แกนนำ-แนวร่วมกลุ่มราษฎร พาเหรดรับทราบข้อหา ม.112 “เพนกวิน-รุ้ง-ไมค์-ไผ่-สมยศ-น้องมายด์-ปอ” ทั้งหมดปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ไปลุยม็อบต่อ 10 ธ.ค. วันรัฐธรรมนูญ ผุดม็อบเฟสฯ กดดันยกเลิก ม.112 “สมยศ” แย้มฟ้องยูเอ็นใช้กฎหมายล้าหลังเล่นงาน “ธนาธร” ควงทนายพบ ตร.คดีชุมนุมห้าแยกลาดพร้าว “โตโต้” นำกลุ่ม wevo บุกรื้อลวดหนามหีบเพลง ตร.ลุยจับฐานทำลายทรัพย์ ผบช.น.แจ้งยอดเอาผิด ม.112 รวม 13 คน เปิดตัวภาคีนักกฎหมายฯ รวมตัวต้านใช้อำนาจรัฐมิชอบ ขู่ฟ้องดะตั้งแต่ตัวเล็กยันตัวใหญ่ “บิ๊กตู่” ลั่นไม่มีทางให้เป็นสาธารณรัฐ ทำเขินโหร คมช.อวยให้อยู่ยาว แต่ “บิ๊กป้อม” โยนผ้าขาวไม่ไหวจะไปต่อ 3 กมธ.ชุดลากตั้ง ดิ้นโต้ ส.ว.สหรัฐฯ รับกังวลหนัก “เสรี” ซัดอย่าก้าวก่ายกิจการชาติอื่น

การเมืองยังคงร้อนแรง หลังฝ่ายรัฐอัดยาแรงใช้กฎหมายทุกฉบับทุกมาตรา มาเล่นงานม็อบราษฎร โดยเฉพาะมาตรา 112 มีการแจ้งความดำเนินการแกนนำอ่วมไปตามกัน ขณะที่หลายองค์กรทางกฎหมาย รวมตัวเป็นภาคีนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน เพื่อช่วยเหลือกลุ่มเยาวชน และฟ้องร้องเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

...

“กวิ้น-รุ้ง-ไมค์” รับทราบข้อหา 112

เมื่อเวลา 11.45 น. วันที่ 8 ธ.ค.ที่ สภ.เมืองนนทบุรี นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง นายภานุพงษ์ จาดนอก หรือไมค์ ระยอง แกนนำคณะราษฎร เข้ารับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียกคดี ป.อาญามาตรา 112 ในคดีร่วมกันขึ้นเวทีชุมนุมขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม เมื่อวันที่ 10 ก.ย.ที่ริมเขื่อนท่าน้ำนนทบุรี โดยมี น.ส.อินทิรา หรือทราย เจริญปุระ ดารานักแสดง และกลุ่มมวลชนมาคอยให้กำลังใจ มีนายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เข้าร่วมรับฟังการสอบสวนด้วย ทั้งนี้ก่อนเข้าพบเจ้าหน้าที่ นายพริษฐ์กล่าวว่า มาตรา 112 ที่พวกเราโดนเพราะต่อสู้เพื่อประชาชนราษฎร ให้มีการยกเลิกมาตรา 112 และให้มีการปฏิรูปสถาบัน ไม่ใช่การล้มล้างแต่อย่างใด ส่วนนายภานุพงษ์กล่าวว่า ตั้งข้อสังเกตว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นนานกว่า 1 เดือนแล้ว แต่ทำไมเพิ่งมาแจ้งข้อกล่าวหา ถือว่าเป็นเครื่องมือกลั่นแกล้งของฝ่ายรัฐบาลที่ใช้กับคนที่เห็นต่างทางการเมืองหรือไม่

ทั้งหมดปฏิเสธข้อหาลุยม็อบต่อ

หลังจากที่พนักงานสอบสวนนำโดย พ.ต.ท.พันธมิตร จ้างประเสริฐ รอง ผกก. (สอบสวน) พ.ต.ท.บำเพ็ญ ไวยรจนา รอง ผกก. (สอบสวน) สอบปากคำทั้ง 3 คนแล้ว ได้ทำบันทึกแจ้งข้อกล่าวหามาตรา 112 ทั้งหมดได้อ่านบันทึกให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวและไม่ขอให้การใดๆ และจะนัดส่งพยานเอกสารและคำให้การภายใน 30 วัน ขณะที่นายพริษฐ์ขึ้นรถขยายเสียงปราศรัยว่า วันที่ 10 ธ.ค.นี้ จะจัดกิจกรรมที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลาฯ เรียกร้องให้ยกเลิกมาตรา 112 จากนั้นทั้งหมดเดินทางไปให้กำลังใจ “ไผ่ ดาวดิน” ที่ สน.ชนะสงคราม

“สมยศ” เผยฟ้องยูเอ็น ก.ม.ล้าหลัง

ต่อมาเวลา 13.30 น.ที่ สน.ชนะสงคราม นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน พร้อมนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข คอลัมนิสต์เว็บไซต์ประชาไท เข้าพบ พ.ต.ท.โชคอำนวย วงศ์บุญฤทธิ์ รอง ผกก. (สอบสวน) สน.ชนะสงคราม รับทราบข้อหาตามหมายเรียกในข้อหามาตรา 112 กรณีชุมนุมปราศรัยและฝังหมุดคณะราษฎร 2563 ที่ท้องสนามหลวง เมื่อวันที่ 19-20 ก.ย. โดยมีกลุ่มมวลชนแนวร่วม อาทิ “เฮียบุ๊ง-ปกรณ์ พรชีวางกูร” “ทราย เจริญปุระ” และนายไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ หรือแอมมี่ เดอะบอตทอมบลูส์ มาร่วมให้กำลังใจ นายสมยศ กล่าวก่อนเข้าพบตำรวจว่า แปลกใจมากที่ผ่านมาไม่เคยได้รับหมายเรียกเลย นับเป็นเกียรติที่ได้เป็นหนึ่งใน 20 ผู้ถูกหมายเรียกในคดีนี้ มาตรา 112 เป็นเรื่องที่ต่อสู้กันมายาวนาน จนตนต้องไปอยู่ในเรือนจำมาแล้ว 7 ปี หากครั้งนี้ถูกตัดสินว่าผิดอีก จะโดนเพิ่มโทษหนักกว่าเดิม วันที่ 10 ธ.ค. จะมีผู้ไปยื่นหนังสือต่อองค์กรสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เพื่อฟ้องว่ามาตรา 112 เป็นกฎหมายที่ไม่ทันสมัย ทั่วโลกจะติเตียนกระบวนการยุติธรรมของไทย

“มายด์-ปอ” ปฏิเสธทุกข้อหา

ที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ น.ส.ภัสราวลี หรือมายด์ ธนกิจวิบูลย์ผล แกนนำกลุ่มมหานครเพื่อประชาธิปไตย นายกรกช หรือปอ แสงเย็นพันธ์ แกนนำขบวนการประชาธิปไตยใหม่ พร้อมผู้ชุมนุมปราศรัยที่หน้าสถานทูตเยอรมนี เมื่อวันที่ 26 ต.ค. รวม 9 คน เข้าพบ พ.ต.อ.พิทักษ์ สุทธิกุล รอง ผบก.อคฝ.รรท.ผกก.สน.ทุ่งมหาเมฆ เพื่อรายงานตัวตามหมายเรียกในความผิดตามมาตรา 112 โดยมี พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. ร่วมสอบสวน มีนายศุภณัฐ บุญสด ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ร่วมรับฟังด้วย น.ส.ภัสราวลีกล่าวภายหลังเข้าให้ปากคำนานกว่า 4 ชั่วโมงว่า ทุกคนที่มาตามหมายเรียกจะถูกดำเนินคดีรวม 3 ข้อหา ประกอบด้วยมาตรา 116 มาตรา 112 และการใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต ทุกคนปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา มาตรา 112 หลายประเทศยกเลิกไปแล้ว แต่รัฐบาลไทยยังใช้เพื่อกำราบประชาชนที่เห็นต่าง แต่ยืนยันว่าเราไม่กลัว

“ธนาธร” พบ ตร.คดีชุมนุมห้าแยก

ที่ สน.พหลโยธิน นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า พร้อมทนายความ เข้าพบ พ.ต.ท.นพดล ดรศรีจันทร์ สว. (สอบสวน) สน.พหลโยธิน เพื่อรับทราบข้อกล่าวหากระทำความผิด พ.ร.ก.การชุมนุมฯ กรณีเข้าร่วมชุมนุมกับนักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชน ในนามกลุ่มราษฎร บริเวณห้าแยกลาดพร้าว เมื่อวันที่ 17 ต.ค. นายธนาธรกล่าวว่า เข้ารับทราบข้อกล่าวหาตามที่พนักงานสอบสวนออกหมายเรียก แต่ปฏิเสธข้อกล่าวหา

10 ธ.ค. ผุดม็อบเฟสยกเลิก ม.112

วันเดียวกันเวลา 08.30 น. กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม นำโดยนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล และนายชัชนนท์ ไพโรจน์ หรือนัท แจ้งข่าวในไลน์กลุ่มสื่อมวลชน และสื่อสังคมออนไลน์ในทุกแพลตฟอร์มประชาสัมพันธ์การจัดชุมนุมในวันที่ 10 ธ.ค.ว่า แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม x Mob Fest วันที่ 10 ธ.ค.นี้ นอกจากจะเป็นวันรัฐธรรมนูญแล้ว ยังเป็นวันสิทธิมนุษยชนสากลอีกด้วย เรามีอีเวนต์สำคัญ จะเป็นอะไรนั้นโปรดติดตามประกาศถัดไป #ยกเลิก 112 #abOlish 112

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์ฯ ประกาศจัดชุมนุมวันที่ 10 ธ.ค. มีเป้าหมายเพื่อรณรงค์ให้ยกเลิกมาตรา 112 เพราะมีสมาชิกในกลุ่มราษฎรถูกแจ้งข้อหามาตรา 112 แล้ว 16 คน

“wevo” บุกรื้อลวดหนามหีบเพลง

ส่วนความเคลื่อนไหวของแนวร่วมกลุ่มเมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 7 ธ.ค. นายปิยรัฐ จงเทพ หรือโตโต้ อดีตผู้สมัคร ส.ส.กาฬสินธุ์ พรรคอนาคตใหม่ แกนนำกลุ่ม wevolunteer หรือ wevo การ์ดมวลชนอาสาม็อบราษฎรชุดแรก แพร่ภาพสดผ่านเฟซบุ๊กเพจ wevolunteer ขณะนำมวลชนอาสา wevo ราว 30 คน นำอุปกรณ์เข้าเก็บลวดหนามหีบเพลง ที่ถูกนำมากองทิ้งไว้ บริเวณแยกอุรุพงษ์ ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ นายปิยรัฐระบุว่า ได้รับการร้องเรียนจากประชาชน ว่าเจ้าหน้าที่นำลวดหนามที่เสร็จจากการใช้สกัดม็อบ นำมากองทิ้งไว้ ทำให้ผู้สัญจรผ่านไปมาได้รับความเดือดร้อน ลวดหนามหีบเพลงถือเป็นยุทธภัณฑ์ ไม่ควรนำมาทิ้งไว้ใจกลางกรุง ทางกลุ่มได้แจ้งเจ้าหน้าที่ทราบแล้ว แต่ยังไม่มีใครมาเก็บ จึงนำทีมงานมาเก็บกู้ และนำไปส่งคืนให้เจ้าหน้าที่ต่อไป

ตร.ลุยจับ “โตโต้” กับพวกนับสิบ

ต่อมาเวลา 22.45 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจนำกำลังเข้าสลายการชุมนุม ขณะที่กลุ่ม wevo พยายามชี้แจงว่ามาเก็บรั้วสนามให้กับตำรวจแต่กลับถูกจับกุม ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามกันผู้ไม่เกี่ยวข้องรวมถึงสื่อมวลชนออกจากพื้นที่ และคุมตัวนายปิยรัฐพร้อมพวกนับ 10 คน ขึ้นรถคุมขังคุมตัวไปดำเนินคดีที่ สน.พญาไท โดยมีมวลชนกลุ่ม wevo ติดตามมาให้กำลังใจ และตะโกนด่าทอเจ้าหน้าที่ ที่มี พ.ต.อ.อรรถวิทย์ สายสืบ รอง ผบก.น.1 คอยดูแลและคุมสถานการณ์ จนเวลา 00.30 น. ต่อเนื่องวันที่ 8 ธ.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.อคฝ. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตชด. นำแผงเหล็กมากั้นทางเข้า-ออก ทุกช่องทาง ไม่ให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปในพื้นที่ ทำให้กลุ่มมวลชนไม่พอใจ ตะโกนเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจปล่อยตัวผู้ที่ถูกจับกุม

“เจ๊เจี๊ยบ” ก้าวไกลรุดประกันตัว

จากนั้น น.ส.อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เดินทางมายัง สน.พญาไท เพื่อขอประกันตัวทั้ง 19 คน และประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจะไม่ควบคุมน้องๆไปยังที่อื่น จะสอบปากคำที่นี่ที่เดียว เสร็จแล้วจะปล่อยตัวโดยไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ หรือมีเงื่อนไขใดๆ ขอให้มวลชนที่มาให้กำลังใจงดใช้เครื่องขยายเสียง เพราะจะเป็นการรบกวนชาวบ้านละแวกนี้ ขอให้อยู่ในความสงบ

น.1 เผยเอาผิด ม.112 รวม 13 คน

พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. กล่าวว่า มีผู้มาร้องทุกข์กล่าวโทษว่าผู้ชุมนุมกระทำผิดตามมาตรา 112 ตำรวจจึงตั้งคณะทำงานสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานจนพบการกระทำเข้าข่าย ความผิด จนออกหมายเรียกแกนนำมารับทราบข้อกล่าวหา รวม 13 คน ส่วนกรณีมีผู้รวมกลุ่มกันรื้อลวดหนามหีบเพลงที่แยกอุรุพงษ์ พื้นที่ สน.พญาไท ตำรวจได้ดำเนินคดีทั้งหมด 19 คน ในความผิดฐานต่อสู้และขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ทำลายทรัพย์สิน และไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าพนักงาน กำลังพิจารณาความผิดอื่น ส่วนที่กลุ่มการ์ดอ้างว่าชาวบ้านเดือดร้อนจากการตั้งวางลวดหนามหีบเพลง ถามว่าการที่วางอยู่นั้นมันกีดขวางจริงหรือไม่ ลวดหีบเพลงนั้นเป็นทรัพย์สินราชการ ต้องเก็บให้มิดชิดไม่ให้กระทบกับประชาชน สำหรับการเตรียมพร้อมรับมือหากมีการชุมนุมทางการเมืองในวันที่ 10 ธ.ค.นั้น ตอนนี้ การข่าวยังไม่มีเหตุบ่งชี้ความรุนแรง

กลุ่มภาคีนัก ก.ม.รวมตัวต้านรัฐ

ที่คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ภาคีนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน ประกอบด้วย สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน มูลนิธินิติธรรมสิ่งแวดล้อม มูลนิธิผสานวัฒนธรรม สมาพันธ์นักกฎหมายเพื่อสิทธิและเสรีภาพ สมาคมนักกฎหมายคุ้มครองสิทธิและสิ่งแวดล้อม โครงการอินเตอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (iLaw) และมูลนิธิศูนย์ทนายความมุสลิม ร่วมกันแถลงเปิดตัวกลุ่มว่า ภาคีนักกฎหมายฯ รวมตัวกันเพื่อเรียกร้องให้รัฐและเจ้าหน้าที่รัฐใช้อำนาจปกป้องคุ้มครองสิทธิเสรีภาพประชาชน และเตรียมดำเนินการกับเจ้าหน้าที่รัฐที่ละเมิดต่อประชาชน ไม่ว่าจะเป็นระดับผู้ปฏิบัติ จนถึงผู้สั่งการ วันที่ 9 ธ.ค.จะเริ่มร้องทุกข์กล่าวโทษพนักงานสอบสวน สน.ชนะสงคราม ข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และเตรียมยื่นฟ้องศาลปกครอง ใน 2 กรณี คือ การสลายการชุมนุมที่หน้ารัฐสภา เมื่อวันที่ 17 พ.ย. และการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง เพื่อนำไปสู่ความรับผิดชอบต่อความเสียหายของผู้ที่ถูกดำเนินคดี และได้รับบาดเจ็บต่อไป

ขู่ฟ้องดะตั้งแต่ตัวเล็กยันตัวใหญ่

น.ส.เยาวลักษ์ อนุพันธ์ ตัวแทนศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน กล่าวว่า รวบรวมสถิติการถูกดำเนินคดีตั้งแต่วันที่ 18 ก.ค. จนถึงวันที่ 7 ธ.ค. พบว่ามีทั้งสิ้น 119 คดี ผู้ต้องหา 220 คน จำนวนนี้มีการดำเนินคดีกับเด็กอายุไม่เกิน 18 ปี 7 คดี จำนวน 5 ราย คือกลุ่มนักเรียนเลว ผู้ต้องหาอายุต่ำสุดคือ 16 ปี นอกจากนี้ยังมีเยาวชนอายุ 17 ปี ถูกข้อหามาตรา 116 ด้วย มีข้อสังเกตว่าเป็นกรณีที่ผิดปกติเพราะเป็นการดำเนินคดีย้อนหลัง หลังจากนายกฯแถลงการณ์ว่าใช้กฎหมายทุกมาตรากับผู้ชุมนุม ส่วนการดำเนินคดีตามมาตรา 112 มี 11 คดี 24 คน ใน 4 เดือนที่ผ่านมาพบว่ามีการออกหมายจับ 83 คดี บางคดีมีโทษไม่ร้ายแรงมากก็มีการขอหมายจับ ในส่วนของแกนนำที่ถูกดำเนินคดีมากที่สุด คือนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ รวมทั้งสิ้น 21 คดี เป็นมาตรา 112 รวม 7 คดี แต่ถ้านับรวมคดีทั้งหมดของเพนกวินมีจำนวนทั้งสิ้นถึง 29 คดี ถือเป็นบุคคลที่ถูกดำเนินคดีสูงสุด ขณะที่นายอานนท์ นำภา มี 14 คดี เป็นมาตรา 112 จำนวน 3 คดี น.ส.ปนัสยา หรือรุ้ง 10 คดี เป็นมาตรา 112 จำนวน 4 คดี นายภานุพงศ์ หรือไมค์ 12 คดี เป็นมาตรา 112 จำนวน 2 คดี นายชินวัตร จันทร์กระจ่าง 16 คดี ภาพตัวเลขสะท้อนให้เห็นว่า รัฐใช้กระบวนการยุติธรรมเป็นเครื่องมือปิดปากประชาชนที่เห็นต่าง การที่ใช้กฎหมายตามอำเภอใจเช่นนี้ จึงต้องมีการรวมตัวของนักกฎหมายในรูปแบบ ภาคี เพื่อเข้ามาตรวจสอบ

พี่ “วันเฉลิม” ให้การศาลกัมพูชา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า The Reporters สื่อออนไลน์รายงานว่า วันเดียวกันที่ห้องประชุม ชั้น 5 ห้องประชุมอธิบดีศาลชั้นต้นกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา น.ส.สิตานัน สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ พี่สาวนายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ ในฐานะผู้เสียหายและพยาน พร้อมด้วยทนายความชาวกัมพูชาและล่ามแปลภาษาไทย-เขมร ขึ้นให้การต่อตุลาการผู้ไต่สวนคดีด้วยวาจา ในคดีที่คนร้ายกระทำผิดต่อนายวันเฉลิม โดยควบคุมตัวหรือการกักขังหน่วงเหนี่ยว และการครอบครองอาวุธโดยผิดกฎหมาย ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง พร้อมส่ง พยานหลักฐานและเอกสารจำนวน 177 หน้า รวมถึงภาพถ่าย ภาพเคลื่อนไหว หลักฐานเกี่ยวกับโทรศัพท์มือถือ หลักฐานการเงิน หนังสือเดินทางที่สามารถยืนยันว่านายวันเฉลิมพักอาศัยในกรุงพนมเปญ หลังลี้ภัยจากไทยหลังการรัฐประหารของ คสช. สำหรับคดีนี้เป็นคดีอาญาหมายเลข 4832 ที่นายวันเฉลิม ถูกคนร้ายใช้อาวุธบังคับขึ้นรถยนต์และหายไป เหตุเกิด บริเวณหน้าแม่โขงการ์เดนส์ คอนโดมิเนียม กลางกรุงพนมเปญ เวลาประมาณ 16.45-16.54 น. เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.2563

“บิ๊กตู่” ชื่นชมสาธิตหุ่นยนต์ซูโม่

เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นำคณะเข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม นำเสนอผลงานด้านการพัฒนากำลังคนดิจิทัล “Edtech for all Gens” พร้อมนำชมการพัฒนาทักษะดิจิทัลสตาร์ตอัพด้านเทคโนโลยีการศึกษา (Edtech) เพื่อเสริมสร้างทักษะดิจิทัลด้วยการ Reskill, Upskill และ New Skill ได้แก่ เครื่องมือช่วยประเมินผลการเรียนรู้ของนักเรียนแก่คุณครูในห้องเรียนผ่านเกมตอบคําถาม การแสดง Virtual Reality (VR) ช่วยพนักงานฝึกปฏิบัติผ่านโลกเสมือนจริงในสถานการณ์จําลอง และการแข่งขันหุ่นยนต์ซูโม่ ด้วยการเขียนโปรแกรมควบคุมหุ่นยนต์ จากโรงเรียนชลประทานวิทยา ที่ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับสองในการแข่งขันหุ่นยนต์ยุวชนชิงชนะเลิศประเทศไทยประจําปี 2562 นายกฯกล่าวชื่นชมพร้อมสนับสนุนคนรุ่นใหม่เปิดพื้นที่ให้มีการพัฒนาต่อเนื่องสามารถแข่งขันกับสตาร์ตอัพจากต่างประเทศได้ ต่อมานายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา นำคณะผู้บริหารเข้าพบนายกฯ เพื่อนำเสนอสรุปผลการจัดการแข่งขันวิ่งเทรล รายการ Thailand by UTMB 2020 Doi Inthanon Chiang Mai ณ ดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่ ผ่านนิทรรศการ “Ultra Trail Series”

ลั่นไม่มีทางให้เป็นสาธารณรัฐ

ต่อมา พล.อ.ประยุทธ์แถลงหลังการประชุม ครม. คลอไปกับเพลง “บ้านเกิดเมืองนอน” ของวงสุนทราภรณ์ ที่สั่งให้เจ้าหน้าที่เปิดให้สื่อมวลชนฟัง ก่อนตอบคำถามกรณีกลุ่มผู้ชุมนุมประกาศจุดยืนเรื่องสาธารณรัฐว่า มันถูกต้องหรือเปล่า ฝ่ายกฎหมายต้องไปพิจารณา รัฐบาลต้องป้องปรามหยุดยั้งไม่ให้ไปถึงจุดนั้น ต้องดูที่เจตนาของเขาและความเป็นไปได้ บ้านเมืองเรามีกฎหมายใครเข้าข่ายกระทำความผิด ยุยงปลุกปั่น พวกนี้ต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายทุกประการ เรื่องสาธารณรัฐไม่มีความเห็นเพราะประเทศไทยไม่ใช่สาธารณรัฐ มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว

ทำเขินโหร คมช.ฟันธงอยู่ยาว

พล.อ.ประยุทธ์ยังกล่าวถึง กรณีนายวารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ โหร คมช. ทำนายว่าจะอยู่ยาวไปจนถึงการเลือกตั้งสมัยหน้าว่า เป็นการคาดเดาในสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น เป็นเรื่องคำทำนายก็ว่ากันไป แต่เรื่องอื่นเป็นเรื่องที่ตนต้องดำเนินการ คงไม่ได้ทำตามคำทำนายทั้งหมด เมื่อถามว่ามีโอกาสสมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เพื่อจะได้ลงสมัครเป็นนายกฯในบัญชีรายชื่อของพรรค พปชร.หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์เดินหนีไปทันทีโดยไม่ตอบอะไร

“บิ๊กป้อม” โยนผ้าไม่ไหวจะไปต่อ

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ต้องไปถามนายวารินทร์ดู ไม่ได้เป็นโหรจึงไม่รู้ ส่วนการปรับ ครม.ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ไม่มีใครรู้ล่วงหน้า เมื่อถามว่าการที่รัฐบาลรักษาเสถียรภาพมาได้ แสดงว่า พล.อ.ประยุทธ์จะอยู่ยาวใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรตอบว่า เรารักษาเสถียรภาพอยู่แล้ว ทั้งนี้ ยังไม่ได้คุยกับนายกฯเรื่องการสมัครเข้าเป็นสมาชิก พปชร. ต้องแล้วแต่ตัวนายกฯ ต้องไปถามนายกฯ เมื่อถามว่าถ้าอยู่ 2 สมัยยังสู้อยู่ หรือไม่ พล.อ.ประวิตรย้อนถามว่า ใคร ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่านายวารินทร์บอกว่ารัฐบาลอยู่ยาวจนถึงการเลือกตั้งครั้งหน้า พล.อ.ประวิตรตอบว่า “ต้องไปถามนายวารินทร์ดู ในส่วนของผมนั้นไม่ไหว”

กมธ.ชุดลากตั้งดิ้นโต้ ส.ว.สหรัฐฯ

ที่รัฐสภา นางพิกุลแก้ว ไกรฤกษ์ ส.ว. ประธานกรรมาธิการต่างประเทศ วุฒิสภา แถลงตอบโต้กรณีนางแทมมี่ ดักเวิร์ธ ส.ว.สหรัฐอเมริกา เชื้อสายไทย ร่วมกับ ส.ว.สหรัฐฯ เสนอให้วุฒิสภาสหรัฐฯมีมติสนับสนุนการใช้สิทธิชุมนุมทางการเมืองในไทย ว่า กมธ.ต่างประเทศ กมธ.พัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน และ กมธ.สิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค ประชุมร่วมกันและมีความเห็นว่า ประเทศไทยยึดมั่นระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข คำนึงสิทธิเสรีภาพประชาชน หลังการเลือกตั้งฝ่ายตรงข้ามพยายามกล่าวหารัฐธรรมนูญไม่เป็นประชาธิปไตย ยุยงปลุกปั่นให้คนชุมนุมประท้วง แฝงไปด้วยเจตนาร้าย ก้าวล่วงสถาบันหลัก กมธ.ทั้ง 3 คณะ ห่วงกังวลต่อกรณีนี้อย่างยิ่ง เพราะอาจถูกนำไปตีความคลาดเคลื่อน นำไปสู่ความแตกแยกในสังคมไทยมากขึ้น ส่งผลต่อความสัมพันธ์ของ 2 ชาติที่มีมาเกือบ 200 ปี

ซัดอย่าก้าวก่ายกิจการชาติอื่น

นายเสรี สุวรรณภานนท์ ส.ว. ประธาน กมธ. พัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา กล่าวว่า มุมมองของ ส.ว.สหรัฐฯเป็นการเสนอความคิดเห็นด้านเดียว ต้องเข้าใจและตระหนักถึงการบริหารประเทศของไทย แต่ละประเทศย่อมมีปัญหาแตกต่างกัน สหรัฐฯก็มีความคิดเห็นที่แตกต่างไม่ต่างกัน แต่ละประเทศต้องไม่ก้าวก่ายการบริหารภายในประเทศกันและกัน

นายสมชาย แสวงการ ส.ว. ประธาน กมธ.สิทธิมนุษยชนฯ กล่าวว่า ส.ว.สหรัฐฯอาจได้รับข้อมูลด้านเดียว ไม่ครอบคลุมสถานการณ์ในไทย เจ้าหน้าที่ยังยึดตามหลักสากลโดยไม่มีความรุนแรงเกินกว่ากฎหมายควบคุมไว้ หวังว่า ส.ว.สหรัฐฯจะชะลอการเสนอญัตติเอาไว้ พร้อมสอบถามข้อมูลจากวุฒิสภาไทยได้ตลอด

เอาคืนบี้ ตร.สอบน้อง “ธนาธร”

นายสมชายยังกล่าวถึงกรณีอัยการสูงสุดไม่สั่งฟ้องนายสกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ น้องชายนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า กรณีการจ่ายสินบนมูลค่า 20 ล้านบาท ให้คนในสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ ว่า ศาลมีคำพิพากษาลงโทษจำเลย 2 คน คนละ 6 ปี แต่ยังไม่ดำเนินการทางกฎหมายกับนายสกุลธร ในฐานะที่ถูกกล่าวหามีส่วนเกี่ยวข้องกับการจ่ายเงินสินบน เห็นว่าตำรวจควรรื้อคดีขึ้นมาใหม่ เพราะมีหลักฐานชัดเจนเป็นเช็ค 3 งวด ที่มีการจ่ายสินบน 20 ล้านบาท ขอให้ตำรวจดำเนินการให้ชัดเจน

ป.แจงสั่งฟ้องตัวกลางเรียกสินบน

ที่กองบังคับการปราบปราม พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป. กล่าวถึงกรณีมีข่าวว่ากองปราบปราม เตรียมดำเนินคดีกับนายสกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ ว่า กรณีนี้กองปราบฯแยกดำเนินคดีเป็น 2 คดีมาตั้งแต่ต้น แยกระหว่างผู้ให้สินบนกับตัวกลางเรียกรับสินบน เพื่อให้คดีมีน้ำหนักพยานหลักฐานที่ชัดเจน โดยกองปราบฯส่งสำนวนมีความเห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้องหาสองคนที่เป็นตัวกลางเรียกรับสินบนไปก่อน เพื่อจะได้นำข้อเท็จจริงที่รับฟังเป็นที่ยุติในชั้นศาลมาเป็นพยานหลักฐานอีกส่วนหนึ่ง เมื่อถามว่าจะมีการเรียกตัวนายสกุลธรมาแจ้งข้อกล่าวหาหรือไม่พล.ต.ต.สุวัฒน์ตอบว่า ยังไม่มีการเรียกผู้ใดมาสอบสวนหรือแจ้งข้อหาแต่อย่างไร

“สิระ” ตั้งธง “กวิ้น-ไผ่” ตบทรัพย์

ที่รัฐสภา นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานกรรมาธิการ (มธ.) กฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาฯ กล่าวว่า การประชุม กมธ.9 ธ.ค.นี้จะพิจารณากรณีการชุมนุมทางการเมือง โดยเชิญตัวแทนกลุ่มผู้ชุมนุมมาชี้แจงเกี่ยวกับข้อเรียกร้อง หรือถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนหรือไม่ และเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายเกินขอบเขตหรือไม่ ซึ่งนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน และนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน ตอบรับแล้ว รวมถึงประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ที่ยังไม่แสดงท่าทีเรื่องละเมิดสิทธิมนุษยชน เช่น เอาเด็กมาชุมนุมเป็นโล่มนุษย์ และเชิญ ผบ.ตร. ผบช.น.มาชี้แจง หากไม่มาจะเชิญนายกฯ มาชี้แจง เมื่อถามว่า จะสาวไปถึงผู้บงการกลุ่มผู้ชุมนุมหรือไม่ นายสิระตอบว่า หากได้คุยกันจะรู้ งบฯ จ้างการ์ดครั้งหนึ่งไม่ต่ำกว่าล้านบาท จะอ้างเด็กช่วยกันคนละ 10-20 บาท คงทำไม่ได้ ทั้งการชุมนุมในสถานที่เศรษฐกิจมีการตบทรัพย์หรือไม่

“วัฒนา” เผย “เจ๊” ยื่นตั้งพรรคแล้ว

นายวัฒนา เมืองสุข อดีตแกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวในรายการเจาะลึกทั่วไทยอินไซด์ไทยแลนด์ถึงทิศทางการเมืองหลังลาออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทยพร้อมกับคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ว่า ลาออกเป็นหมู่คณะจะบอกไปร่วมหุ้นทำร้านก๋วยเตี๋ยวคงไม่มีใครเชื่อ แต่ไม่ได้ออกมาเพื่อไปรวมกับใคร ไม่ได้ออกแตกแบงก์ย่อย ไม่ได้เป็นสาขาใคร เพราะแบงก์ย่อยจะถูกยกเลิกเมื่อมี ส.ส.ร.เขียนรัฐธรรมนูญใหม่ เมื่อถามว่าพรรคใหม่ คุณหญิงสุดารัตน์ให้คนไปแจ้ง ตั้งแล้วใช่หรือไม่ นายวัฒนาตอบว่าได้ยื่นไปยัง กกต.แล้ว คิดว่านับจากนี้ประมาณปีครึ่งน่าจะมีการเลือกตั้งใหม่ เมื่อถามว่าพรรคใหม่ยังคงมีเงานายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ อยู่หรือไม่ นายวัฒนาตอบว่า เราเป็นตัวของเราเอง ออกมาขนาดนี้จะไปอยู่ใต้ร่มเงาใคร ต้นไม้ใหญ่อยู่ใต้ร่มไม้ใหญ่ไม่ได้หรอก

“เก่ง” เฉ่ง “คนละครึ่ง” โกงมหาศาล

นายการุณ โหสกุล ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีรัฐบาลจัดทำโครงการคนละครึ่ง แจกเงินประชาชนซื้อสินค้า 3,000 บาท และการอนุมัติแจกเงินผู้ถือบัตรคนจน 14 ล้านคน เดือนละ 500 บาท กระตุ้นการใช้จ่ายว่า ในระดับปฏิบัติได้รับการร้องเรียนจากผู้ใช้บริการว่าโครงการมีความหละหลวม ไร้การตรวจสอบ รูปแบบการทุจริตที่นิยมสูงสุดคือ การฮั้วกันของร้านค้ากับผู้ใช้สิทธิ์ทุจริตเงินในส่วนที่รัฐบาลออกให้ 150 บาท โดยให้ผู้ใช้สิทธิ์เต็มวงเงิน 300 บาท จากนั้นนำส่วนต่างที่รัฐให้ 150 บาทมาแบ่งกัน ทำให้การใช้เงินกระตุ้นเศรษฐกิจไม่มีประสิทธิภาพตามที่ต้องการ แม้โครงการดีแต่ขาดการกำกับดูแลไม่มีแผนปฏิบัติรัดกุมเปิดช่องว่างให้ทุจริตง่ายดาย น่าเสียดายโครงการดีๆแบบนี้อาจถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจเพราะปล่อยเปิดช่องให้ทุจริตมหาศาลทั่วบ้านทั่วเมือง

ครม.ไฟเขียวแผนปฏิรูปโฉมใหม่

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบร่างแผนการปฏิรูปประเทศ (ฉบับปรับปรุง) 13 ด้าน พร้อมแนวทางการขับเคลื่อนโดยเน้นดำเนินการเฉพาะกิจกรรมปฏิรูปสำหรับแก้ไขปัญหาเร่งด่วน และสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นรูปธรรมได้ 62 กิจกรรมที่สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาประเทศที่กำหนดไว้ในยุทธศาสตร์ชาติและแผนแม่บทเพื่อวางรากฐานไปสู่ประเทศที่มีความสามัคคีปรองดอง พัฒนาอย่างยั่งยืนตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ประชาชนมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศ และการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในปี 2565 มีกฎหมายที่ต้องจัดทำหรือปรับปรุงรวมทั้งสิ้น 45 ฉบับ

เอ็นจีโอ 121 องค์กรหนุนตั้ง ส.ส.ร.

ช่วงเย็น ที่โรงแรมอลิซาเบธ ถนนประดิพัทธ์ 121 องค์กรเครือข่ายภาคประชาชน ภาคประชาสังคม และสิทธิมนุษยชน ร่วมกันแถลงเจตนารมณ์ขับเคลื่อนการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ นายฉัตรชัย พุ่มพวง จากสหภาพแรงงานสร้างสรรค์ อ่านแถลงการณ์ของกลุ่ม เรียกร้องให้ ส.ส.ร.ต้องมาจากการเลือกตั้งทั้งหมด เพื่อร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ บนกระบวนการที่มีเสรีภาพและเปิดกว้าง หลังจากนี้ทางกลุ่มจะร่วมกันดำเนินการ 3 ประการคือ 1.จัดให้มีเวทีระดมความคิดของประชาชนทุกภูมิภาค 2.ติดตามกระบวนการดำเนินการของฝ่ายการเมือง และ ส.ส.ร. และ 3.ร่วมจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนแบบคู่ขนาน ทั้งจะเชิญชวนให้องค์กรภาคีเครือข่ายจากทั่วประเทศออกมาสนับสนุนกระบวนการร่างรัฐธรรมนูญครั้งนี้ด้วย