"ทิพานัน" อดีตรองโฆษกพปชร. แนะ ฝ่ายค้านเลือกเป็น "ฮีโร่" หรือ "ซีโร่" ในวิกฤติโควิดได้ อย่าจ้องแต่ดิสเครดิตรัฐบาล ยกบทเรียน เลือกตั้ง อบจ.สอนใจ ยัน รัฐบาลเข้มชายแดนเต็มกำลัง หากฝ่ายค้านรู้ดีหลบหนีเข้า-ออกอย่างไรให้ข้อมูลรัฐได้
วันที่ 23 ธ.ค.63 น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตจอมทอง-ธนบุรี อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่มีการประกาศล็อกดาวน์ จ.สมุทรสาครและพื้นที่เสี่ยงในบางจังหวัดว่า เป็นการตัดไฟแต่ต้นลม เนื่องจากประเทศไทยมีประสบการณ์รับมือกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่มีการระบาดในวงกว้างช่วงเดือนมีนาคม-เมษายนที่ผ่านมา การเร่งปิดเมืองเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดไม่ให้ลุกลาม โดยต้องคุมให้อยู่ และจบให้เร็วที่สุด ไม่เช่นนั้นจะจัดการได้ยาก ซึ่งที่ผ่านมาพี่น้องประชาชนให้ความร่วมมือในการป้องกันการแพร่ระบาดเป็นอย่างดี ทั้งการป้องกันตนเองด้วยการใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ เว้นระยะห่างทางสังคม ทำให้เราผ่านพ้นวิกฤติมาได้จนมีผู้ติดเชื้อเป็นศูนย์ และเป็นตัวอย่างให้กับนานาประเทศที่องค์การอนามัยโลกยกย่อง ตนเชื่อมั่นว่าครั้งนี้เราก็จะทำสำเร็จอีกครั้ง
"ทุกคนคือฮีโร่ ไม่ว่าจะเป็นบุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติในทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ที่สำคัญคือพี่น้องประชาชนตอนนี้ต้องร่วมมือร่วมใจกันเป็นหูเป็นตาในชุมชน สอดส่องผู้มีประวัติเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยง และแรงงานต่างด้าวที่ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายไม่ผ่านการกักตัว หากพบเห็นหรือมีข้อมูลให้แจ้งเจ้าหน้าที่ให้กักกันตรวจเชื้อ เพื่อไม่ให้ผู้ติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการเดินทางไปแพร่เชื้อให้กับผู้อื่น" น.ส.ทิพานัน กล่าว
...
ส่วนที่ฝ่ายค้านออกมาตำหนิว่า การบริหารจัดการการของรัฐบาลในการจัดการปัญหาลักลอบข้ามแดนนั้น น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า ที่ผ่านมารัฐบาลระดมสรรพกำลังในการเฝ้าระวังตามแนวชายแดน และสกัดการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายตามช่องทางธรรมชาติแล้ว เมื่อมีเหตุการณ์ลักลอบเข้าเมืองก็ได้ยกระดับความเข้มงวดเพิ่มมากขึ้นเต็มกำลัง ซึ่งฝ่ายค้านโดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยน่าจะทราบดีว่าแนวชายแดนของไทยยาวกว่า 5 พันกิโลเมตร ที่ไม่เพียงการลักลอบเข้ามาเท่านั้น การลักลอบออกไปตามช่องทางธรรมชาติก็มีโอกาสเล็ดลอดได้ หากฝ่ายค้านจะค้นหาหรือสอบถามว่า มีเทคนิคกลยุทธ์ใดพิเศษที่คนจะหลบหนีเข้าออกได้มาแจ้งรัฐก็จะเป็นการช่วยชาติอีกทางหนึ่ง ฉะนั้นตนจึงเห็นว่า ฝ่ายค้านเอง แม้ไม่มีหน้าที่หรืออำนาจรัฐในการช่วยแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้โดยตรง แต่สามารถช่วยคลี่คลายสถานการณ์ได้ด้วยการเป็นหูเป็นตาช่วยกันดูแลในพื้นที่ของตนเอง โดยเฉพาะการลักลอบเข้ามาของแรงงานต่างด้าวที่ผิดกฎหมาย ก็จะเป็นการทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างสร้างสรรค์และเป็นประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติ ดีกว่านั่งจ้องดิสเครดิตรัฐบาลโดยที่ไม่ได้ลงมือทำอะไรเลย
"ฝ่ายค้านเลือกได้ว่าจะเป็นฮีโร่ หรือซีโร่ ของประชาชน เพราะมีบทเรียนจากผลการเลือกตั้ง อบจ. ที่พรรคเพื่อไทยได้มา 9 เก้าอี้ ขณะที่กลุ่มก้าวหน้า ไม่ได้เลยสักเก้าอี้ เป็นบทเรียนให้ต้องปรับปรุงบทบาทหน้าที่ของตนเองแล้วว่าควรทำอย่างไรในสถานการณ์วิกฤติเช่นนี้ เราควรแข่งขันกันทำหน้าที่เพื่อประโยชน์ของประชาชน เพื่อความกินดีอยู่ดีของคนในชาติมิใช่หรือ" น.ส.ทิพานัน กล่าว.