ส่องประเด็นเดือดซักฟอก 11 รมต. ฝ่ายค้านเล็งขยี้ “บิ๊กตู่” บริหารงานเหลว แก้โควิดห่วย ปล่อยบ่อนพรึ่บ-นำเข้าต่างด้าวแพร่เชื้อไวรัสนรกรอบสอง “บิ๊กป้อม” ไม่รอดในฐานะคุมจัดการแรงงานเถื่อนผิดกฎหมาย “จุรินทร์-อนุทิน-จุติ-สุชาติ” ติดร่างแห “บิ๊กป๊อก” เป้าถล่มสัมปทานสัญญารถไฟฟ้าสีเขียว โรงไฟฟ้าพลังงานขยะตามหลอกหลอน ขุดปัญหาคุณสมบัติเก่าเล่นงาน “นิพนธ์” ส่วน “ธรรมนัส” ปมแจก ส.ป.ก. เอื้อนายทุน “พิธา” ขู่ซักฟอกภาค 2 ไม่มีน้ำท่วมทุ่ง มีคู่เด็ดทุกวัน “เสี่ยเฮ้ง” ชิลๆไม่ซีเรียสมั่นใจตอบได้หมด ไม่ต้องใช้ทีมองครักษ์ มท.2 เก็งข้อสอบก้าวไกลไล่ถลุงปมนิคมฯจะนะ ญาติวีรชนฯระแวงพท.ฮั้วผู้มีอำนาจ ดักคออย่าเป็นลิงหิวกล้วย ซัดรัฐบาลแผลเต็มตัวต้องจัดเต็ม
ท่ามกลางการจับตามองญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลของฝ่ายค้าน จะอภิปรายรัฐมนตรีกี่คนและจะหยิบยกประเด็นใดมาอภิปรายซักฟอกรัฐบาล ล่าสุดพรรคร่วมฝ่ายค้านได้ข้อสรุปจะอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีทั้งหมด 11 คน พุ่งเป้าไปที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม บริหารประเทศล้มเหลว เยียวยาแก้ปัญหาโควิด-19 ไร้ประสิทธิภาพ
ฝ่ายค้านตกผลึกขึงเวทีถล่ม 11 รมต.
เมื่อวันที่ 23 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านจะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี 11 คน ต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 25 ม.ค. เบื้องต้นมี 11 รายชื่อ โดยจะยื่นอภิปราย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม ในประเด็นการบริหารงานภาพรวมเกี่ยวกับการแก้ไขสถานการณ์โควิด-19 ล้มเหลว ปล่อยให้มีแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายเข้ามาแพร่เชื้อรอบ 2 รวมถึงปล่อยให้มีบ่อนการพนันหลายพื้นที่ มาตรการเยียวยาที่ไม่มีประสิทธิภาพ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ที่รับผิดชอบดูแลกระทรวงแรงงาน จะถูกอภิปรายประเด็นแรงงานเถื่อนผิดกฎหมาย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯและ รมว.พาณิชย์ จะถูกอภิปรายเกี่ยวกับการจัดหาหน้ากากและถุงมือยางแก้ไขปัญหาโควิดที่มีกระแสข่าวการทุจริตเกิดขึ้น นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.สาธารณสุข เกี่ยวกับมาตรการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดโควิด
...
ขย่ม “บิ๊กป๊อก” รถไฟฟ้าเขียว–ไฟฟ้าขยะ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย จะถูกอภิปรายเกี่ยวกับการต่อสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวและโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ ที่ต่อเนื่องมาจากการอภิปรายครั้งที่แล้ว ขณะที่นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ประเด็นรถไฟฟ้า นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ประเด็นการปล่อยให้มีแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายเข้ามาแพร่เชื้อโควิด-19 รอบที่ 2
ขยี้ “ส.ป.ก.–ธรรมนัส” เรียนออนไลน์–ตั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า ส่วนนายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย ประเด็นเรื่องคุณสมบัติ เนื่องจากมีคดีค้างเก่ามาจากสมัยเป็นนายกฯ อบจ. สงขลา นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ ประเด็นการศึกษาออนไลน์ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ประเด็นการให้ใช้พื้นที่ ส.ป.ก. และนายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ประเด็นเกี่ยวกับมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด
พท.เหน็บ 7 ปี “ลุงตู่” สู้ “ไบเดน” 1 วันไม่ได้
น.ส.อรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่าภายหลังการเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯของนายโจ ไบเดน ในเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง นายไบเดนเซ็นคำสั่งพิเศษ 10 ฉบับ รับมือการจัดการโควิด-19 ให้ความสำคัญเร่งด่วนเทียบเท่าแผนรับมือสถานการณ์ภาวะสงคราม สิ่งที่นายไบเดนให้ความสำคัญอย่างแรกคือการเร่งหาวัคซีน การเยียวยาความเดือดร้อนประชาชน ขณะที่ไทยติดเชื้อโควิดครบรอบ 1 ปีที่เห็นจากรัฐบาลคือตั้งคณะทำงานเกือบ 10 ชุด ไปรายงานและขออนุมัติโดยตรงที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม ผูกขาดคำสั่งการเพียงผู้เดียวในฐานะหัวหน้า ศบค. ซ้ำยังปล่อยให้เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคง ต้นตอการแพร่ระบาดระลอก 2 มาควบคุมสถานการณ์และออกมาตรการ โครงสร้างแบบนี้ต่อให้มีนายกฯเป็นร้อยคนก็แก้ปัญหาไม่ได้
ซัดผู้นำไทยมอง ปชช.เป็นผู้รับใช้
โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังล้มเหลวแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ประชาชนและเอสเอ็มอี กำลังจะอดตาย พล.อ.ประยุทธ์ทำอะไรบ้างนอกจากให้กู้ ขณะที่นายไบเดนประกาศพักหนี้ดอกเบี้ย 3 เดือน ทั้งหมดอยู่ที่วิสัยทัศน์ผู้นำที่มองประชาชนเป็นนาย ไม่ใช่ผู้รับใช้ ผู้นำไทยด้อยความสามารถ ทำทุกอย่างสวนทางผู้นำโลก หากยังคงทำหน้าที่ต่อไป ประเทศไทยจะหลุดพ้นจากกับดักรายได้ปานกลางไปสู่ประเทศยากจนอย่างเต็มตัว อาจกลายเป็นประเทศด้อยพัฒนาในที่สุด
“พิธา” ขู่ซักฟอกภาค 2 มีคู่เด็ดทุกวัน
เมื่อเวลา 14.20 น. ที่ศูนย์ประสานงานพรรคก้าวไกล (ก.ก.) เขตบางขุนเทียน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงความพร้อมการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่าจะให้ประธานวิปทุกพรรคฝ่ายค้านเป็นผู้บริหาร ในฐานะหัวหน้าพรรคได้พูดในที่ประชุมวิปฝ่ายค้านถึงปัญหาที่เกิดขึ้นเมื่อปี 63 ที่มีการอภิปรายนอกสภา ปีนี้ขอให้ไม่มีเกิดขึ้น บอกได้ว่ามีคู่เด็ดๆทุกวัน และมีภาคสองต่อจากภาคแรกจะไม่ให้น่าเบื่อ ไม่ให้น้ำท่วมทุ่ง ถ้าหากใช้เวลานานจะไม่น่าสนใจ และจะพยายามจัดคู่เด็ดที่เป็นผลประโยชน์ของประชาชนเยอะๆ ส่วนนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เตือนกรณีพรรคออกหน้าปกป้องนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า เรื่องวัคซีนโควิด-19 อาจเข้าข่ายยอมให้บุคคลอื่นชี้นำพรรคตามมาตรา 28 พ.ร.บ.ว่าด้วยพรรคการเมืองโทษถึงขั้นยุบพรรค ตนพูดแทนประชาชน เจ้าของภาษีกว่า 4,000 ล้านบาท ประชาชนมีสิทธิจะตั้งคำถามว่าเป็นการกระจายความเสี่ยงที่เหมาะสมหรือไม่ เกิดอะไรขึ้นกับการต้องไปผูกอนาคตไว้กับยี่ห้อใดยี่ห้อหนึ่ง บังเอิญว่านายธนาธรเป็นแค่หนึ่งในประชาชนเท่านั้นเอง
“สุชาติ” ไม่ซีเรียสมั่นใจตอบได้หมด
นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงเป็น 1 ใน 11 รายชื่อรัฐมนตรีที่จะถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า ที่มีชื่ออาจเพราะว่าเป็นช่วงโควิด-19 ระบาดระลอก 2 พอดี เป็นประเด็นเดียวที่ฝ่ายค้านจะหยิบมาเล่นรัฐบาลได้ แต่ต้องพูดด้วยหลักความจริง พูดอะไรมาเราตอบชี้แจงได้ทุกประเด็นอยู่แล้ว พร้อมอยู่แล้ว สิ่งที่ถามมาเราจะตอบไปเห็นภาพตั้งแต่เกิดระบาดครั้งแรกจนถึงการระบาดครั้งที่ 2 จะได้พูดให้รู้ในสภาฯ และให้ฝ่ายค้านได้รับรู้เพราะฝ่ายค้านอาจไม่ได้ติดตามข้อมูลข่าวสารมาก เอาแต่เรื่องโน้นเรื่องนั่นมาเป็นประเด็น จะได้รู้ว่ากระทรวงแรงงานทำอะไรไปบ้าง ทำทุกเรื่องทุกมิติ ไม่ได้ซีเรียส ถามมาก็ตอบในฐานะ รมว.แรงงาน บนพื้นฐานความเป็นจริงและมีเอกสารหลักฐานตอบได้ ฝ่ายค้านทำหน้าที่ตรวจสอบ รัฐบาลหักล้างข้อกล่าวหา
สบายๆไม่ต้องระดมทีมองครักษ์
เมื่อถามว่าพรรคพลังประชารัฐต้องเตรียมพร้อมด้วยหรือไม่ นายสุชาติกล่าวว่า ถ้าเป็นเรื่องการทำงานตอบได้โดยบริบทตัวเองอยู่แล้ว ไม่จำเป็นถึงขนาดต้องระดมทีมอะไรมากมาย ใครโดนเรื่องส่วนตัวที่ไม่เกี่ยวกับนโยบายต้องให้เขาตอบเอง พูดอยู่ตลอดว่าถ้าเราทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริตบนพื้นฐานระเบียบและกฎหมายไม่ต้องกลัว รัฐบาลจะอยู่ไม่ได้มีอยู่เรื่องเดียวคือถ้ามีเรื่องทุจริต แต่รัฐบาลชุดนี้ไม่มีเรื่องนี้ รัฐบาลยืนอยู่บนพื้นฐานความถูกต้องซื่อสัตย์สุจริต ทำงานเพื่อประเทศชาติบ้านเมือง การอภิปรายถือเป็นสิ่งที่สวยงามตามระบอบประชาธิปไตย ฝ่ายค้านตรวจสอบ เราหักล้างข้อกล่าวหา คุยกันในสภาฯจบด้วยเหตุผลหักล้างกัน ประชาชนตัดสิน
“นิพนธ์” เก็งข้อสอบ ก.ก.ขุดนิคมฯจะนะ
นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีพรรคก้าวไกลตีตราจองจะอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า ยินดีและพร้อมชี้แจงทุกกรณี สาเหตุติดในกลุ่ม 11 รัฐมนตรีที่จะถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจน่าจะเป็นการพัฒนาพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมในเขตพื้นที่อำเภอจะนะ จ.สงขลา โครงการพัฒนาพื้นที่ตามแผนของศอ.บต. เพื่อพัฒนาพื้นที่และสร้างงานให้คนในพื้นที่ สร้างเศรษฐกิจ ทราบว่านายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า และ ส.ส.พรรคก้าวไกล หลายคนลงพื้นที่เก็บข้อมูลหลายครั้งหลายคนแล้ว โครงการนี้เชิญชวนภาคเอกชนมาลงทุน ไม่ได้ใช้เงินงบฯแผ่นดินแม้แต่บาทเดียว อยู่ในขั้นตอนการเชิญชวนเอกชนมาร่วมลงทุน แต่ถูกบางกลุ่มบางคน พูดความจริงไม่หมด ไม่ครบ ใช้ข้อมูลบิดเบือนในสื่อโซเชียลพาดพิงถึง จะได้เป็นโอกาสที่ดีจะได้ชี้แจงเหตุผลต่อสังคมในวงกว้างให้ได้เข้าใจ และพร้อมชี้แจงข้อกล่าวหาทุกเรื่องที่ฝ่ายค้านจองกฐิน มั่นใจในการปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งนี้ว่าทำถูกต้องโดยยึดหลักกฎหมายและประโยชน์ของส่วนรวมเป็นหลัก
“ธนกร” ไล่ พท.ไปทำให้เพื่อนไว้ใจก่อน
นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ กล่าวตอบโต้โฆษกพรรคเพื่อไทยที่ระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม อยู่มา 7 ปี ประสิทธิภาพการทำงานต่ำกว่านายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ทำงานแค่วันเดียวว่า นายกฯเข้ามาแก้ปัญหาให้ประเทศบนซากปรักหักพัง ที่พรรคเพื่อไทยก่อไว้ ทำงานมีประสิทธิภาพมากกว่าอดีตนายกฯที่ปล่อยให้ทุจริตจำนำข้าวจนต้องหนีออกนอกประเทศด้วยซ้ำ ส่วนการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลพร้อมชี้แจง ไม่ได้หนักใจอะไร ไม่ได้ทำผิดอะไร ใช้สภาฯตรวจ สอบการทำงานของรัฐบาล ดีกว่าสนับสนุนม็อบลงถนน เพียงแต่พรรคเพื่อไทยไปตกลงกันให้ดีก่อนดีกว่าว่าจะอภิปรายใครกันแน่ ไม่ใช่เปิดชื่อเรียกแขกไปวันๆ หรือไปสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจในพรรคร่วมฝ่ายค้านด้วยกันก่อนจะดีกว่า
ตอก “อรุณี” รู้ไม่จริงป้ายสีผู้นำ
น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า การที่โฆษกพรรคเพื่อไทย วิจารณ์นายกฯผูกขาดคำสั่งการใน ศบค.ว่าโครงสร้างศบค.มีรัฐมนตรีเจ้ากระทรวงร่วมอยู่ด้วย ที่สำคัญศบค.กระจายอำนาจการตัดสินใจ จากประกาศคำสั่งนายกรัฐมนตรี 39/2563 ปรับปรุงเพิ่มศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 กระทรวงมหาดไทย เพื่อช่วยการบริหารจัดการ โดยให้ผู้ว่าฯควบคุมพื้นที่ตัวเอง มีอำนาจสั่งการต่างๆในพื้นที่คล่องตัวขึ้น การดำรงตำแหน่ง ผอ.ศบค.ของ พล.อ.ประยุทธ์เพื่อความคล่องตัว ตัดสินใจเรื่องเร่งด่วนฉุกเฉินได้ เป็นผลดี กับคนทำงาน ทำให้ควบคุมสถานการณ์ได้อย่างดี แนวโน้มที่ดีขึ้นหรือเห็นว่าแนวโน้มจัดการโควิดเริ่มดีขึ้นจึงกังวลว่าจะถูกประชาชนลืม ต้องสร้างข่าวขึ้นมา การทำให้ประชาชนจดจำคือควรทุ่มเทช่วยเหลือประชาชนมากกว่าใช้วาทกรรมป้ายสี
“อดุลย์” ดักคอ พท.อย่าเป็นลิงหิวกล้วย
วันเดียวกัน นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา’35 ออกแถลงการณ์เรื่องพรรคร่วมฝ่ายค้าน เตรียมยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่าพรรคร่วมฝ่ายค้าน โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยต้องใช้กระบวนการนี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ระบบการเมือง และประชาชน ไม่ใช่ใช้เป็นเพียงเครื่องต่อรองผลประโยชน์ทางการเมือง หากเป็นเช่นนั้นต้องถือว่า พรรคร่วมฝ่ายค้าน เป็นหนึ่งในเงื่อนไขร่วมซ้ำเติมทำลายระบอบประชาธิปไตยฉากหน้าวิจารณ์โจมตีรัฐบาลเป็นเผด็จการ บริหารประเทศล้มเหลว ทุจริตเพื่อประโยชน์พวกพ้อง แต่ฉากหลังกลับจับมือซูเอี๋ย แบ่งบทกันเล่น หรือโจมตีวิจารณ์ เพื่อหวังตบทรัพย์ผลประโยชน์ เป็นลิงหิวกล้วย เมื่อได้กล้วยแล้วก็เล่นลิเก ทำหน้าที่แบบไม่สมศักดิ์ศรี เป็นมวยล้มต้มคนดู
รบ.ตู่แผลเหวอะทุจริตบานเบอะ
นายอดุลย์กล่าวว่า รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์มีบาดแผลมากที่สุด ทั้งแนวราบข้าราชการ นักการเมือง ทุจริตคอร์รัปชัน เป็นต้นตอปล่อยให้มีบ่อน ลักลอบนำเข้าแรงงานเถื่อนจนโควิดระบาดรอบ 2 งบฯพัฒนา ไฟฟ้าของเด็กบนดอยยังตามไปสูบเลือดเนื้อ แนวลึกมีการคอร์รัปชันเชิงนโยบาย เอื้อนายทุนพวกพ้อง ทำให้เกิดการผูกขาดทางเศรษฐกิจของบรรดาเจ้าสัว ทั้งเรื่องพลังงาน โครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ปัจจัย 4 แม้ กระทั่งวัคซีนโควิด-19 สร้างความเหลื่อมล้ำ แตกแยก ประชาชนแบ่งฝักฝ่าย ยิ่งรัฐบาลคุกคามเยาวชนนักเรียนนักศึกษา ยิ่งขยายความขัดแย้งในบ้านเมือง ผลจากความล้มเหลวในการบริหารประเทศ พรรคฝ่ายค้านควรผนึกกำลังกันหาข้อมูล พยานหลักฐาน กระชากหน้ากาก ตีแผ่ให้สังคมและประชาชนรับทราบ ช่วยกันยับยั้งไม่ให้ประเทศชาติเกิดความเสียหายมากไปกว่านี้
ให้ทำหน้าที่แข็งขันอย่าต่อรองปล่อยผี
นายอดุลย์กล่าวว่า วันนี้รู้สึกไม่สบายใจที่มี กระแสข่าว โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยต่อรองกับผู้มีอำนาจ เพื่ออภิปรายหรือไม่อภิปรายรัฐมนตรีคนใดคนหนึ่ง เช่น จะไม่อภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประ– วิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ จุดอ่อนที่สุดของรัฐบาล ขอวิงวอนพรรคฝ่ายค้านทำหน้าที่รักษาผลประโยชน์ชาติ ที่สำคัญรักษาความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อ ระบอบประชาธิปไตยในระบบรัฐสภา ส่วนองค์กรภาคประชาชน ขอทำหน้าที่ตรวจสอบการทุจริตให้เข้มข้นมากขึ้นในปี 64 เร็วๆนี้จะตีแผ่ความไม่ชอบมาพากลในโครงการขนาดใหญ่หลายโครงการ
“ราเมศ” ติดเบรกโหมโรงชิงผู้ว่าฯ กทม.
ส่วนการเตรียมตัวบุคคลลงสมัครรับเลือกตั้งชิงตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. วันเดียวกัน นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ยังไม่ถึงเวลาจะประชุมคณะกรรมการบริหารพรรควันที่ 28 ม.ค.พรรคเดินเครื่องเรื่องผู้ว่าฯ กทม.มานานแล้ว เตรียมนโยบายตอบสนองความต้องการชาว กทม. รองหัวหน้าพรรครับผิดชอบพื้นที่ กทม.มีหารือและลงพื้นที่ตลอด เราเป็นพรรคเดียวที่ยังทำงานอยู่ในทุกพื้นที่ กทม. ไม่ใช่ เห็นคนอื่นเปิดแล้วต้องรีบเปิดตัว พรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล พรรคพลังประชารัฐ หรือพรรคไหนที่เปิดตัวแล้ว ขอย้ำว่าพรรคให้ความสำคัญกับการเลือกตั้งใน กทม. เป็นพรรคแรกที่ยื่นแก้กฎหมายทวงคืน ส.ข.สมาชิกสภาเขต
“คึก” มัด หน.พรรคโอเคไม่มีฮั้วขาใหญ่
นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า หลังเสนอรายชื่อผู้เหมาะสม 4 คน คือนายองอาจ คล้ามไพบูลย์นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ นายพนิต วิกิตเศรษฐ์ และนายปริญญ์ พานิชภักดิ์ ต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค ส่วนใหญ่หนุน ในที่ประชุม ส.ส.พรรคเมื่อวันที่ 19 ม.ค.ได้วิเคราะห์และขอความชัดเจนจากกรรมการบริหารพรรค นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รับปากยืนยันว่าพรรคมีจุดยืนชัดเจนจะส่งผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ในนามพรรคแน่นอน มีรายชื่อผู้เหมาะสมแล้ว รอจังหวะเปิดตัวเมื่อเหมาะสม ผู้สมัครสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (สก.) ครบทุกเขต สมาชิกพรรค ผู้สนับสนุนและคน กทม.สบายใจและมั่นใจได้จะไม่มีการหลีกทางให้แก่บุคคล กลุ่มการเมืองหรือพรรคใด จนเกิดภาพฮั้วทางการเมืองเด็ดขาด
“พิธา” เเย้มสเปกผู้ว่าฯ กทม. “ใหม่ ชัด โดน”
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงความพร้อมสนามเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ของพรรคก้าวไกลว่า กำลังเฟ้นหาว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ที่ “ใหม่ ชัด โดน” คือใหม่จากสเปกผู้ว่าฯคนเก่าๆ ต้องเป็นคนรุ่นใหม่เข้าใจความท้าทายใหม่ๆ ต้องเข้าใจหัวใจคน กทม.ยังไม่รีบเปิดตัว จะช้ำเปล่าๆ เราต้องเอาของดีที่สุดให้คนกรุง เมื่อถามถึงกรณีนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีต รมว.คมนาคม และ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา อดีต ผบ.ตร. ตอนนี้เปิดตัวชัดเจนค่อนข้างเเข็ง สเปกที่จะเอาไปสู้ต้องเป็นอย่างไร นายพิธาตอบว่า ต้อง ไม่เหมือนกับที่มีมาต้องใหม่ ชัด โดนกว่า การเมืองใน กทม.ไม่เหมือนทั่วประเทศ มีโอกาสเปลี่ยนไปมาได้เยอะ ไม่ได้หมายความว่าเปิดตัวก่อนเเล้วจะได้เปรียบ ต้องมองกล้อง และถามประชาชนคน กทม.ว่าจะเอาคนมีชื่อเสียงผู้มีอิทธิพล ตำรวจ ทหารหรือกับนักการเมืองเเบบเก่าๆ แต่เราไม่ได้มีปัญหาหากเขาเหล่านั้นมีนโยบายที่ดี