เปิดเหตุผล ทำไม นาทีนี้ ”บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ถึงเหมาะนั่งหัวหน้าพรรคพปชร.คนใหม่มากสุด ในยามกลุ่มส.ส.ในพรรคถึงเวลาต้องผลัดใบ
...
แล้วก็มาถึงวันนี้ เมื่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง "ห้องเครื่องตัวจริง" ของรัฐบาลบิ๊กตู่ มีชื่อปรากฏเด่นชัด ว่า กลุ่ม ส.ส.ในพรรคพลังประชารัฐ โดยเฉพาะจาก "กลุ่มสามมิตร" ที่บอกว่าสลายกลุ่มไปแล้ว นำโดยแกนนำ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม แท็กทีมกับ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม และนายอนุชา นาคาศัย ส.ส.ชัยนาท ซึ่งคนหลังนี้ มีชื่ออาจได้รับการเสนอเป็นแคนดิเดต เลขาธิการพรรค พปชร. คนต่อไป สู้กับ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง โดยกลุ่มสามมิตรนี้ ประกาศเดินหน้าหนุนสุดตัว "หมายมั่นปั้นมือ" หวังสนับสนุนให้ "บิ๊กป้อม" ได้เป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ คนใหม่ แทนที่ นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน ที่มีตำแหน่งเป็นเลขาธิการพรรคพปชร. ซึ่งทั้งคู่ เป็น "เด็กในคาถา" นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายเศรษฐกิจ
หากถามว่า นาทีนี้ พล.อ.ประวิตร เหมาะสม นั่งหัวหน้า พรรค พปชร. ในขณะนี้หรือไม่ ก็ต้องยอมรับกันตรงๆ ว่า มีความเหมาะสม ถ้าไม่นับเรื่องอายุมาก เนื่องจากถือเป็นผู้มากบารมี ทั้งในพรรคพลังประชารัฐ ที่มากที่สุด และยังเป็น "พี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์" ในกลุ่ม 3 ป. ซึ่งเป็นแกนนำและขุมอำนาจ ที่กองทัพก็ยังต้องเกรงใจ ในการจัดตั้งรัฐบาลบิ๊กตู่ แถม ตัวพล.อ.ประวิตร เอง ยังมีคอนเน็กชั่นมากมายในแวดวงทุกพรรคการเมือง ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายเดียวกับรัฐบาล หรือฝ่ายค้าน ขั้วตรงข้าม อย่างพรรคเพื่อไทย ทั้งนี้ เป็นคนละเรื่องว่า "พี่ใหญ่" ส่วนตัวอยากนั่งเป็นหัวหน้าพรรค พปชร.คนใหม่ หรือไม่ก็ตาม
ที่สำคัญ คุณสมบัติเด่นของ "บิ๊กป้อม" นั่นก็คือ กลุ่ม ส.ส.ใน พปชร.เรียกได้ว่าแทบทุกกลุ่ม ให้ความเคารพ นับถือ และให้ความเกรงใจ พี่ใหญ่ "บิ๊กบราเธอร์" อย่าง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฝ่ายความมั่นคง พี่ชายสุดเลิฟของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มากที่สุด เรียกว่า "มีบารมีมากพอ" ที่จะมาคุมพรรคพปชร.ไม่ให้เกิดแรงกระเพื่อม สยบความขัดแย้งภายในพรรค และสามารถนำ พปชร.เดินไปข้างหน้าต่อได้
ต้องจับตา หลัง กกต.มีคำสั่งให้พรรค พปชร.เลือก กก.บริหารพรรคใหม่ ภายใน 45 วัน ว่า พรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลพรรคนี้ จะเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นมากเพียงใด และกลุ่มการเมืองใด ใครในพรรคที่จะได้รับความไว้วางใจจากกลุ่ม ส.ส.ให้ถูกเสนอชื่อขึ้นมากุมบังเหียน-ครองอำนาจ เป็นหัวหน้า และเลขาธิการพรรคคนใหม่ ก่อนที่จะไปถึงช่วงการปรับครม.ของรัฐบาลบิ๊กตู่ ที่รออยู่เบื้องหน้า อย่างที่ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ออกมายอมรับว่า มีปรับครม.แน่ หลังได้คณะกรรมการบริหารพรรค รวมไปถึงการเลือกหัวหน้าและเลขาธิการพรรคคนใหม่
งานนี้ ทำให้หวนนึกถึงคำพูดของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ส่งสัญญาณ ว่า เป็นเรื่องธรรมดาที่พรรคการเมืองก็ต้องมีการเปลี่ยนแปลง และตัวเองไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ก็อยากให้ปัญหามันจบภายในพรรคพลังประชารัฐ ให้ไปพูดคุยกัน และอย่ามีดราม่า