“โจ้ ยุทธพงศ์” ยืนยันความบริสุทธิ์ใจ ลั่น ไม่มีเจตนาให้ร้ายกองทัพเรือ กรณีจัดซื้อเรือดำน้ำ วอนรัฐนำเงินช่วยคนเดือดร้อนก่อน ชี้ หากปีหน้าประเทศยังไม่ฟื้น พร้อมคัดค้านต่อ

จากกรณีกองทัพเรือมอบหมายให้สำนักงานพระธรรมนูญทหารเรือ เข้าแจ้งความ นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย กรณีกล่าวหาเรื่องการจัดซื้อเรือดำน้ำ จนทำให้เกิดการดูถูก ดูหมิ่น และเสียชื่อเสียง ในข้อหาหมิ่นประมาท ที่กองบังคับการปราบปราม ช่วงสายวันนี้

ล่าสุดเมื่อเวลา 15.55 น. วันที่ 4 ก.ย. 2563 นายยุทธพงศ์ ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ ว่า มั่นใจในความบริสุทธิ์ใจ ไม่ได้มีเจตนาที่จะให้ร้าย หรือทำลายชื่อเสียงของกองทัพเรือ แต่ที่ต้องออกมาคัดค้านการจัดซื้อเรือดำน้ำ 2 ลำ มูลค่า 22,500 ล้านบาท เนื่องจากการทำหน้าที่ในฐานะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 และหน้าที่ของ ส.ส.ที่ต้องออกมาปกป้องผลประโยชน์ขจากเงินภาษีของประชาชน ซึ่งขณะนี้ประชาชนกำลังอดอยากและเดือดร้อนจากปัญหาโควิด-19 อุทกภัย และปัญหาเศรษฐกิจ

“ที่ทำทั้งหมด ไม่ได้เจตนาที่จะออกมาให้ร้ายหรือทำร้ายกองทัพเรือแต่อย่างใด อยากจะให้กองทัพเรือเข้าใจว่าที่คัดค้านเรือดำน้ำเพราะต้องการเงินจำนวน 22,500 ล้าน ไปใช้เยียวยาช่วยเหลือประชาชนที่กำลังอดอยาก กำลังเดือดร้อน ไม่ได้มาขัดขวางอะไร แต่คิดว่าความเดือดร้อนของประชาชนวันนี้สำคัญกว่าการมีเรือดำน้ำ 2 ลำ”

งบประมาณ 22,500 ล้านบาท เป็นงบของกองทัพเรือ?

  • ยืนยันว่างบประมาณก้อนนี้เป็นเงินภาษีอากรของประชาชน ขณะนี้ก็ทราบดีว่าประเทศเราก็ไม่มีเงิน เราต้องกู้เงินงบประมาณมา จึงอยากจะขอให้รัฐบาลเอาเงินต้องนี้มาช่วยเหลือประชาชนที่กำลังอดอยาก หิวโหย เดือดร้อนจากปัญหาเศรษฐกิจ น้ำท่วม ภัยพิบัติต่างๆ ในขณะนี้ซึ่งมีความเร่งด่วนกว่า

...

หากปีหน้ากองทัพเรือเดินหน้าจัดซื้อเรือดำน้ำต่อ หลังยอมชะลอออกไป 1 ปี?

  • ขอเรียนว่า ไม่ได้จงเกลียดจงชังอะไรกับกองทัพเรือ แต่ต้องดูสถานการณ์เศรษฐกิจ สภาพบ้านเมืองในปีหน้า (2564) ว่าจะเป็นอย่างไร

ถ้าเศรษฐกิจประเทศไทยดีขึ้น จะยอมให้กองทัพเรือจัดซื้อเรือดำน้ำต่อหรือไม่?

  • ต้องวัดความจำเป็นว่า ถ้าปีหน้าเรามีงบประมาณที่จำกัดแล้วจะต้องกู้เงิน ขณะที่ประชาชนก็ยังอดอยากและเดือดร้อน คนตกงานจำนวนมาก รอความช่วยเหลือจากรัฐบาล ผมก็ยังต้องคัดค้านต่อไป.