หนึ่งในกระบวนการที่เรียกอารยะขัดขืน คนพม่าในสลัม ตามตรอกซอกซอย ในตึกสูงหลายๆชั้น ใช้อาวุธที่หยิบฉวยได้ใกล้มือ จำพวกถ้วย ถัง กะละมัง หม้อ ทำเสียงดัง เป็นสัญญาณไล่รัฐบาลทหาร

ปฏิกิริยานี้ มีที่มาจากคนพม่า แสดงความกตัญญูรู้คุณ ช่วยนางอองซาน ซูจี ให้พ้นภัยการเมือง

พม่ากับไทยนับถือพุทธศาสนาเหมือนกัน การส่งสัญญาณแบบนี้ คนไทยก็เคยใช้ ตอนเกิด สุริยุปราคา หรือจันทรุปราคา ภาษาชาวบ้านว่า ราหูอมพระอาทิตย์ หรือราหูอมพระจันทร์

คนไทยรู้จักพระราหู ตัวละครหนึ่งในเรื่องเฉลิมไตรภพ เป็นเทวดาประจำดาวนพเคราะห์

มีเรื่องเล่าว่า อดีตชาติ ราหูเป็นลูกชายคนเล็กของเศรษฐีทัศนวิไสย กับนางสุนทรา พี่ชายคนโตชื่ออาทิตย์ พี่คนรองชื่อจันทร์ ต่อมา ก่อนเศรษฐีจะตาย ฐานะครอบครัวนี้ยากจนลง

ในงานทำบุญกระดูกพ่อ อาทิตย์พี่ชายค้นได้ขันทองใส่ข้าวตักบาตรพระ อธิษฐานเสียงดังๆ ขอให้ไปเกิดเป็น “พระอาทิตย์” “จันทร์” พี่คนรองค้นได้ขันเงินตักบาตรพระ อธิษฐานบ้าง ขอเกิดเป็น “พระจันทร์”

ส่วนราหูค้นได้แค่กระทาย ใส่ข้าวตักบาตร น้อยหน้าสองพี่ชายจึงน้อยใจ และโกรธมาก

ราหูอธิษฐานเสียงดังกว่ายาวกว่า ขอให้ไปเกิดก่อนพี่ชาย ขอให้ตัวใหญ่รัศมีมืดมิด ปิดบังพระอาทิตย์ พระจันทร์ได้ ทั้งขอให้มีฤทธิ์มากในเมืองสวรรค์

จบงานทำบุญ สามพี่น้องก็ทะเลาะต่อแย่งกระดูกพ่อ แต่ก็เลิกแล้วกันได้ เมื่อนางสุนทราผู้เป็นแม่ห้าม
แม่ตายราหูแยกตัวจากพี่น้องไปอยู่ในป่า ความอาฆาตแค้นที่แรงกล้า ตายไปเกิดเป็นผีโขมด

ในพิธีชุบเทวดานพเคราะห์ มหาเทพทั้งสี่ พระอิศวร พระอุมา พระพรหมธาดา และพระนารายณ์ ได้ให้กำเนิดราหูตามแรงอธิษฐาน ทรงอ่านพระเวทวิเศษรวมหัวโขมด 12 หัว ห่อด้วยผ้าสีดำ ประพรมด้วยน้ำอมฤต

...

กำเนิดเป็น “เทวสุรี” กึ่งเทวดากึ่งอสูร กายสูงล่ำดำนิล สี่มหาเทพประทานนามว่า “อสุรินทร์ราหูเทวินทร์”

เป็นเทวดานพเคราะห์ลำดับที่ 8 อยู่วิมานสีดำ

ส่วนสองพี่ชาย อาทิตย์และจันทร์ก็ได้ก่อกำเนิดเป็นเทวดานพเคราะห์ เช่นเดียวกัน กลางวันพระอาทิตย์ก็ชักรถส่องแสงให้ความสว่าง พระจันทร์ก็ส่องสว่างเวลากลางคืน

มนุษย์ทั้งโลกต่างก็รัก และสำนึกรู้ในบุญคุณของพระอาทิตย์ และพระจันทร์

ส่วนพระราหู มีความปรารถนาแรงกล้า ที่จะได้ดื่มและอาบน้ำอมฤตเพิ่มพูนฤทธิ์เดชให้มากยิ่งขึ้น จึงเหาะไปบดบังพระอาทิตย์จนมืดมิด เกิดความปั่นป่วนวุ่นวายในสวรรค์ เทวดานางฟ้าตระหนกตกใจ ไม่เป็นอันทำหน้าที่

ราหูใช้โอกาสนี้ แอบไปดื่มและอาบน้ำอมฤตจนสำเร็จ

พระอิศวรทรงเล็งญาณเห็น จึงขว้างจักรไปสังหาร ร่างราหูขาดออกเป็นสองท่อน แต่เพราะอานุภาพน้ำอมฤตจึงไม่ตาย ไม่เจ็บ ฟื้นขึ้นมาก็หนีไปซ่อนในวิมานสีดำ

ได้โอกาสเมื่อใด ราหูก็มักไปบดบังพระอาทิตย์ พระจันทร์ พวกมนุษย์ตกใจจึงพยายามช่วยด้วยการตีเกราะเคาะไม้ หรือหยิบสิ่งของใช้ใกล้มือ ถ้วย ถัง กะละมัง หม้อ ตีให้เกิดเสียงดังๆ

โดยหวังว่าจะช่วยให้ราหูตกใจ คายพระอาทิตย์ คายพระจันทร์

เคราะห์ดี ที่ราหูทนฟังเสียงดังได้ไม่นาน จะเป็นเพราะด้วยแรงกตัญญูของมนุษย์ หรือความที่ร่างตัวขาดสองท่อน พระอาทิตย์ พระจันทร์ ถูกกลืนไปถึงท้อง ก็โผล่ออกมาให้แสงสว่างต่อไปได้

พระราหูในเรื่องเล่าของชาวพุทธไทยพม่า ไม่น่ากลัวเท่าสัก
เท่าไหร่...

รัฐบาลเผด็จการทหารน่ากลัวกว่า พอได้โอกาสกินกลืนอาหารที่เรียกอำนาจ แล้วก็มักอร่อยเพลิน ไม่ค่อยจะยอมคาย เออ! จะไปว่าเขาก็ไม่เต็มปาก เพราะทหารบ้านเมืองไหนๆ ก็ดูจะเหมือนๆกัน.

กิเลน ประลองเชิง