ท้ายบทความเรื่อง โอกาสของประเทศไทย ที่จะก้าวข้าม ความแตกแยกครั้งใหญ่ของมนุษยชาติ นิตยสารหมอชาวบ้าน ฉบับเดือนพฤศจิกายน อาจารย์หมอประเวศ วะสี เขียนว่า ธรรมชาติมนุษย์ต้องการความสุข

และมักได้ความทุกข์ เพราะไม่เข้าใจ ถ้าฝึกการเข้าถึงแห่งธรรม “ไม่มีตัวตน” บ่อยๆ

ความสุขก็จะเกิดบ่อยๆจนเป็นวิสัย จนรู้สึกว่าเราโชคดีจริงๆ ที่มีความสุขจนเป็นนิสัย

พร้อมกันนั้น ความแตกแยกก็จะลดลงๆ จนเหลือน้อยที่สุด เพราะธรรมแห่งความไม่มีตัวตน เป็นไปกับการไมคิดแบ่งแยกข้างแยกขั้ว

ผมพอมีพื้นฐานอยู่บ้าง อ่านคำสอนของอาจารย์หมอประเวศแค่นี้ที่เคยงงๆสงสัย ก็พอเข้าใจ

แต่เป็นห่วงคนอีกมากมาย ที่หลงโลก หลงอัตตา จึงพยายามค้นคำสอนที่ง่ายกว่า เข้าใจได้เร็วกว่า

เปิดหนังสือ ชวนม่วนชื่น 2 ธรรมะบันเทิงหลายเรื่องเล่าของพระอาจารย์พรหม ถึงเรื่องที่ 10 ชื่อเรื่อง การกดปุ่ม ลบทิ้ง ก็แน่ใจว่า ใช่

พระอาจารย์พรหม เล่าถึงตอนที่อยู่วัดหนองป่าพง ในประเทศไทย ระหว่างเดินกลับจากการบิณฑบาตตอนเช้า หลวงพ่อชาหยิบ กิ่งไม้กิ่งหนึ่งจากข้างทางขึ้นมาและถามว่า “กิ่งไม้นี้หนักแค่ไหน”

ยังไม่ทันมีใครตอบ หลวงพ่อชาก็โยนกิ่งไม้ลงไปในพุ่มไม้และบอกว่า “กิ่งไม้นี้หนักเวลาที่เธอถือมันเท่านั้น”

คำสอนของหลวงพ่อชา พระอาจารย์พรหม นำมาสอนศิษย์ต่อ ในวัดพุทธในเมืองเพิร์ธ ออสเตรเลีย ใครที่มีความทรงจำเลวร้ายท่านก็บอกเขียนลงในกระดาษหนึ่งแผ่น นึกได้แค่ไหน ก็เขียนลงไปแค่นั้น

เขียนจบแล้วก็หากิ่งไม้กิ่งหนึ่ง เอากระดาษแผ่นนั้นแปะทับ เอาหนังยางหรือเทปกาวรัดทับไว้ให้แน่น

จากนั้น ก็ให้เดินไปหาสถานที่วิเวกในป่า ถือกิ่งไม้ไว้ในมือแล้วพินิจพิจารณาถึงน้ำหนัก และความทรงจำอันเลวร้ายเหล่านั้น

...

พร้อมแล้ว ก็รวบกำลังทั้งหมดเท่าที่มี โยนกิ่งไม้กิ่งนั้นไปให้ไกลที่สุด เท่าที่จะไกลได้

กระบวนการขั้นตอนเหล่านี้ พระอาจารย์พรหมบอกว่า เป็นการเสริมสร้างความตั้งใจ และพลังใจที่ได้ผล “โยมได้กดปุ่มลบทิ้งไปแล้ว”

คำสอนให้ “ปล่อยวาง” แบบพระอาจารย์พรหม มีประสิทธิผลสูงมาก มีลูกศิษย์ทำตามมาก จนเกิดปัญหาตามมา มีผู้ร้องทุกข์ว่าป่ารกไปหมดด้วยกิ่งไม้และกระดาษ อาตมาเจอข้อหา ส่งเสริมให้เกิดการทำลายสิ่งแวดล้อม

“อาตมา ต้องปรับกลยุทธ์เสียใหม่” พระอาจารย์พรหมว่า “แต่ยังคงหลักการเก่า”

การเขียนถึงความทรงจำเลวร้าย ลงในกระดาษยังเป็นเรื่องจำเป็น แต่คราวนี้เพียงแต่เปลี่ยนไปใช้กระดาษชนิดพิเศษ ซึ่งที่จริงก็เป็นวัสดุที่เหมาะสมกับความทรงจำด้านลบ

นั่นคือ เขียนมันลงบนม้วนกระดาษชำระ เมื่อเขียนเสร็จแล้ว ก็เอาเข้าห้องน้ำ

ทิ้งกระดาษที่จริงก็ยังสะอาดแต่มีเนื้อหาดังกลิ่นเหม็นๆ น่ารังเกียจ ลงไปในโถชักโครก ซึ่งเป็นที่ที่มันควรจะอยู่

แล้วก็กดชักโครก

คำสอนให้ปล่อยวาง ฉบับพระอาจารย์พรหม ทำได้ง่ายๆ

ถ้าตั้งใจทำให้ครบจบกระบวนการ ผมก็เชื่อว่า ความทรงจำด้านลบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเกลียดใครมาก รักใครเกิน ไล่ใครไม่ยอมไป สรุปว่าเรื่องไม่เป็นดั่งใจ ก็จะหายไปได้ ไม่เร็วก็ช้า

ขอย้ำใช้กระบวนการปรับปรุงแก้ไข เขียนลงกระดาษชำระนะครับ อย่าเขียนในแผ่นกระดาษแปะกิ่งไม้ เพราะอาจเจอข้อหาทำลายสภาพแวดล้อม ทำลายป่าเอาได้ ข้อหานี้หนักไม่ใช่เล่นๆ.

กิเลน ประลองเชิง