ผบ.ทบ.กำชับ อย่าลดความเข้มข้น มาตรการป้องกัน COVID-19 เดินหน้าช่วย ปชช.ด้วยศักยภาพของหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก ขณะเดียวกัน ยังให้ความสำคัญภารกิจด้านอื่นๆ ทั้งแก้ปัญหาหมอกควัน-ไฟป่า แก้ภัยแล้ง ช่วยปราบปราม ยาเสพติด
วันที่ 1 พ.ค. ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ.เป็นประธานการประชุมผู้บังคับหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก โดยกล่าวขอบคุณกำลังพล โดยเฉพาะบุคลากรทางการแพทย์ ที่สนับสนุนรัฐบาลและปฏิบัติตามมาตรการในการแก้ไขสถานการณ์ไวรัส COVID-19 อย่างเคร่งครัด สามารถควบคุมและป้องกันการติดเชื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ และขอให้ติดตามสถานการณ์ดำรงความเข้มงวดต่อไป โดยเฉพาะการปฏิบัติตามมาตรการผ่อนปรนของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 ควบคู่ไปกับการช่วยเหลือประชาชน ที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ก็ให้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องตามศักยภาพของหน่วย เช่น การจัดส่งอาหารและเครื่องใช้ให้ประชาชนที่บ้าน, รถครัวสนาม, ผลิตผลจากโครงการทหารพันธุ์ดี การซื้อพืชผลจากเกษตรกรมาประกอบเลี้ยง, การดูแลพื้นที่ควบคุมโรคแห่งรัฐ (State Quarantine) การนำกำลังพลร่วมบริจาคโลหิต การคัดกรองในพื้นที่ชายแดน
รองโฆษก ทบ.กล่าวว่า ผบ.ทบ. ยังให้ความสำคัญภารกิจ การแก้ปัญหาไฟป่าหมอกควัน การช่วยภัยแล้ง แจกน้ำ ขุดบ่อบาดาล สกัดกั้นยาเสพติด และสินค้าเกษตรเลี่ยงภาษี การลักลอบเข้าเมือง การบริจาคโลหิต สนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์ การตั้งด่านตรวจในรอยต่อจังหวัด การสนับสนุนศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 การช่วยเหลือในเรื่องการดำรงชีวิตประจำวันของประชาชน สิ่งที่ดำเนินการอยู่ขณะนี้ เป็นการใช้ขีดความสามารถของ กำลังพล ยุทโธปกรณ์ และหน่วยทหารใน “ปฏิบัติการทางทหารที่นอกเหนือจากการทําสงคราม” ถือเป็นบทบาทหน้าที่ของกองทัพบก จึงขอให้ทุกหน่วยได้เสียสละทุ่มเทดำเนินการต่อไป โดยเฉพาะในห้วงที่อาจเกิดความผันผวนด้านเศรษฐกิจ สังคม และมิติอื่นๆ จากผลกระทบของไวรัส COVID-19
...
สำหรับทหารกองประจำการ ที่สมัครใจอยู่ต่ออีก 1 ปี นั้น ผบ.ทบ. มอบให้ กรมยุทธศึกษาทหารบก กรมกำลังพลทหารบก กรมยุทธการทหารบก ร่วมกันดำเนินการส่งเสริมให้มีวุฒิการศึกษาที่สูงขึ้น ด้วยการเรียนในระบบ กศน. พร้อมพัฒนาศักยภาพให้มีคุณสมบัติตรงตามข้อกำหนดในการเข้าเป็นนักเรียนนายสิบ หรือข้าราชการทหารต่อไป ตามนโยบายที่กองทัพบกได้ให้โอกาสกับทหารกองประจำการที่สมัครใจอยู่ต่อ
นอกจากนี้ ให้หน่วยพิจารณาจัดโครงการนำทหารกองประจำการ กลับไปเยี่ยมครอบครัว ณ ภูมิลำเนา ภายใต้การปฏิบัติตามมาตรการ COVID-19 รวมถึงการดูแลช่วยเหลือครอบครัวทหารกองประจำการตามความเดือดร้อน เพื่อเป็นกำลังใจ และแทนความห่วงใยจากกองทัพบก
สำหรับกองกำลังชายแดนที่ยังปฏิบัติภารกิจ เฝ้าตรวจป้องกันชายแดน จัดระเบียบพื้นที่ แก้ไขปัญหาความมั่นคงและประสานความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านตามพื้นที่รับผิดชอบได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งผบ.ทบ. ได้เน้นย้ำให้ปฏิบัติหน้าที่ภายใต้กฎหมาย มีขั้นตอนการปฏิบัติที่รัดกุม เหมาะสม ให้เจ้าหน้าที่มีความรู้ มีความระมัดระวัง เพื่อให้เกิดความปลอดภัย โดยเฉพาะในเรื่องการสกัดกั้นยาเสพติด เน้นการประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่และสำนักงาน ป.ป.ส. และจากการที่ ผบ.ทบ.ตรวจเยี่ยมกองทัพภาคที่ 4 พร้อมให้ดำเนินการติดตั้งระบบไฟส่องสว่างตามแนวเขตแดนไทย- มาเลเซีย ทั้งทางบกและทางน้ำ ซึ่งได้ดำเนินการเรียบร้อยแล้วนั้น ผู้บัญชาการทหารบกได้มอบให้ทุกกองทัพภาคพิจารณาดำเนินการตามแนวทางดังกล่าวในทุกพื้นที่ชายแดน เพื่อเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการป้องกันพื้นที่และเป็นประโยชน์ในการตรวจการณ์ต่อไป