แฟลชม็อบ "ประชาชนเป็นใหญ่ในแผ่นดิน" ของกลุ่มมอกะเสด ku daily ย้ำจุดยืนรัฐบาลต้องลงจากอำนาจ เปิดทางให้ประชาชนสร้างประชาธิปไตย ทนายอานนท์ อัด บิ๊กแดงจะเป็นแบทแมนแปลว่าคิดใช้วิธีแบบนอกกฎหมาย

เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 24 ก.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศการชุมนุมช่วงค่ำ ที่หน้าหอประชุมใหญ่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน ที่กลุ่มเกษตรศาสตร์ มอกะเสด ku daily นำโดยกลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตยหรือ ดีอาร์จี นำโดยนายกรกต แสงเย็นพันธุ์ จัดเวทีปราศรัยขับไล่รัฐบาล ใช้ชื่อว่ากิจกรรม “ประชาชนเป็นใหญ่ในแผ่นดิน” ท่ามกลางนิสิต ม.เกษตร และกลุ่มนักเรียน     

นายอานนท์ นำภา ทนายความ จากศูนย์ทนายเพื่อสิทธิมนุษยชน ปราศรัยกับผู้ชุมนุมโดยอ้างว่า การชุมนุมของกลุ่มเยาวชนปลดแอกที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถูกทหารหญิงคนหนึ่งกล่าวหาว่า เป็นม็อบมุ้งมิ้ง อยากบอกว่าดีกว่าเป็นกองทัพที่มูมมาม หลายเดือนที่ผ่านมา ประชาชนเดือดร้อนเรื่องโรคโควิด-19 แต่กองทัพกลับเอาเงินมาซื้อเครื่องบิน มีความสุขกับภาษีประชาชน ในวันนี้ พลเอกอภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. บอกว่าจะไม่ใช้กฎหมายกับกลุ่มนักศึกษา ที่มาชุมนุมแต่จะใช้แบทแมน ถ้าเป็นคนที่พูดไม่มีความรู้คงไม่เป็นอะไร แต่นี่เป็นถึงผบ.ทบ. เพราะความหมายของแบทแมท หมายถึงการกระทำที่นอกกฎหมาย ความยุติธรรมในประเทศนี้นิยมมาเอาผิดกับประชาชนหรือนักศึกษา เท่านั้นแต่เว้นไว้สำหรับลูกคนมีฐานะ

จากนั้น ในเวลา 20.30 น.ส.ชุติมน กฤษณปาณี นิสิตปี4 คณะสังคมศาสตร์ ม.เกษตร กล่าวว่า ในการชุมนุมที่ผ่านมา เราถูกข้อกล่าวหาว่า ไม่ใช่เป็นการชุมนุมของนิสิตม.เกษตร ตนในฐานะนิสิตปัจจุบันจึงขออ่านแถลงการณ์นี้เพื่อส่งไปยังรัฐบาลว่า เป็นเวลา 6 ปีแล้วที่ประเทศถูกบริหารโดยรัฐบาลที่ไม่เห็นหัวประชาชนเน้นความมั่นคงกองทัพและตัวรัฐบาลเองเป็นหลัก แต่ปล่อยให้ประชาชน ต้องเดือดร้อน ในช่วงต้นปีที่มีการระบาดของโรคโควิด-19 รัฐบาลบริหารงานอย่างไม่รัดกุมประกาศคำสั่งที่ออกมาก็ไม่เห็นหัวประชาชน จนมีคนฆ่าตัวตายไม่น้อยกว่าคนที่เสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19 ทั้งปล่อยให้แขก VIP ที่ติดเชื้อเข้ามา ในประเทศ จนประชาชนต้องมีความเสี่ยง แต่รัฐบาลกลับปฏิเสธความรับผิดชอบ

...

นิสิต ม.เกษตร กล่าวด้วยว่า การกระทำของรัฐบาลทำให้เกิดการชุมนุมเพื่อขับไล่รัฐบาลขึ้น ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย มีความพยายามที่จะตั้งกรรมาธิการขึ้นอ้างว่าเพื่อหาข้อยุติ แต่ทางกลุ่มมอกะเสด ยืนยันว่าขอไม่เข้าร่วม สำหรับเรียกร้องของทางกลุ่ม คือ ต้องส่งเสริมประชาธิปไตยเสรีภาพของประชาชน สร้างรัฐสวัสดิการให้ทั่วถึง แก้ไขรัฐธรรมนูญ ด้วยการร่างรัฐธรรมนูญที่ยึดโยงกับประชาชน ยกเลิก ส.ว.ที่แต่งตั้งโดย คสช.แล้วเปลี่ยนมาเลือกตั้งแทน และให้มีการกระจายอำนาจจากส่วนกลางลงไปยังภูมิภาค หากข้อเรียกร้องที่กล่าวมา พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ตอบสนองก็ให้ลงจากอำนาจ แล้วเปิดทางให้ประชาชนสร้างประชาธิปไตยต่อไป.