“อาภรณ์” กลับลำพร้อมสอย “สิระ” พ้น ส.ส. อาสาลงชื่อคนแรก เลขาฯ พท.ย้ำอีกมีข้อเท็จจริงควรให้ศาล รธน.วินิจฉัย ส.ส.ก้าวไกลแอบเหน็บการกระทำสำคัญกว่าคำพูด กมธ.สภาฯจี้ “บิ๊กตู่” ตัดงบฟุ้งเฟ้อจัดซื้ออาวุธเอามาช่วยเหลือประชาชน “ธีรรัตน์” ตอกดีแต่สั่งปิดระวังจะตายกันหมด “เทพไท” ซัด ส.ส. สำนึกต่ำไม่ยอมกักตัว “ลุงตู่” ยาหอมเด็กบอกยินดีรับฟัง ผุดอีเวนต์ “รัฐฟังฉัน-ฉันฟังรัฐ” แก้ปมศึกเจเนอเรชัน จับตารอยร้าวในพรรคร่วมฝ่ายค้าน กับเกมสอยนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ ที่ต้องจั่วลมไปรอบแรก แม้พรรคเพื่อไทยประกาศพร้อมกลับลำร่วมลงชื่อสนับสนุน แต่พรรคร่วมฝ่ายค้านอื่น อาทิ พรรคก้าวไกล ยังคงมีท่าทีคลางแคลงใจ พร้อมระบุว่าการกระทำสำคัญกว่าคำพูด
“อาภรณ์” กลับลำสอย “สิระ”
เมื่อวันที่ 9 ม.ค. นางอาภรณ์ สาราคำ ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย เตรียมรวบรวมรายชื่อ ส.ส. เพื่อยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญขอให้วินิจฉัยถอดถอนนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ พ้นจากตำแหน่ง ส.ส.อีกรอบว่า ยืนยันว่าจะร่วมลงชื่อด้วยแน่นอน จะไม่มีการถอนชื่อเหมือนรอบที่แล้วอีก ครั้งที่แล้วเป็นความเข้าใจผิดพลาด เห็นว่าพรรคเพื่อไทยยังไม่มีมติพรรคในเรื่องนี้ เป็นกังวลจึงไปถอนชื่อออกมา ไม่เกี่ยวกับมีใคร ไปล็อบบี้ให้ถอนชื่อตน และนางอนุรักษ์ บุญศล ส.ส.สกลนคร ที่ถอนชื่อครั้งที่แล้ว พร้อมจะลงชื่อเป็นคน ที่ 1 และ 2 ในการยื่นถอดถอนนายสิระรอบนี้ ไม่กลัวที่นายสิระขู่ฟ้อง เพราะถือเป็นการทำหน้าที่ ส.ส.มั่นใจในข้อมูล พยานหลักฐานของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ มีความชัดเจนเพียงพอ สามารถเอาผิดนายสิระได้
...
เลขา พท.ย้ำอีกจับมือฝ่ายค้าน
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทยกล่าวว่า ยืนยันพรรคเพื่อไทยพร้อมสนับสนุนการยื่นถอดถอนนายสิระ เรื่องนี้ที่สะดุดไปเกิดจากการสื่อสารคลาดเคลื่อน แต่เชื่อว่าตอนนี้สมาชิกพรรคเข้าใจแล้วว่าการร่วมลงชื่อตรวจสอบสมาชิกภาพของนายสิระ เป็นเรื่องที่พรรคเพื่อไทยเห็นด้วย เพราะ มีข้อเท็จจริงและประเด็นสาระควรที่ศาลรัฐธรรมนูญจะได้วินิจฉัย พรรคเพื่อไทยขอยืนยันและแสดงเจตจำนงร่วมกับพรรคเสรีรวมไทย และพรรคร่วมฝ่ายค้านอื่นยื่นตรวจสอบเรื่องนี้ พอเราได้สื่อสารเช่นนี้ไปแล้วเชื่อว่าจะยื่นเรื่องดังกล่าวต่อศาลรัฐธรรมนูญได้ โดยมีลายมือชื่อ ส.ส.ครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนด
กก.ชี้กระทำสำคัญกว่าคำพูด
นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า ในส่วนของพรรคก้าวไกลพร้อมสนับสนุนเต็มที่ ให้ ส.ส.ของพรรคร่วมลงชื่อถอดถอนนายสิระให้ได้มากที่สุด แต่เราเคารพการตัดสินใจของพรรคเพื่อไทย หากอยากร่วมลงชื่อถือเป็นเรื่องดี คำพูดไม่ค่อยมีอะไรเท่าไหร่ให้ดูที่การกระทำดีกว่า ว่ามีความจริงใจที่ต้องการทำเรื่องนี้หรือไม่ ไม่กล้าไปยืนยันแทนพรรคเพื่อไทย อย่างไรก็ตาม กระบวนการคัดเลือกคน 500 คน ที่จะมาเป็นตัวแทนของประชาชนทั้งประเทศ การประพฤติ และคุณสมบัติที่มีในอดีต รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ชัดว่าไม่ให้ต้องคำพิพากษาจำคุกจนถึงที่สุด เกี่ยวกับความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา และตนเป็นกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร ที่ทำหน้าที่ตรวจสอบและรับผิดชอบเรื่องนี้ด้วย
กมธ.ฯจี้ “บิ๊กตู่” ตัดงบซื้ออาวุธ
นายวรสิทธิ์ กัลป์ตินันท์ ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ประธานคณะกรรมาธิการอุตสาหกรรม สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า จากการระบาดของโควิดรอบใหม่สร้างความเสียหายมหาศาลให้ภาคอุตสาหกรรมทุกประเภท หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประมาณการความเสียหายภาพรวมเศรษฐกิจไทยไม่ต่ำกว่า 20,000 ล้านบาทต่อเดือน ชัดเจนว่าวิกฤติเศรษฐกิจวันนี้หนักกว่าสมัยวิกฤติต้มยำกุ้ง เพราะกระทบกับทุกภาคอุตสาหกรรม และมีแนวโน้มว่ารัฐบาลไม่สามารถบริหารวิกฤติให้อยู่ในวงจำกัดได้ ดังนั้น รัฐบาลต้องเร่งฟื้นฟูประเทศโดยเร็ว ใช้งบ ประมาณทุกบาทให้เกิดประโยชน์สูงสุด มาตรการที่ออกมาต้องดูว่าเป็นธรรมกับประชาชนหรือไม่ การใช้จ่ายงบทุกบาทต้องคุ้มค่า ต้องปรับแนวทางการใช้งบประมาณใหม่ ต้องไม่มีการทุจริตทุกโครงการ เงินที่จะนำไปซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ให้กองทัพต้องไม่มีในงบประมาณปี 2565 รวมทั้งการก่อสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานต้องชะลอไว้ก่อน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ต้องบริหารงบฯให้โปร่งใส ใช้ภาษีทุกบาทให้คุ้มค่า หยุดซื้อรถถัง เครื่องบิน เรือดำน้ำ สร้างถนน นำงบทั้งหมดไปช่วยเหลือประชาชน อย่ามองผลประโยชน์ส่วนตัว มาก่อนผลประโยชน์ของประชาชน
เย้ยแก้ปัญหาบ่อนโดยอยู่เฉยๆ
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายกฯยอมรับปัญหาเรื่องบ่อนพนัน ค้าแรงงานเถื่อน เป็นปัญหามานาน วันนี้ต้องดำเนินการเฉียบขาดว่า นายกฯต้องไปคุยกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ให้เข้าใจตรงกันก่อนว่าตกลงมีบ่อนหรือไม่มีบ่อน ยิ่งพูดยิ่งสับสนสวนทางกันเอง นายกฯพูดเหมือนกับเพิ่งยึดอำนาจเข้ามา ทั้งที่อยู่มานานเกือบ 7 ปี นานจนไม่สามารถไปกล่าวโทษรัฐบาลใดได้ ที่ผ่านมารัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ทำอะไรบ้าง นอกจากกู้กับแจก ถ้าเวลา 6-7 ปี แก้ปัญหาบ่อนพนัน-ค้าแรงงานเถื่อนไม่ได้ ต้องใช้เวลาอีกนานเท่าใด ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี แก้วิกฤติเหล่านี้ได้หรือไม่ แสดงว่าเวลาที่ผ่านมารัฐบาลไม่ประสบความสำเร็จเลย ทั้งที่ใช้งบประมาณไปกว่า 20 ล้านล้านบาท สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ บ้านเมืองวิกฤติขนาดนี้ทีมเศรษฐกิจหาย เหลือแต่ พล.อ.ประยุทธ์ และคงไม่แก้ปัญหาบ่อนด้วยวิธีการอยู่เฉยๆแบบนี้
ดีแต่สั่งปิดระวังจะตายกันหมด
น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ภาครัฐต้องทบทวนวิธีการแก้ปัญหาที่ปฏิบัติในปัจจุบัน การสั่งปิดสถานที่ต่างๆโดยไม่คำนึงถึงผลกระทบที่จะตามมา เช่น สั่งปิดสถานที่ท่องเที่ยวที่เปิดโล่ง หรือยกเลิกการจัดอบรมในสถานที่เปิด หรือแม้แต่สนามกีฬาชุมชน เป็นวิธีแก้ปัญหาที่ขาดการวิเคราะห์ ไม่คำนึงถึงผลกระทบในวงกว้างที่จะตามมา บทเรียนจากรอบแรกคือคนตกงานตัดสินใจจบชีวิตด้วยการฆ่าตัวตายจำนวนมาก แต่ภาครัฐไม่นำมาเรียนรู้ ทำเพียงแก้ปัญหาวันต่อวัน ไม่ต่างจากการระบาดครั้งแรก สิ่งที่รัฐควรประกาศเป็นแนวปฏิบัติเพื่อแก้ปัญหาข้างต้น คือการอนุญาตให้เปิดสถานที่ต่างๆได้โดยจำกัดจำนวนคน เปิดช่องทางการจอง แจ้งกำหนดเวลาที่ชัดเจน เพื่อเข้าทำกิจกรรมหรือท่องเที่ยว จับจ่ายใช้สอย เป็นประโยชน์ทั้งด้านเศรษฐกิจ และสุขภาพจิตของประชาชน ที่ยังสามารถทำกิจกรรมได้อย่างปลอดภัย แทนการสั่งปิดอย่างเดียว
“เทพไท” ซัด ส.ส.สำนึกต่ำไม่กักตัว
นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า นักการเมืองที่กลับไปลงพื้นที่ต่างจังหวัด ควรต้องกักตัว 14 วันให้เป็นตัวอย่างของบุคคลทั่วไป แต่มีนักการเมืองหลายคนที่เพิกเฉยไม่ยอมปฏิบัติตามกฎระเบียบที่ ศบค.กำหนด ยังคงไปร่วมกิจกรรมต่างๆในเขตเลือกตั้งกับพี่น้องประชาชน ทั้งงานแต่ง งานศพ และกิจกรรมอื่น สุ่มเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโควิดมาก ปรากฏให้เห็นจากเฟซบุ๊กของนักการเมืองแต่ละคน สามารถนำมาเป็นหลักฐานยืนยันได้ว่าไม่มีการกักตัวตามประกาศของ ศบค.จริง ขอเรียกร้องให้นักการเมืองทุกคนปฏิบัติตนอย่างเคร่งครัด ไม่ทำตัวเป็นอภิสิทธิ์ชนที่มีข้อยกเว้น เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับประชาชน
วอน รบ.เร่งช่วยเหลือเอสเอ็มอี
นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า มีบางธนาคารออกมาตรการพักชำระหนี้ให้ประชาชนในจังหวัดพื้นที่สีแดง 28 จังหวัด แต่ยังไม่ครอบคลุมกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ที่กำลังอยู่ในภาวะฟื้นตัวแต่กลับต้องมาฟุบอีกรอบ จากการระบาดรอบสอง การประชุม ครม.วันที่ 12 ม.ค. ทราบว่าจะมีข้อเสนอมาตรการพักหนี้ และการออกสินเชื่อเพิ่มทุน อยากเสนอและวิงวอนรัฐบาลให้ช่วยเยียวยาช่วยเหลือผู้ประกอบธุรกิจ SMEs จัดหามาตรการที่เหมาะสมช่วยเหลือให้ดำเนินธุรกิจต่อไปได้ และต้องหาทางรับมือเศรษฐกิจหากสถานการณ์ยังไม่คลี่คลาย ผู้ประกอบธุรกิจ SMEs ถือเป็นภาคธุรกิจที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ เป็นแหล่งจ้างงานสำคัญของระบบเศรษฐกิจไทย แต่ยังไม่ได้รับความช่วยเหลือเพิ่มเติมเท่าที่ควร
“ลุงตู่” ยาหอมเด็กยินดีรับฟัง
วันเดียวกัน สถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (เอ็นบีที) เผยแพร่เทปบันทึก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ที่พบปะสนทนากับตัวแทนเยาวชน ในกิจกรรม “นายกรัฐมนตรีพูดคุยกับเยาวชน” เนื่องในวันเด็กแห่งชาติประจำปี 2564 ว่า “ลุงยินดีรับฟังทุกคนแม้จะอายุมากกว่าก็ตาม คาดหวังเห็นความหวังที่มีความสวยงามของเด็กและเยาวชนที่จะเดินไปภายภาคหน้า ก็ไม่รู้จะอยู่ไม่อยู่ หวังเห็นเยาวชนสืบสาน รักษา และต่อยอดตามพระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และหวังทุกส่วนทำงานร่วมกันจริงจัง เข้าใจกัน อะไรที่ทำได้ อะไรที่ทำไม่ได้ อะไรที่ควรทำ อะไรที่ยังไม่ควรทำ หลายอย่างมีกฎหมาย มีระเบียบหลายตัว เราคิดนอกกรอบได้ แต่พอทำแล้วติด ต้องมาดูว่าจะแก้ตรงไหน อย่างลุงถ้าทำแล้วติดต้องหาวิธีคิดนอกกรอบได้ไหม แล้วหาวิธีนำเข้ามาในกรอบได้อย่างไร ถ้าคิดนอกกรอบเลยแล้วทำอย่างที่เราคิด ทำไม่ได้หรอก เพราะไม่ได้ทำคนเดียว ถือเป็นวาระแห่งชาติถ้าทุกคนทำงานร่วมกัน วันนี้อยากให้เป็นเวทีเปิดรับฟังความคิดเห็น แลกเปลี่ยนประสบการณ์ แสดงศักยภาพของพวกเรา และต้องมีภูมิต้านทานเฟกนิวส์”
ผุดอีเวนต์ “รัฐฟังฉัน-ฉันฟังรัฐ”
จากนั้นตัวแทนเยาวชนได้เล่าประสบการณ์การทำงานร่วมกับภาครัฐในโครงการ “รัฐฟังฉัน” เพื่อรับฟังความคิดเห็นและส่งเสริมการมีส่วนร่วมของเยาวชนรุ่นใหม่ และประชาชน เพื่อพัฒนาสังคมชุมชนให้ดีขึ้น โดยนายกฯกล่าวชื่นชมว่า ยอดเยี่ยมจะร่วมมือต่อไป เราอยากมองคนหนุ่มสาวคิดอย่างไร เรื่องของโอกาส ความเชื่อ เรามีเยอะ แต่ที่เราเชื่อ ประเด็นแห่งความเชื่อมีความเป็นมาอย่างไร สมมติมีปัญหาแล้วปัญหาอยู่ตรงไหน วิธีการแก้ปัญหา กลไกแก้ปัญหา กฎระเบียบของสังคม กฎหมาย ทุกประเทศอยู่ด้วยกฎหมาย ประชาธิปไตยก็ต้องมีกฎหมาย เพราะเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อย ส่วนเรื่องกลไกกระบวนการยุติธรรมก็ว่ากันไป ไม่เคยไปยุ่ง และเราต้องคำนึงถึงอนุสัญญาสิทธิเด็ก รัฐบาลดูตรงนี้อยู่ เน้นการมีส่วนร่วมเปิดพื้นที่ให้เด็กแสดงความคิดเห็น สิ่งสำคัญที่สุดเราต้องมองความแตกต่าง ทำอย่างไรให้คนรุ่นเก่ารุ่นใหม่อยู่ร่วมกันได้ “รัฐฟังฉัน” แล้วขอให้ “ฉันฟังรัฐ” ด้วย ฟังนายกฯหน่อย จะผิดจะถูกไปคิดเอา ลุงไม่มีเจตนาเป็นอย่างอื่น ไม่ได้ทำเพื่อตัวเองเพื่ออำนาจอย่างที่เขาพูด ลุงใช้แค่อำนาจบริหารราชการเท่านั้น ขอให้ไปทำเครือข่ายของพวกเธอให้ได้ ลุงรับจะเป็นที่ปรึกษาและผู้สนับสนุนให้”
พรรคกล้าขอของขวัญรัฐ 3 ข้อ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคกล้าได้ออกแถลงการณ์ เนื่องในวันเด็กแห่งชาติ 2564 ระบุว่า อยากขอของขวัญ 3 ข้อจากรัฐบาล คือ 1.ขอให้รัฐจัดสรรเงินอุดหนุนแบ่งเบาภาระผู้ปกครองให้กับเด็กหัวละ 3,000 บาท ในระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษา อาชีวะ 10 ล้านคน ใช้งบประมาณรวม 30,000 ล้านบาท สามารถโยกเงินกู้ในส่วนงบเยียวยาที่ยังไม่ได้เบิกจ่ายเกือบ 200,000 ล้านบาทมาใช้ได้ ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายผู้ปกครองที่ประสบภาวะฝืดเคืองในสถานการณ์กึ่งล็อกดาวน์ตอนนี้ 2.ปล่อยเงินกู้อัตราดอกเบี้ยต่ำ ช่วยเหลือผู้ประกอบการโรงเรียนเอกชน เนิร์สเซอรีที่ถูกปิด เพื่อต่อชีวิตผู้ประกอบการในภาวะฝืดเคืองจากการระบาดโควิดรอบสอง 3.ขอให้เปิดเนิร์สเซอรีที่ถูกสั่งปิด เพราะเสี่ยงทำให้การระบาดมากขึ้นไปอีก เนื่องจากไม่ได้มีการล็อกดาวน์ทั้งหมด