอให้ตั้งคณะกรรมการสมานฉันท์ รัฐบาลก็ทำตามที่เสนอ
ปัญหาขัดแย้งทางความคิดมีแนวทางแก้ไขอย่างไร พล.อ.ประวิตร บอกว่า รัฐบาลพยายามทำความเข้าใจ แต่เขาไม่เข้าใจและไปสร้างความเข้าใจของเขาเอง
รัฐบาลมีนโยบายดูแลความปลอดภัยของผู้ชุมนุมทุกฝ่าย ตำรวจพร้อมดูแลผู้ชุมนุม ใครทำผิดก็ต้องว่ากันตามกฎหมาย ทำกฎหมายให้เป็นกฎหมาย
...
รัฐบาลจะสร้างความปรองดองให้เกิดขึ้นได้อย่างไร เพราะคณะกรรมการสมานฉันท์ที่ตั้งขึ้น บางฝ่ายยังไม่ตอบรับ พล.อ.ประวิตร บอกว่า รัฐบาลมีหน้าที่ทำให้บ้านเมืองสงบ ให้ประชาชนปลอดภัยอยู่อย่างราบรื่น แต่มีบางคนบางกลุ่มมีความคิดสร้างความแตกแยก
ทีมข่าวการเมือง ถามว่าขณะที่ภายในพรรคพลังประชารัฐกำลังประลองกำลัง ทั้งการส่งผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. และพรรคร่วมรัฐบาลเริ่มมีรอยร้าวเห็นได้ชัดกรณีการส่งผู้สมัคร ส.ส.ลงเลือกตั้งซ่อมเขต 3 จ.นครศรีธรรมราช พล.อ.ประวิตร บอกว่า พรรคมีมติไม่ส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งระดับท้องถิ่นทั้งหมด ไม่มีอะไร ประลองที่ไหน ใครประลอง ไม่ได้ประลองกำลังอะไรกัน เป็นเรื่องประชาธิปไตย
พรรคพลังประชารัฐเป็นหนึ่งเดียว
พรรคร่วมรัฐบาลก็เป็นหนึ่งเดียว
ไปคิดกันเอาเอง เปลี่ยนนายกฯ เปลี่ยนรัฐมนตรี
มีรายชื่อ “บิ๊กแป๊ะ” พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา อดีต ผบ.ตร.จะลงสมัครผู้ว่าฯ กทม. โดยขอการสนับสนุนจากพรรคพลังประชารัฐ พล.อ.ประวิตร บอกว่า เป็นเรื่องของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ไม่เกี่ยวข้องกับผม พรรคไม่สนับสนุนใครในระดับท้องถิ่น ตั้งแต่เลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ก็ไม่ได้ส่งใคร
ในฐานะผู้จัดการรัฐบาล ได้คุยกับหัวหน้าพรรคร่วมอย่างไรบ้าง พล.อ.ประวิตร บอกว่า ผมไม่ใช่ผู้จัดการรัฐบาล เป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้คุยกับหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลทุกสัปดาห์ ในวันที่มีประชุมคณะรัฐมนตรี
เป็นตัวบ่งชี้รัฐบาลมีเสถียรภาพอยู่ครบวาระ พล.อ.ประวิตร บอกว่า พูดตั้งแต่ที่เป็นรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ
ว่าขอให้มั่นใจ รัฐบาลอยู่ครบเทอม
ทีมการเมือง ถามว่าเจอศึกนอกม็อบออกมาเคลื่อนไหวเป็นระยะ และยังเจอศึกใหญ่ถูกยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประวิตร บอกว่า ไม่ต้องห่วง ทำอย่างไรได้ พรหมลิขิตให้มาเป็น ก็ต้องบริหารประเทศต่อไป
ม็อบเคลื่อนไหว ตำรวจก็มีหน้าที่ดูแลความปลอดภัยให้ประชาชน รัฐบาลก็สร้างความรับรู้แก่ประชาชน รัฐบาลถึงอยู่ได้ ขนาดฝ่ายค้านและสื่อมวลชนวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรง คิดจะทำอย่างไรให้นายกฯอยู่ไม่ได้
ทำไมรัฐบาลถึงอยู่ได้
เพราะประชาชนยังให้นายกฯอยู่ต่อ
ประชาชนส่วนใหญ่เห็นรัฐบาลบริหารประเทศ คลอดโครงการสร้างความกินดีอยู่ดีให้กับประชาชน เช่น แจกที่ทำกินห้ามเปลี่ยนมือ แก้หนี้นอกระบบปลดทุกข์ให้ชาวบ้าน ก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานเยอะมาก
แก้ปัญหาฝุ่นพีเอ็ม 2.5 แก้ปัญหาภัยแล้ง ซึ่งภาพรวมดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา แต่ยังไม่เพียงพอ ก็กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามการแก้ปัญหาอย่างใกล้ชิด เร่งรัดหน่วยงานที่รับผิดชอบโครงการต่างๆขับเคลื่อนอย่างจริงจัง เพื่อให้ประชาชนมีน้ำอุปโภคบริโภคเพียงพอทั้งภาคเกษตรและภาคอุตสาหกรรม
แก้ปัญหาแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ทั้งที่ปัญหานี้มีมานานก่อนโควิด-19 แพร่ระบาด เรามีมาตรการป้องกันมาตลอด โดยใช้กำลังทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
แต่ยังมีผู้นำพาหรือพวกหากินกับการขนแรงงาน แต่ละปีจับได้เป็นจำนวนมาก หากมีเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้องเรียกรับผลประโยชน์ ย่อมเจอลงโทษอย่างหนัก และเป็นเรื่องของตัวบุคคล วันนี้เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำงานแบบบูรณาการ ไม่มีปัญหา
ฉะนั้นการแก้ปัญหาทุกด้านของประเทศ มีการพัฒนาและคืบหน้า เพื่อให้ประชาชนอยู่ดีกินดี ทำให้บ้านเมืองเจริญ เศรษฐกิจฐานรากเข้มแข็งขึ้นเรื่อยๆ
เมื่อถามย้ำถึงความหนักใจที่เผชิญศึกในถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจและศึกนอกที่มีม็อบเคลื่อนไหวนอกสภาอยู่เป็นระยะ มีแนวโน้มรุนแรงขึ้น พล.อ.ประวิตร บอกว่า อภิปรายมาก็ตอบไป ถ้าไม่ใช่เรื่องจริงก็ชี้แจงไปว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร
ไม่หนักใจ สบายมาก
ญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ พรรคเพื่อไทยถูกจับตาว่าจะอภิปรายรัฐมนตรีในโควตาของพรรคพลังประชารัฐไม่เต็มที่ ถึงขั้นมีกระแสข่าวข้อสอบรั่ว พล.อ.ประวิตร บอกว่า รั่วเรื่องอะไร ข้อสอบตั้งโจทย์ถามว่าอย่างไร บอกหน่อย ผมไม่ได้ยุ่งเกี่ยวด้วย ควรไปถามพรรคเพื่อไทย พรรคนี้ไม่ได้คุยอะไรกับผม ส.ส.ในพรรคนี้ก็ด่าผมทุกวัน
แบบนี้จะมาซูเอี๋ยอะไรกับผม
ฝ่ายค้านเตรียมอภิปรายในประ-เด็นทำตัวเป็นผู้มีอิทธิพล พล.อ.ประวิตร บอกว่า มีอิทธิพลอย่างไร ผู้มีอิทธิพลคืออะไร ผู้มีอิทธิหมายถึงมีบ่อนการพนัน มีมือปืน ถ้าลูกน้องเก่าที่เป็นทหาร ตำรวจ นักธุรกิจที่รู้จักกันมาหาสู่ อันนี้ใช่ เพราะทำงานมา 56 ปี ยังไม่ได้พักเลย ความจริง ไม่ชอบเป็นนักการเมือง ไม่เคยคิดเป็นนักการเมือง
ไม่เคยทำอะไรผิด อภิปรายมาก็ตอบตามความเป็นจริง
รัฐบาลไม่มีโกงกิน
ตอนนี้มี ส.ส.พรรคเพื่อไทยและพรรคประชาธิปัตย์ที่เตรียมย้ายมาพรรคพลังประชารัฐมีจำนวนเท่าไหร่ พล.อ.ประวิตร บอกว่า ยังไม่ออกมา ไปพูดถึงได้อย่างไร ให้ออกมาก่อนถึงบอกได้ ตอนนี้ไม่รู้
แค่เสถียรภาพของรัฐบาลดี
ทำงานให้ประชาชนอยู่ดีกินดีเพิ่มมากขึ้นก็พอ
ทุกวันที่ทำงานอยู่ก็ทำให้นายกฯ เป็นคนอื่นก็ไม่เอาแล้ว นายกฯไปก็ขอไปด้วย ชาตินี้ไม่ขอเป็นนายกฯ
ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลกับกองทัพเป็นอย่างไร พล.อ.ประวิตร บอกว่า ไม่มีอะไร ในกองทัพเป็นลูกน้องเก่าทั้งนั้น และที่ขึ้นเป็นใหญ่ล้วนเป็นคนดี
ฉะนั้นไม่มีปัญหา
เป็นห่วงนายกฯอย่างไรบ้าง พล.อ.ประวิตร บอกว่า เป็นห่วงเฉพาะที่ถูกป้ายสี การบริหารราชการแผ่นดินไม่เป็นห่วง
นายกฯเข้มแข็ง ทำงานเต็มที่จนน้ำหนักลด
เป็นนายกฯต้องเข้มแข็ง ทำงานให้ประชาชน
ประชาชนชอบบ้าง ไม่ชอบบ้างเป็นธรรมดา
แต่ประชาชนส่วนใหญ่ชอบเยอะกว่า.
ทีมการเมือง