แถลงการณ์ “กลุ่มสร้างไทย” เรียกร้องรัฐบาล ให้ยกเลิกข้อจำกัด ผู้ประกันตน ที่จะได้รับการเยียวยาตามมาตรา 33 ต้องมีเงินในบัญชี ไม่เกิน 5 แสน เพื่อให้เกิดความเท่าเทียมและเป็นธรรม ตามที่ รธน.ไทยกำหนด
วันที่ 5 ก.พ. ตามที่รัฐบาลมีนโยบายที่จะเยียวยาผู้ใช้แรงงานสัญชาติไทยที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยจะต้องเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 แห่งพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2533 ไม่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และต้องไม่มีเงินฝากในบัญชีเกิน 500,000 บาท นั้น
“กลุ่มสร้างไทย” เห็นว่า หากจะมีการใช้เงินจากกองทุนประกันสังคมเพื่อเยียวยาแก่ผู้ใช้แรงงานที่เป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 จะต้องเยียวยาแก่ผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ทุกคน โดยเสมอภาคและเท่าเทียมกัน อันเป็นไปตามหลักการที่ว่า ทุกคนมีความเสมอภาคกันตามกฎหมาย (equality before the law) และไม่เลือกปฏิบัติ (non discrimination) ซึ่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยก็ได้บัญญัติรับรองหลักการดังกล่าวไว้ในมาตรา 27 ที่บัญญัติว่า “บุคคลย่อมเสมอกันในกฎหมาย มีสิทธิและเสรีภาพและได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายเท่าเทียมกัน การเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมต่อบุคคลไม่ว่าด้วยเหตุความแตกต่างในเรื่องถิ่นกำเนิด ฯลฯ ฐานะทางเศรษฐกิจ ฯลฯ จะกระทำมิได้”
“กลุ่มสร้างไทย” มีความเห็นเพิ่มเติมว่า การสร้างเงื่อนไขว่า ผู้ประกันตนจะต้องไม่มีเงินฝากในบัญชีเกิน 500,000 บาท นั้น ไม่ได้เป็นเงื่อนไขว่า ผู้ประกันตนคนนั้นเป็นผู้ยากไร้ เพราะผู้ประกันตนอาจจะลงทุนในรูปแบบอื่น เช่น ลงทุนในหลักทรัพย์ กองทุน ตราสารอย่างอื่น ทองคำ อสังหาริมทรัพย์ หรืออาจเก็บเป็นเงินสดที่มีมูลค่าสูงกว่า 500,000 บาท แต่กลับไม่ถูกตัดสิทธิ การกำหนดเงื่อนไขดังกล่าวจึงมีช่องว่างและสร้างความไม่เท่าเทียมไม่เป็นธรรมกับผู้ประกันตน ที่จ่ายเงินสมทบเหมือนกันแต่กลับได้รับสิทธิประโยชน์ไม่เท่ากัน
...
การกำหนดเงื่อนไขที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญดังกล่าวเคยเกิดขึ้นกับการจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุมาแล้ว แต่รัฐบาลยังไม่ได้ทำการแก้ไขเป็นเหตุให้ผู้สูงอายุได้รับความเดือดร้อน รัฐบาลจึงไม่ควรสร้างเดือดร้อนให้กับผู้ประกันตนเพิ่มอีก รัฐบาลควรเคารพสิทธิและเสรีภาพของประชาชนที่รัฐธรรมนูญบัญญัติรับรองไว้
“กลุ่มสร้างไทย” จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกข้อจำกัดที่กำหนดให้ผู้ประกันตนจะต้องไม่มีเงินฝากในบัญชีเกิน 500,000 บาท เพื่อให้การเยียวยาเกิดความเป็นธรรมอันจะมีส่วนช่วยในการกระตุ้นให้เกิดการบริโภคภายใน ซึ่งจะเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจในภาพรวมต่อไป
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ กลุ่มสร้างไทย