ใครจะนึกว่า รัฐธรรมนูญปี 60 จะทำให้วุ่นวายได้เพียงนี้ มาตรา 184 (3) ข้อห้ามการรับผลประโยชน์ใดๆจากหน่วยงานรัฐ หน่วยราชการที่ครอบคลุมถึงผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองด้วย จะทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องลุ้นว่าจะออกหัวออกก้อย ถึงจะมีการฟันธงกันไว้ล่วงหน้าว่า คดีบ้านพักทหาร ของ พล.อ.ประยุทธ์ จะรอด แต่กระบวนการยุติธรรม โดยเฉพาะ ศาลรัฐธรรมนูญ จะประสบกับวิกฤติศรัทธาอีกครั้ง หลังจากที่เกิดวิกฤติในสมัยรัฐบาล สมัคร สุนทรเวช และรัฐบาล สมชาย วงศ์สวัสดิ์ มาแล้ว

การเมืองในช่วงหน้าสิ่วหน้าขวานที่จะกลายเป็นวิกฤติการเมืองครั้งประวัติศาสตร์ ฉายภาพไปที่ข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุม กลุ่มคณะราษฎร ข้อแรกคือ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องลาออกเพื่อที่จะเดินไปสู่ข้อเรียกร้องที่ 2 และ 3 โดยข้อเท็จจริงแล้ว จู่ๆ พล.อ.ประยุทธ์ จะลาออกเป็นไปไม่ได้เลย

และการชุมนุมทางการเมืองทุกครั้งก็เรียกร้องให้รัฐบาลลาออกเป็นเงื่อนไขแรก และก็ไม่มีนายกฯหรือรัฐบาลชุดไหนยอมลาออกจนกว่าจะเกิดวิกฤติการเมือง เสียเลือดเสียเนื้อ ขึ้นมา อย่างดีก็ประกาศ ยุบสภา เลือกตั้งกันใหม่ แต่ส่วนใหญ่จะจบลงด้วยการปฏิวัติรัฐประหาร

ทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลเห็นตรงกันว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้มีปัญหาแน่นอน เพราะเจตนารมณ์ของการร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ตั้งแต่เรื่องของวิธีการรับสมัครเลือกตั้ง บัตรเลือกตั้ง วิธีการนับคะแนนเลือกตั้ง วิธีการโหวตเลือกนายกฯในสภา ที่มาของ ส.ส.และ ส.ว. ด้วยจุดมุ่งหมายเดียวคือ การเอาชนะพรรคการเมืองเสียงข้างมากและต้องการให้บุคคลใดบุคคลหนึ่งขึ้นมาเป็นนายกฯ

โดยไม่ได้คิดให้รอบคอบว่า ผลกระทบดังกล่าวจะเกิดความเสียหายกับ ระบอบประชาธิปไตย อย่างไรบ้าง ไม่ว่าจะเป็นระบอบพรรคการเมือง ระบอบการปกครอง และลามไปถึงสถาบันของประเทศ

...

ยังคิดไม่ออกว่า ปลายทางของวิกฤติการเมืองครั้งนี้จะจบลงอย่างไร แกนนำการชุมนุมถูกดำเนินคดี ตามกฎหมายสูงสุด ให้การชุมนุมค่อยๆฝ่อไปเอง รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ก็ยังบริหารไปจนบรรลุเป้าหมาย ตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 5 ปีแรก

หรือจะต้องฉีกรัฐธรรมนูญเพื่อเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่

ที่น่าเสียดายคือส่วนดีของรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เป็นแนวทางที่จะนำไปสู่ การปฏิรูปประเทศ และประชาธิปไตยในอีกขั้น เพียงแต่ว่า เจตนาสุดท้าย ของผู้ร่างรัฐธรรมนูญ เน้นเรื่องของการ ต่อท่ออำนาจ มากไปหน่อย

ดังนั้น เมื่อเริ่มต้นเป็นพิษ ผลออกมาก็ย่อมเป็นพิษอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ประชาธิปไตยไม่ได้เปิดช่องให้ใครก็ตามที่อยากเข้าสู่อำนาจโดยใช้วิธีทางลัด ต้องผ่านช่องทางที่ประชาชนส่วนใหญ่ เห็นชอบเท่านั้น

ถ้าผิดช่องผิดวิธีก็ไม่ต่างจากการกลืนยาพิษ.

หมัดเหล็ก
mudlek@thairath.co.th