เฟส 2 เริ่มต้นหลังผลงานมือปราบ โควิด-19 เข้าเป้าทำให้การขับเคลื่อนเศรษฐกิจเดินหน้าต่อไปได้ เล่นเอาพวกเท้าราน้ำหงายตึงไปเลย พปชร.ยิ่งเล่นก็ยิ่งเข้ารกเข้าพง

ข่าว “เขย่าขวด” สุดสัปดาห์นี้ก้าวข้ามโควิด-19 ไปอีกก้าวหนึ่ง เมื่อจำนวนผู้ติดเชื้อลดลงจนเหลือศูนย์ (0)

นั่นเท่ากับว่า แนวป้องกันของไทยประสบผลสำเร็จ

จากเฟส 1 จึงเดินหน้าไปสู่เฟส 2 ด้วยความมั่นใจมากขึ้นเป็นลำดับ หลังทดลองเบื้องต้นไปแล้วไม่มีปัญหา

17 พ.ค.63 รัฐบาลประกาศปลดล็อกกิจการอีกหลายอย่าง โดยเฉพาะห้างสรรพสินค้าที่สามารถเปิดได้เต็มรูปตั้งแต่ 10.00-20.00 น.

มีเหลืออีกไม่กี่อย่างที่ยังไม่อนุญาตเพราะเสี่ยงเกินไป

“เคอร์ฟิว” แม้ยังคงอยู่ แต่ก็ผ่อนปรนให้อีก 1 ชั่วโมง จาก 5 ทุ่ม-ตี 4 มีเวลาที่จะเคลื่อนไหวนอกบ้านเพิ่มขึ้น

แต่ที่ลืมไม่ได้ก็คือ ต้องปฏิบัติตามกติกาอย่างที่ทำกันมาจนปกติไปแล้ว

เป็นการพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า วิถีปฏิบัติแบบไทยๆนั้นสามารถรักษาสมดุลระหว่าง “สุขภาพ” กับ “เศรษฐกิจ” ได้เป็นอย่างดี

ไม่ใช่พวกใช้ปากทำงานด้วยตรรกะเน่าๆ หลงทิศหลงทาง หวังผลแต่ด้านการเมือง สุดท้ายก็คงเจ็บอกชกไม่เข้าเป้าสักที

คิดจะ “ตามหาความจริง” ก็นี่ไงล่ะ...

ยิ่งตามหาก็ยิ่งเจอของจริงอย่างที่พยายามจะเอาประเด็นเหตุการเมืองปี 53 เพื่อโจมตีอีกฝ่ายสร้างเงื่อนไขใหม่

ก็อย่างที่พูดกันว่า “ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย” นั่นแหละ...

หวังจะโจมตีอีกฝ่ายเพื่อเชื่อมต่อมาถึงการเมืองในปัจจุบัน ด้วยการยิงเลเซอร์ใส่สถานที่เชิงสัญลักษณ์

...

ฉายไปฉายมาเจอพวกเดียวกันทั้งนั้น...

คนเรานั้นหากจิตแท้ดั้งเดิมเป็นอย่างไร พฤติกรรมซ่อนเร้นอำพรางยังไง ที่สุดมันก็ออกมาเองโดยอัตโนมัติ

“ล้มละลายทางการเมือง” หนักกว่า การบินไทยเสียอีก!

อีกพวกหนึ่งแทนที่จะได้ชูถ้วยกับผลสำเร็จในการแก้ไขปัญหาโควิด-19 กลับกลายเป็นว่าตกขบวนไปด้วยความทะยานอยาก

“พลังประชารัฐ” ที่ออกมาฟาดฟันกันเองจากบุคคลเพียงไม่กี่คน หวังในตำแหน่งหัวหน้าพรรคเลขาธิการพรรค

เพื่อไขว่คว้าไปสู่ตำแหน่งรัฐมนตรี

“4 กุมาร” ภายใต้ยี่ห้อ “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” กำลังทำงานหนักเพื่อแก้ไขปัญหา กลับโดนเพื่อนร่วมพรรค “หักดิบ” กันซึ่งๆหน้า

ฝีมือการทำงานจะขัดอกขัดใจคนดูบ้าง แต่ก็พอไปวัดไปวาได้บ้าง

ถ้าจะว่ากันด้วยความรู้สึกของสังคม ต่อเรื่องนี้ พวกเขายังได้ใจมากกว่าการออกมาขย่มกันกลางอากาศอย่างนี้

จริงๆแล้วการเปลี่ยนในพรรคการเมืองในรัฐบาลว่าไปแล้วไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดแต่อย่างใด

เพราะความอยากได้อยากเป็นนั้นไม่ปรานีใคร?

เชื่อได้เลยว่าปัญหาในพลังประชารัฐคงเป็นหนังเรื่องยาวไม่จบได้ง่ายๆ เนื่องจากเป็นแผลกินใจกันแล้ว

เรื่องนี้จึงต้องตามหาความจริงกันต่อไป

ลำพังพวกเด็กๆที่ออกมาเคลื่อนไหว ล้มล้างกันนั้น...ก็แค่ “พลทหาร”

ลึกๆแล้วเป็นเรื่องระหว่าง “แม่ทัพ” เพื่อชิงการนำมากกว่า!!!

“ลิขิต จงสกุล”