นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศธ.ยัน พร้อมพูดคุยนร.นัดหน้ากระทรวง 5 ก.ย.นี้ เผย ข้อมูลรับฟังความเห็นจากโรงเรียนเกี่ยวกับเรื่องการศึกษาทั้งสิ้น รับ อยากปรับปรุงการศึกษาไทยอยู่แล้ว 

วันที่ 1 ก.ย. 2563 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการให้โรงเรียนต่างๆ เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นของนักเรียน ว่า เราได้มีการทำงานร่วมกัน รับทราบข้อมูลต่างๆ มีกลุ่มนักเรียนมาแสดงความคิดเห็นและอธิบายถึงปัญหาที่เขาประสบอยู่เรื่องการศึกษา ซึ่งหลายกลุ่มที่เราได้พูดคุยกันก็เกี่ยวกับเรื่องการศึกษาทั้งสิ้น ตนก็ได้สื่อสารถึงแนวทางของกระทรวงศึกษาธิการที่จะแก้ไขปัญหาเรื่องต่างๆ อยู่ในแผนใหญ่ของเราอยู่แล้ว นำสองส่วนมาประกบกัน

ส่วนการนัดชุมนุมของเครือข่ายนักเรียนอีกครั้ง ที่หน้ากระทรวงศึกษาธิการวันที่ 5 ก.ย. นี้ นายณัฏฐพล กล่าวว่า ตนก็ได้เชิญน้องเข้ามาในกระทรวงพูดคุยกัน น้องอยากใช้พื้นที่สาธารณะในการแสดงออก มองว่า อาจจะเป็นโอกาสที่ให้คนอื่นนอกเหนือจากนักเรียนเข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นด้วย ในรูปแบบไม่มีปัญหาอะไร หากมีความจำเป็นต้องให้ตนออกไปรับฟัง หรือมีการพูดคุยในเรื่องเกี่ยวกับการศึกษาก็ยินดี เขาสื่อสารมาแล้ว ถ้าเป็นไปได้อยากให้ตนมาพูดคุยกันเพื่อหาแนวทางที่เป็นประโยชน์ต่อการศึกษาไทย เมื่อถึงวันที่ 5 ก.ย. สถานการณ์เป็นอย่างไรต้องดูกัน ตนไม่ได้เตรียมอะไรไว้เป็นพิเศษ นอกจากอาหารและเครื่องดื่มที่พร้อมสนับสนุน น้องๆ อยู่ในพื้นที่สองชั่วโมง มีการสื่อสารกันตลอดกับทางแกนนำกลุ่มหนึ่งและกระทรวง

ผู้สื่อข่าวถามถึงความคืบหน้าการทยอยส่งความคิดเห็นเข้ามาของแต่ละโรงเรียนถึงกระทรวง นายณัฏฐพล กล่าวว่า มี หลายข้อมูลที่ได้มา หลายโอกาสเป็นเรื่องเกี่ยวกับการศึกษาอนาคตของตัวน้องๆ เอง อนาคตของครู อนาคตของการศึกษาไทย ที่เขาอาจจะมองว่าเราร่วมกันปรับปรุงได้ไหม ตนก็ต้องรวบรวมแล้วอธิบายให้ฟังว่าเรื่องไหนที่เรากำลังดำเนินการอยู่ เรื่องไหนที่ยังดำเนินการไม่ได้ แต่ส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องอยู่ในกระบวนการที่เราอยากจะปรับปรุงเรื่องการศึกษาไทยอยู่แล้ว

...

เมื่อถามถึงการเคลื่อนไหวของกลุ่มไทยภักดี ที่ปลุกระดมเรื่องชังชาติ เด็กถูกปลูกฝังให้เหมือนเรดการ์ดเขมรแดง เป็นห่วงหรือไม่ นายณัฏฐพล กล่าวว่า เท่าที่ทราบกลุ่มไทยภักดีก็เป็นการแสดงออกทางความคิด ที่อยากจะปกป้องสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ยืนยันในหลายครั้งจะไม่จัดม็อบชนม็อบ ในแนวทางการเคลื่อนไหวทั้งสอง ส่วนที่มีความเห็นแตกต่างกันก็ทำในรูปแบบแตกต่างกันไป กลุ่มไทยภักดี ก็มีขั้นตอนมีระเบียบยึดตามกฎหมาย อีกส่วนก็อาจมองว่า การเคารพกฎหมายไม่ต้องได้รับการอนุมัติจากเจ้าหน้าที่ ก็เป็นมุมมองที่แตกต่างไป คงใช้เวลาอีกสักพักในการทำความเข้าใจ เราน่าจะเดินไปในทางไหนเพื่อทำให้ประเทศสงบ เรื่องนั้นเป็นเรื่องสำคัญ ไม่ว่าจะเคลื่อนไหวแบบไหน ประโยชน์ของประเทศน่าจะเป็นเรื่องสำคัญที่สุด