"อิสระ" ติง พ.ร.ก.ซอฟต์โลน ฝนตกไม่ทั่วฟ้า เอสเอ็มอีรายย่อยวืดเข้าถึงเงินกู้ มีแต่เศรษฐีเข้าถึงเงิน เอาไปซื้อพันธบัตรเก็งกำไร-ปล่อยกู้นอกระบบ เตือนรัฐบาลเร่งแก้ไข อย่าซ้ำรอยเงินเยียวยา

เมื่อวันที่ 30 พ.ค.63 นายอิสระ เสรีวัฒนวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า เห็นด้วยในหลักการ พ.ร.ก.การให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบการวิสาหกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 วงเงิน 5 แสนล้านบาท ที่ให้ความสนใจเอสเอ็มอีที่กำลังเดือดร้อนอย่างหนัก แม้ตัว พ.ร.ก.มีเจตนาดี แต่ถ้าขั้นตอนไม่รัดกุม จะเกิดปัญหาฝนตกไม่ทั่วฟ้า แบ่งคนเป็น 2 กลุ่ม คือ "คนอยากไม่ได้ กับคนได้ไม่อยาก" โดยเฉพาะกลุ่มคนได้ไม่อยาก เนื่องจาก พ.ร.ก.กำหนดให้ผู้ประกอบการแต่ละรายที่มีสินเชื่อกับธนาคารแต่ละแห่งสูงถึง 500 ล้านบาท สามารถขอสินเชื่อจาก พ.ร.ก.ตัวนี้ได้ ในเมืองไทยมีธนาคารพาณิชย์ 20 แห่ง ถ้าคูณกันแล้วจะมีวงเงินกู้ระดับ 10,000 ล้านบาท แปลว่า พ.ร.ก.ตัวนี้ให้โอกาสคนตัวใหญ่ระดับหมื่นล้านใช้สิทธิ์ซอฟต์โลนนี้ได้

ประกอบกับมาตรา 11 พ.ร.ก.ฉบับนี้ระบุว่า ถ้าลูกหนี้ชำระหนี้ไม่ได้ให้ธนาคารร่วมแบกรับความเสี่ยงด้วยร้อยละ 30-40 ดังนั้นธนาคารจึงเอาเงินไปเสนอแต่เฉพาะลูกค้าชั้นดี ที่มั่นใจว่ามีเงินคืนแน่นอน ไม่ปล่อยกู้ให้รายเล็ก เมื่อลูกค้ารายใหญ่ชั้นดีได้ซอฟต์โลนในอัตราดอกเบี้ยต่ำ เป็นใคร ใครก็กู้ แต่กู้มาแล้วไม่เอาไปใช้ให้เกิดระบบหมุนเวียน จ้างงาน แต่เอาไปซื้อพันธบัตรรัฐบาลที่ได้ดอกเบี้ย 3% ทำกำไร หรือปล่อยกู้นอกระบบให้เอสเอ็มอีเล็กๆ ที่เข้าไม่ถึง พ.ร.ก.ตัวนี้กู้ ฟันกำไร 20-50% นี่คือปัญหาที่เกิดขึ้น แม้ผู้ว่า ธปท.ระบุว่า หากพบหลักฐานใครเอาเงินไปใช้ผิดวิธีให้แจ้งมานั้น ในหลักการธุรกิจเมื่อให้เงินบริษัทไปแล้ว บริษัทจะเอาเงินไปทำอะไร อยู่นอกเหนืออำนาจที่ ธปท.จะตรวจสอบ ประเด็นอยู่ที่จะทำอย่างไรให้คนตัวเล็กได้รับเงินกู้ด้วย

...

นายอิสระ กล่าวต่อว่า พ.ร.ก.ฉบับนี้มีวงเงิน 5 แสนล้านบาท นับตั้งแต่ใช้ พ.ร.ก.ตัวนี้มา 1 เดือนกว่า เพิ่งใช้เงินไป 58,000 ล้านบาท ถือว่าน้อยมาก ขณะที่ความเดือดร้อนของเอสเอ็มอีมีทุกหย่อมหญ้า ธปท.ยอมรับว่าใช้ไปต่ำกว่าที่คาดหวัง และวงเงิน 58,000 ล้านบาทที่กู้ไปนั้น มีคนตัวเล็กที่มีสินเชื่อกับธนาคาร 0-20 ล้านบาท ได้กู้เงินก้อนนี้เพียง 13,000 ล้านบาท ขณะที่คนตัวใหญ่ที่มีสินเชื่อกับธนาคาร 20-500 ล้านบาท ได้เงินกู้ตัวนี้ 44,000 กว่าล้านบาท คิดเป็น 80% ที่คนตัวใหญ่ได้เงินไป ถ้าปล่อยให้เป็นสภาพแบบนี้ต่อไป แปลว่าวงเงิน 5 แสนล้านของ พ.ร.ก.ฉบับนี้จะถูกเศรษฐีนำไปใช้ 80% ขอเรียกร้องไปยังนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และ ธปท. ควรให้คนตัวเล็กที่ฟุบอยู่ได้ฟื้น รัฐบาลจะได้พ้นข้อครหาอุ้มคนรวยอวยเศรษฐี รัฐบาลมีบทเรียนจากการเยียวยาที่ตกหล่นของกระทรวงการคลังไม่น่าประทับใจ อย่าให้ประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาไม่นานซ้ำรอยอีก.