นายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วธ. ชี้ 16 กรรมการบริหาร พปชร.ยังรักษาการ ขอรอ กกต.แจ้งจัดประชุมใหญ่วิสามัญ ย้ำ ความเห็นต่างในพรรคเรื่องปกติ ชู “บิ๊กป้อม” เป็นผู้ใหญ่ที่ทุกคนยอมรับ
วันที่ 2 มิ.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม และกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงสถานการณ์ พปชร. ภายหลังกรรมการบริหารพรรค 18 คนลาออก ว่า ตามข้อบังคับพรรคข้อ 13 กรรมการบริหารพรรคทั้ง 16 คน ที่ยังไม่ลาออก จะยังรักษาการอยู่ หลังจากนี้เมื่อนายทะเบียนพรรคได้รับเอกสาร ก็จะแจ้งไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อขอทราบว่า จะจัดประชุมใหญ่วิสามัญประจำปีได้เมื่อใด ซึ่งจะสอดคล้องกับการผ่อนคลายเฟส 4 ของ ศบค.ด้วย ก็จะได้จัดการประชุมภายใน 45 วัน ส่วนตัวตนไม่มีอะไรหนักใจ เพราะในภาพรวมของ ส.ส.เราพบกันทุกสัปดาห์อยู่แล้ว
ถามว่า การเปลี่ยนแปลงกรรมการบริหารพรรคจะกระทบเก้าอี้รัฐมนตรีหรือไม่ นายอิทธิพล กล่าวว่า คงเป็นคนละส่วนกัน แต่ที่ตนทราบ คือ นายกรัฐมนตรีรับทราบถึงการลาออกของกรรมการบริหารพรรคแล้ว ซึ่งก็สุดแท้แต่ท่านนายกฯ ตอนนี้คงต้องโฟกัสในงานที่แต่ละคนได้รับมอบหมาย โดยตั้งแต่เริ่มต้นตำแหน่งกรรมการบริหารพรรค กับตำแหน่งรัฐมนตรีไม่ได้ผูกกันอยู่แล้ว ซึ่งการพิจารณาคัดสรรกรรมการบริหารพรรคนั้นจะดูจากตัวแทนสมาชิกรายภาค ผู้ก่อตั้งที่มีความหลากหลายของกลุ่มสาขาอาชีพ กลไกของพรรคที่เมื่อมี ส.ส.ก็จะดูปัจจัยของแต่ละภาค ซึ่งโครงสร้างกรรมการบริหารพรรคทั้ง 34 คน ก่อนจะลาออก ก็เป็น ส.ส.แต่ละภาคที่เข้ามา
“ถ้ามองในเชิงการเมือง ซึ่งกฎหมายพรรคการเมืองได้เปิดช่องไว้อยู่แล้ว ถือเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้ และเมื่อเกิดขึ้นแล้ว จะมีผลยังไงตามมาก็ขึ้นอยู่กับการหารือกันในทิศทางของพรรค ขึ้นอยู่กับผู้บริหารที่ต้องมองในภาพรวมของสถานการณ์ปัจจุบันและประชาชนด้วย” นายอิทธิพล กล่าว
...
เมื่อถามว่า การใช้วิธีให้กรรมการบริหารลาออก เพื่อกดดันให้หัวหน้าพรรคต้องหลุดจากตำแหน่ง จะทำคนในพรรคสามารถทำงานกันอีกได้หรือไม่ นายอิทธิพล กล่าวว่า การทำงานนั้นใกล้ชิดกันอยู่แล้ว มีทั้งความเห็นตรงกันและเห็นต่าง เป็นเรื่องปกติสามารถทำความเข้าใจได้ ส่วนกระแสชื่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯจะมาเป็นหัวหน้าพรรคนั้น สมาชิกพรรคทุกคนยอมรับ พล.อ.ประวิตร อยู่แล้ว เพราะท่านเป็นผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือ และเป็นประธานยุทธศาสตร์ของพรรค เมื่อมีการประชุมใหญ่วิสามัญก็จะมีองค์ประกอบและการเสนอ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้พรรคยังคงเป็นสถาบันการเมือง อย่างที่เราตั้งใจไว้ตั้งแต่ก่อตั้งพรรค และจะเดินต่อไป กรรมการบริหารที่เหลืออีก 16 คน จะรักษาการจนกว่าจะมีการประชุมใหญ่วิสามัญ.