จับอาการ ความมั่นใจเกินร้อยไปแล้ว
ตามอารมณ์ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ ตอบคำถามนักข่าวว่าด้วยความมั่นใจในสนามเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ลำปาง เขต 4
ถ้าส่ง ผมก็ต้องมั่นใจ ส่วนจะชนะหรือไม่ขึ้นอยู่กับประชาชน
ต่อเนื่องกับคำถามเรื่องความพร้อมของพรรคพลังประชารัฐในสนามเลือกตั้งท้องถิ่น พล.อ.ประวิตร ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรคก็ตอบแบบไม่กั๊ก “ถามผม ส่วนตัวพร้อม”
ตบท้ายด้วยคำถามแนวอวยไส้แตก สมาชิกส่วนใหญ่ออกมาให้สัมภาษณ์สนับสนุน พล.อ.ประวิตรเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ “บิ๊กป้อม” ไม่บอกปัด แถมโชว์ลีลายอกย้อนในที “แล้วคนที่ไม่ให้สัมภาษณ์ก็ไม่สนับสนุนเหรอ”
ลูกล่อลูกชนครบเครื่อง ฟอร์มนักการเมืองอาชีพเต็มตัว
ประจำการล่วงหน้า “บิ๊กป้อม” ประเดิมบทว่าที่หัวหน้าค่ายพลังประชารัฐ ไม่ต้องรอที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค พปชร.เคาะวันประชุมใหญ่ หามขึ้นแท่นจ่าฝูงอย่างเป็นทางการ
...
“พี่ใหญ่” แสดงตัวแสดงตนชัดแล้วว่า “เอาแน่”
แม้จะมีการปล่อยชื่อ “เสี่ยพี” นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ออกมาคั่นจังหวะเป็น “ตาอยู่” ด้วยคุณสมบัติ “เซนต์คาเบรียล คอนเนกชัน” รุ่นน้อง “บิ๊กป้อม” เพื่อน “บิ๊กแดง” พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. ที่สำคัญสายเลือดท็อปบูต ตระกูลผู้ก่อตั้งปั๊มสามทหาร
เหมาะกับการเสียบหัวค่ายพลังประชารัฐ ต่อท่ออำนาจ คสช.
แต่ตามรูปการณ์ พล.อ.ประวิตรลงทุนท้าเสียงด่า ฝ่ากระแสถลอกปอกเปิกขนาดนี้
ปล่อยให้คนอื่นรับบท “นอมินี” มันก็เสียของฟรีเท่านั้นเอง
ถึงตอนนี้ไม่ใช่แค่หัวหน้าค่ายพลังประชารัฐ แต่ “พี่ใหญ่” ถูกขบวนแห่ทะลุสุดซอยไปไกล
ข้ามช็อตลุ้นออปชันควบเก้าอี้นายกรัฐมนตรีกันแล้ว
แต่ที่ส่อแววต้องเหนื่อยกันอีกหลายยกก็คือ ทีมแห่ พล.อ.ประวิตรยึดพรรคพลังประชารัฐ กลุ่ม แก๊ง ก๊วน ขบวนหาม “บิ๊กป้อม” ที่รอตกรางวัลตามผลงาน
โปรโมตตำแหน่งบริหารในพรรค โบนัสเก้าอี้รัฐมนตรี
ไล่จากเก้าอี้เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ “คู่บารมี” ของ “พี่ใหญ่” ที่มีชื่อ “ตัวเต็ง” ไม่น้อยกว่า 3 รายลุ้นคั่ว ทั้งนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ที่สถาปนาตัวเป็นสายตรงบ้านป่ารอยต่อฯ “เสี่ยแฮงค์” นายอนุชา นาคาศัย ทีม “สองเกลอ” นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม กับนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม ส่งมายึดออปชัน และ “เสี่ยตั้น” นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ ก๊วนกุมาร กปปส.
วัดกันทุนต่อทุน ยี่ห้อ “สันติ” ภาษีดีกว่าเพราะหน้าตักหนา
และโดยเงื่อนไขของเก้าอี้เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ จะโยงเป็นออปชันผูกติดกับ “ขุมทรัพย์ใหญ่” นั่นคือเก้าอี้ รมว.พลังงาน “สันติ” ก็ต้องมีภาษีดีกว่าใคร
ในจังหวะที่ “สุริยะ” ก็ต้องได้ “ณัฏฐพล” ก็ลุ้นตัวเกร็ง
รายการเตะตัดขา เบียดกันในหมู่ทีมแห่ ตะลุมบอนกันแหลกลาญแน่
และแจ็กพอตก่อนใคร สถานการณ์วิบากกรรมเก่าไล่ล่า “เสี่ยยักษ์” นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ประธานวิปรัฐบาล คดีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ลงมติ 9 ต่อ 0 ชี้มูลความผิดปมทุจริตการก่อสร้างสนามฟุตซอลที่จังหวัดนครราชสีมา ตอนเป็น ส.ส.โคราช สังกัดพรรคเพื่อไทย
ล่าสุด คณะกรรมการร่วม ป.ป.ช.กับตัวแทนอัยการเห็นตรง
กันสำนวนแน่นพอสั่งฟ้องนายวิรัชและพวก ส่งเรื่องไปให้อัยการ
สูงสุดเพื่อพิจารณาส่งฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
ตามท้องเรื่องที่วงพนันแย่งกันรอง แต่ไม่มีคนกล้าต่อ ราคาไหล “ไม่รอด” มากกว่า “รอด”
ถ้าแคล้วคลาดคงต้องจุดธูปบูชา “หลวงพ่อป้อม” ศักดิ์สิทธิ์จริงๆ
ขณะที่ “เสี่ยแฮงค์” ก็น่าจะเริ่มรู้สึกได้ถึงลางสังหรณ์ไม่สู้ดีนัก จากการที่ล่าสุดทีมงาน สตง.พาสื่อทีวีลงพื้นที่ตรวจสอบกรณี อบจ.ชัยนาท จัดซื้อโคมไฟ พร้อมเสาไฟฟ้าถนนพลังงานแสงอาทิตย์ราคา 7-8 หมื่น จากต้นทุนหลักหมื่น ตั้งแง่สงสัย ส่อฟันหัวคิวกันกระจาย
ตามรูปการณ์คงไม่จบง่ายๆ เพราะนายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส อดีตผู้ว่าการ สตง. ลุยเอง
ใครมีเอี่ยว ไม่มีเอี่ยว เครือข่ายการเมืองท้องถิ่นโยงใยระดับชาติหรือไม่ ต้องใช้เวลาสาวอีกพักใหญ่
แต่มันไม่ใช่ฤกษ์ดีกับ “เสี่ยแฮงค์” ที่กำลังลุ้นไพ่ป๊อก 2-3 เด้ง.
ทีมข่าวการเมือง