นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ นำคณะ ถกรัสเซีย 8 ประเด็น เพิ่มเป้ามูลค่าการค้า ใน 3 ปี ตั้งแต่ปี 2564-2566 ให้ได้ประมาณ ปีละ 1 แสนล้านบาท


วันที่ 22 ต.ค. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายบุญยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ และผู้เกี่ยวข้อง ประชุมคณะอนุกรรมาธิการด้านการค้าและความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ไทย-รัสเซีย ครั้งที่ 4 ผ่านทางระบบประชุมทางไกล (Video Conference) ณ ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการโสมสวลี ชั้น 11 สํานักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์

จากนั้นหลังการประชุม นายจุรินทร์ กล่าวว่า การประชุมวันนี้ถือว่ารัสเซียเป็นเจ้าภาพโดยมีตนป็นหัวหน้าคณะฝ่ายไทย และรัฐมนตรีช่วยกระทรวงพัฒนาเศรษฐกิจของรัสเซียเป็นประธานฝ่ายรัสเซียโดยมีประเด็นสำคัญ 8 ประเด็น ประกอบด้วย ประเด็นที่ 1.นั้นตนเสนอให้มีการกำหนดเป้าหมายตัวเลขมูลค่าการค้าระหว่างไทยกับรัสเซีย ใน 3 ปี คือตั้งแต่ปี 2564-2566 ให้ช่วยกันผลักดันให้มีมูลค่าการค้ารวม 10,000 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2566 เฉลี่ยปีละ 3,000 กว่าล้านเหรียญ หรือประมาณ ปีละ 100,000 ล้านบาท

...

ประเด็นที่ 2 รัสเซียจะขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของทั้งสองประเทศให้ความร่วมมือสนับสนุนในการร่วมกันแก้ไขปัญหาโควิด รวมทั้งเรื่องของการพัฒนาวัคซีน โดยทางรัสเซียมีความคืบหน้าอย่างมีนัยสำคัญ ประเด็นที่ 3 ตนขอให้ทางรัสเซียเพิ่มการนำเข้าสินค้าเกษตรของไทยเพราะสินค้าเกษตรของไทยมีคุณภาพและมาตรฐานเป็นที่ยอมรับในระดับโลก และเป็นที่ยอมรับว่ามีความปลอดภัย โดยเฉพาะจากโควิด ทั้งในหมวดของพืชเกษตร ปศุสัตว์ ประมง โดยเฉพาะในหมวดปศุสัตว์นั้นประกอบด้วยสินค้าไก่ และกุ้ง ประเด็นที่ 4 ขอให้รัสเซียนำเข้ายางพาราประเทศไทยมากขึ้น ซึ่งยางพาราไทยถือว่ามีคุณภาพสูงทั้งยางแผ่น ยางแท่งหรือน้ำยางข้น เพื่อเข้าไปช่วยเป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์และยุทโธปกรณ์ ที่เป็นสินค้าสำคัญของรัสเซียและขอให้ รอสเทค (Rostec) ของรัสเซียซึ่งเป็นองค์กรที่เกี่ยวข้องกับยางได้เร่งจัดทำ MOU กับการยางแห่งประเทศไทยโดยเร็วโดยทางไทยได้ยกร่าง MOU เสร็จแล้ว

ประเด็นที่ 5 ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวของทั้งสองประเทศหารือกันเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวร่วมกันต่อไปภายหลังจากสถานการณ์โควิด หรือแม้ในช่วงโควิดถ้ามีการผ่อนปรน ซึ่งแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวจากรัสเซียมาไทยล่าสุดปีที่แล้วประมาณ 1,500,000 คน ประเด็นที่ 6 ทั้งสองประเทศจะร่วมมือกันส่งเสริมการค้าในรูปแบบอีคอมเมิร์ซ หรือในรูปแบบออนไลน์มากขึ้น ทั้งการจับคู่เจรจาทางธุรกิจหรือเรื่องของการจัดงานแสดงสินค้าในรูปของ virtual exhibition ก็ตาม ประเด็นที่ 7 สนับสนุนให้มีการส่งเสริมความร่วมมือในระดับพหุภาคี ซึ่งประกอบด้วยทั้งอาเซียน รัสเซีย และเอฟทีเอ ระหว่างไทยกับกลุ่มประเทศยูเรเซีย ประเด็นที่ 8 ไทยและรัสเซียมีความเห็นร่วมกันในการที่จะให้มีการลงนามในบันทึกความเข้าใจ MOU เพื่อขยายความเข้าใจความร่วมมือทางการค้าและเศรษฐกิจระหว่างกระทรวงพาณิชย์ของไทยกับกระทรวงพัฒนาเศรษฐกิจของสหพันธรัฐรัสเซีย ฉบับใหม่เพื่อยกระดับความร่วมมือของทั้งสองฝ่าย ให้เป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น และหวังว่าจะช่วยเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกันให้เป็น 300,000 ล้านบาท ในระยะเวลา 3 ปี

โดยการประชุมวันนี้ มีผู้เข้าร่วมการประชุมทั้ง นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายไกร มหาสันทนะ รองอธิบดีกรมยุโรป กระทรวงการต่างประเทศ และตัวแทนจากกระทรวงที่เกี่ยวข้อง