เมื่อวานนี้ 7 รัฐมนตรีใหม่ เริ่มทำงานเป็นวันแรก แนะนำตัวกับข้าราชการเรียบร้อยแล้วก็ต้องเริ่มทำงานทันที ไม่มีเวลาฮันนีมูน รัฐมนตรีคนไหนขอเวลาศึกษางาน หรือรอนโยบาย ก็ต้องโทษ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ตั้งคนคิดไม่เป็น ทำงานไม่เป็นเข้าไปเป็น รัฐมนตรีทีมเศรษฐกิจ ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี เป็นหัวหน้าทีม

การปรับ ครม.ครั้งนี้ ผมเชื่อว่าคนส่วนใหญ่คงรู้สึก ค่อนข้างแปลก สะท้อนถึง ความอ่อนแอของผู้นำรัฐบาลหลายเรื่อง แต่ก็เอาเถอะ แปลกแค่ไหน ขอให้ทำงานได้ก็แล้วกัน

ตำแหน่งใหญ่แต่น่าเป็นห่วงที่สุดก็คือ นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีต่างประเทศ ที่ผ่านมาก็ไม่ค่อยมีผลงานโดดเด่นด้านการต่างประเทศ แต่นายกฯ “อัปเกรด” ขึ้นนั่งเก้าอี้ รองนายกรัฐมนตรี (ฝ่ายเศรษฐกิจต่างประเทศ-ผมเรียกเอง) อีกตำแหน่ง เพื่อทำหน้าที่แทนนายกฯในการเจรจาธุรกิจการค้ากับต่างประเทศ (แทน ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกฯ ที่สามารถทำงานแบบ “ทรีอินวัน” ทั้ง เศรษฐกิจในประเทศ เศรษฐกิจต่างประเทศ และ การเจรจาการค้าการลงทุนกับต่างประเทศ) เพราะนายกฯเองก็ไม่ค่อยถนัด แต่ คุณดอน ก็ไม่เคยแสดงฝีมือการเจรจาการค้าระหว่างประเทศที่โดดเด่นให้เป็นที่ประจักษ์

เศรษฐกิจไทยพึ่งการส่งออกสูงถึง 70% ของจีดีพี การค้าขายของไทยจึงต้องพึ่งทั้ง FTA เขตการค้าเสรี และ เขตการค้าเสรีขนาดใหญ่ RCEP CPTPP การเจรจาการค้าระดับทวิภาคีและพหุภาคีจึงเป็นเรื่องสำคัญ แต่รัฐมนตรีที่รับผิดชอบกลับไม่ค่อยมีผลงานบนเวทีระหว่างประเทศ แม้จะอัปเกรด คุณดอน ขึ้นเป็น รองนายกฯ ก็คงช่วยไม่ได้มาก

รัฐมนตรีใหม่ที่ต้องรับผิดชอบงานหนักที่สุดก็คือ คุณปรีดี ดาวฉาย รัฐมนตรีคลัง ตอนแรกมีข่าวว่านายกฯจะให้ คุณปรีดี เป็น รองนายกฯ ควบตำแหน่ง รัฐมนตรีคลัง จะได้มีอำนาจสั่งการกระทรวงเศรษฐกิจ แต่สุดท้ายนายกฯก็ต้องยอมถอย คุณปรีดี ได้นั่งเก้าอี้ รัฐมนตรีคลัง เพียงตำแหน่งเดียวและมาคนเดียว อาจทำงานลำบากกว่ารัฐมนตรีอื่น

...

เศรษฐกิจไทยวันนี้ถือว่าป่วยหนักที่สุดในอาเซียน เอดีบีประเมินว่าจีดีพีไทยปี 63 จะติดลบ 6.5% ต่ำที่สุดในอาเซียน (ไทยประเมินเอง-8%) ติดลบมากกว่า เมียนมา ลาว กัมพูชา ขณะที่คู่แข่ง เวียดนาม จีดีพีบวก 4.1% สูงสุดในอาเซียน ทำให้เงินลงทุนจากต่างประเทศไหลเข้าเวียดนามมากมาย แม้แต่นักธุรกิจไทยก็ยังต้องไปลงทุนในเวียดนาม

ที่น่าเศร้าใจก็คือ แม้ไทยจะมีข่าวดีได้รับคำชมเรื่องการควบคุมโรคโควิด–19 มากมาย แต่มีข่าวลบมากกว่า เช่น ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ไม่ซื่อสัตย์ต่อกฎหมายบ้านเมือง การทุจริตเรียกสินบนงบประมาณในสภาผู้แทนราษฎร การทุจริตคอร์รัปชันในองค์กรต่างๆ ข่าวลบล่าสุดที่กระทบต่อความเชื่อมั่นการลงทุนของไทยก็คือ เอ็กซอน โมบิล บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่สหรัฐฯ ประกาศชะลอการลงทุนโครงการปิโตรเคมีมูลค่า 300,000 ล้านบาท ในระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก (EEC) จนกว่าสถานการณ์โควิด–19 และเศรษฐกิจโลกจะคลี่คลาย

วันนี้ เศรษฐกิจในประเทศเริ่มขยับแล้ว หลังการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ เงินกู้ 1 ล้านล้านบาทก็ยังเหลือบานเบอะ เงินก้อนแรก 6 แสนล้านบาทก็ยังแจกไม่หมด ข่าวว่า ยังเหลืออีก 2 แสนล้านบาท และ เงินก้อนที่สอง 4 แสนล้านบาทฟื้นฟูเศรษฐกิจ ก็ยังเหลือ 3 แสนล้านบาท รัฐบาลมีเงินมากมาย แต่ใช้เงินทำงานไม่เป็น ผมก็หวังว่า คุณปรีดี ดาวฉาย รัฐมนตรีคลังคนใหม่จะช่วยไขลานฟันเฟืองตรงนี้ให้หมุนไปให้ได้ หยอดเงินให้เข้าเป้า ผมเชื่อว่าเศรษฐกิจในประเทศฟื้นเร็วแน่นอน คนไทยเป็นนักเที่ยวและนักช็อปอยู่แล้ว สินค้าแบรนด์เนม ในห้างหรู พารากอน เอ็มโพเรียม วันนี้ยอดขายสูงกว่าโควิดเสียอีก คนไทยซื้อล้วนๆไม่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติช่วยซื้อสักบาท

ก็เอาใจช่วย รัฐมนตรีคลังคนใหม่ ครับ ขอให้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไปให้ได้เร็วที่สุด.

“ลม เปลี่ยนทิศ”