“พนิต” โพสต์สถานะ-สถานการณ์เปลี่ยนจุดยืนไม่เปลี่ยน บ่ยั่น ยืนยันเดินหน้าขอแก้ ม.272 ไม่ให้ส.ว.เลือกนายกฯ ปูด มีล็อบบี้ให้ถอนชื่อ ลั่น ถึงเวลาประชาธิปไตยปกติ

นายพนิต วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อ “สถานะเปลี่ยน สถานการณ์เปลี่ยน แต่จุดยืนไม่เคยเปลี่ยน ขอแค่ประชาธิปไตยปกติ” ใจความว่า ย้อนไปเมื่อวันลงประชามติรับร่างรัฐธรรมนูญปี 2560 (7 สิงหาคม 2559) ผมในฐานะประชาชนคิดไม่ตกกับการรับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เพราะบางมาตราเป็นสิ่งที่ถูกต้องตามหลักของ ”นิติรัฐ - นิติธรรม” แต่ก็มีในบางส่วนบางตอนไม่เข้าหลักการนี้ คำถามของผมคือ รัฐธรรมนูญดีพอไหม + ส.ว.ควรมีอํานาจในการเลือกนายกไหม ? ผมจึง VOTE NO ทั้งสองคำถามในการประชามติครั้งนี้ วันนี้ 4 ปี ผ่านไป ทำให้ผมต้องหวนกลับมาพิจารณาเรื่องนี้อีกครั้ง ในสถานะของ ส.ส.ที่มาจากการเลือกตั้งภายใต้รัฐธรรมนูญ 60 ผมก็ยังยืนหยัดจุดยืนเดิมดังที่ได้แถลงข่าวร่วมกับเพื่อนสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์บางส่วนว่า “ร่างรัฐธรรมนูญเพียงฉบับเดียวไม่พอต่อการแก้ไขสถานการณ์การเมืองในปัจจุบัน แต่ต้องแก้ไขมาตรา 272 เพิ่มเติมเพื่อลดอำนาจของ ส.ว. ในการโหวตนายกรัฐมนตรี และยับยั้งการสืบทอดอำนาจ” คำตอบของผม รัฐธรรมนูญดีไม่พอ + ส.ว.ไม่ควรมีอํานาจในการเลือกนายกอย่างแน่นอน

“สถานการณ์ในวันนั้นยุค คสช. ประชาธิปัตย์ถูกระงับบทบาททางการเมือง ทำให้พรรคการเมืองไม่สามารถมีส่วนร่วมในการออกแบบและแสดงความเห็นต่อรัฐธรรมนูญฉบับนี้ได้ แต่ในวันนี้เราเป็นหนึ่งในพรรคร่วมรัฐบาลที่มีหน้าที่เป็นกลไกสำคัญในการหาทางออกให้กับประเทศ ซึ่งในวันนี้ปัญหาของประเทศไทยมิใช่มีเพียงแค่ปัญหาของรัฐธรรมนูญ แต่ยังมีอีกสิ่งที่สำคัญคือปัญหาปากท้องของประชาชนที่รัฐบาลต้องรีบแก้ไข ผมคิดว่าเราควรถอยกันคนละก้าวเพื่อให้ประเทศเราเดินหน้าไปได้อย่างมั่นคงต่อไป สถานะเปลี่ยน วันนั้นในฐานะประชาชน 1 ใน 70 ล้าน ส่วนวันนี้ในฐานะส.ส. สถานการณ์เปลี่ยน-วันนั้นที่ประชาธิปัตย์ถูกระงับบทบาททางการเมืองยุคคสช. ส่วนวันนี้เป็นพรรคร่วมรัฐบาล คําตอบวันประชามติเป็นยังไง วันนี้ก็เหมือนเดิม บางคนเรียกกบฏ บางคนเรียกจุดยืน ผมแค่อยากได้ประชาธิปไตยปกติ” นายพนิต ระบุ

...

นายพนิต ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า ตนยังยืนยันที่จะลงชื่อในญัตติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 272 ซึ่งส่วนตัวไม่มีใครในพรรคมากดดัน หรือโทรมาหาแต่ทราบว่ามีเพื่อนส.ส.หลายคนที่ร่วมลงชื่อในญัตติขอแก้ไขมาตรานี้ มีคนในพรรคทั้งเป็นผู้ใหญ่และเพื่อนส.ส.โทรมา เพื่อขอให้ถอนชื่อจากร่างญัตติดังกล่าวที่ทางกลุ่มต้องรวบรวมรายชื่อ ส.ส.ให้ได้ 1 ใน 5 หรือ 98 คน และขอยืนยันว่า ตนจะเดินหน้ารวบรวมชื่อเพื่อนส.ส.ทั้งที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาล และพรรคฝ่ายค้าน เพื่อเสนอขอให้มีการแก้ไขมาตรา 272 คือให้ ส.ว.ไม่มีสิทธิโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี เพราะไม่ใช่ประชาธิปไตยปกติ เพราะวันนี้ถึงเวลาของการเป็นประชาธิปไตยปกติได้แล้ว

เมื่อถามว่า เป็นการเล่นสองหน้าของพรรคประชาธิปัตย์ ในเรื่องนี้หรือไม่ นายพนิต กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกัน แต่เป็นจุดยืนเดิมของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้แต่ต้น และแม้พรรคจะมีมติใช้ร่างเดียวกับพรรคร่วมรัฐบาล การที่กลุ่มของพวกตนจะขอแก้ มาตรา 272 เพื่อให้เป็นประชาธิปไตยปกติ ก็เป็นเอกสิทธิ์ที่สามารถทำได้ และรัฐบาลเองก็เปิดโอกาสในการแก้ไขรัฐธรรมนูญเอง จึงถึงเวลาที่จำเป็นต้องพูดถึงประเด็นนี้ เพราะการแก้มาตรา 256 และตั้ง ส.ส.ร. ก็เป็นเรื่องในอนาคต แต่ในวันนี้ เมื่อ ส.ส.ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน เรามุ่งแก้มาตรา 272 ให้ส.ว.ทำหน้าที่กลั่นกรองกฎหมาย ไม่ใช่มีสิทธิโหวตเลือกนายกฯ เพราะหมดยุคประชาธิปไตยไม่ปกติแล้ว