การประกาศให้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่ได้รับผลกระทบจาก การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ต่ออายุไปจนถึง วันที่ 31 พ.ค.ศกนี้ ที่ภาครัฐอ้างว่าเป็นการทดสอบ มาตรการปลดล็อกดาวน์ โดยให้ดำเนินการเหมือนกันทั่วประเทศ
เท่ากับ เคอร์ฟิว การห้ามออกจากบ้านตั้งแต่ 4 ทุ่มถึงตี 4 ยังคงดำเนินต่อไป การบินเข้าออกประเทศ ยังคงต่อไป การห้ามชุมนุม ดำเนินกิจกรรมที่มีคนมารวมตัวกันมากๆ การจัดประชุม สัมมนา คอนเสิร์ต หรือแม้แต่การมั่วสุม จัดเลี้ยง หรือการแจกของ แจกอาหาร การชุมนุมประท้วง มาตรการของรัฐยังคงมีต่อไปทุกอย่าง
เพราะฉะนั้น การชุมนุมประท้วงของประชาชนที่ไม่พอใจการบริหารงานของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รวมทั้งการชุมนุมทางการเมือง เกษตรกร ผู้ใช้แรงงาน คนว่างงานตกงาน ที่เดือดร้อนอยู่ตอนนี้ จะกระทำไม่ได้โดยเด็ดขาด หากฝ่าฝืนมีความผิดร้ายแรงกว่าปกติ
ปิดกั้นการระบายหาทางออกของประชาชนตามระบอบประชาธิปไตยโดยสิ้นเชิง
แม้จะมีการผ่อนผันให้เปิดร้านอาหารเครื่องดื่ม ร้านตัดผม ร้านอาหารสัตว์ เปิดให้ขายเหล้าขายเบียร์ ได้ แต่ก็มีเวลาจำกัดและต้องเป็นไปตามระเบียบของทางราชการเท่านั้น
สรุปแล้วขายได้ซื้อได้ แต่ต้องนำไปบริโภครับประทานที่บ้าน โดยเฉพาะเหล้าเบียร์เอาใจคอทองแดงที่กำลังจะลงแดง แต่ถ้าเมาแล้วออกมาอาละวาดนอกบ้านหรือมีการฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินก็จะต้องกลับมาพิจารณากันใหม่ เพราะที่อนุญาตให้ร้านอาหารที่ขายเหล้าขายเบียร์ได้ แต่ห้ามบริโภคในร้าน ทางปฏิบัติแล้วคงจะควบคุมยาก
ต่อมาเรื่องการเดินทาง ใครที่ต้องการกลับภูมิลำเนาอย่างที่พูดกันจนติดปากว่า ขอกลับไปตายที่บ้า ดีกว่าต้องลงทะเบียน แจ้งการเคลื่อนย้ายก่อนและอนุญาตให้มีการเดินทางในแต่ละวันด้วยจำนวนจำกัด การเดินทางข้ามเขตข้ามจังหวัด ยังมีคำสั่งห้ามตามปกติ ยกเว้นว่ามีความจำเป็นและได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่
...
การเดินทางโดยเครื่องบินในประเทศ ตามประกาศของกรมท่าอากาศยาน การเปิดให้บริการของสายการบิน ไทยไลอ้อนแอร์ นกแอร์ ไทยแอร์เอเชีย และไทยเวียตเจ็ท ที่ให้บริการใน 14 จังหวัด ลำปาง แม่สอด พิษณุโลก บุรีรัมย์ สกลนคร นครพนม ร้อยเอ็ด ขอนแก่น อุบลราชธานี ตรัง นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี และ กระบี่ โดยจะต้องปฏิบัติตามประกาศของจังหวัด เช่น ผู้โดยสารต้องมีภูมิลำเนาในจังหวัดนั้นๆ หรือต้องกักตัวเองตามมาตรการทางราชการเป็นเวลา 14 วัน ชาวบ้านก็ยังไม่ได้รับความสะดวกอยู่ดี โดยเฉพาะคนที่ต้องทำงานประจำ หรือนักธุรกิจที่ต้องเดินทางตลอดเวลา
การล็อกดาวน์มีทั้งผลดีและผลเสียลดการระบาดของเชื้อไวรัส แต่กดดันการดำรงชีวิตของประชาชน ยิ่งอดยากปากแห้งเท่าไหร่มาตรการล็อกดาวน์ก็จะเกิดผลกระทบเท่านั้น ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการของภาครัฐจะเอาอยู่หรือไม่
จะอ้างสุขภาพเหนืออิสรภาพเลอะเทอะเปล่าๆ.
หมัดเหล็ก
mudlek@thairath.co.th