“บิ๊กตู่” นั่งหัวโต๊ะ ศบค.ชุดใหญ่ ถก 2 เรื่องสำคัญ ต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน-แนวทางผ่อนปรน วางมาตรการคู่ขนานด้านสาธารณสุขรองรับ ขอบคุณทุกฝ่ายทำเต็มที่ ห่วงเยียวยาไม่ทั่วถึง
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 27 เม.ย. 2563 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. โดยมีรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ตัวแทนหน่วยงานด้านความมั่นคง สาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมพร้อมเพรียง
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ถือเป็นการหารือเชิงบูรณาการร่วมกันแก้ไขปัญหาโควิด-19 ซึ่งประเทศไทยทำได้ดีมากในระดับหนึ่ง ได้รับการยอมรับทั้งในประเทศและต่างประเทศ แม้จะมีปัญหาอยู่บ้าง และที่ต้องมีการพิจารณาวันนี้คือเรื่องการต่ออายุการประกาศใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน รวมทั้งการปรับข้อกำหนดให้มีการผ่อนผัน จะต้องให้มีเวลาเตรียมการและมีมาตรการคู่ขนานด้านการสาธารณสุข ต้องดูแลก่อนช่วงที่จะมีการปลดล็อก ซึ่งการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มา 1 เดือนเต็มนั้น ต้องขอบคุณทุกฝ่ายที่ได้ทำหน้าที่ยังเต็มที่ ทั้งผู้ที่ไม่ได้เป็นกรรมการ แต่ก็มาเป็นที่ปรึกษาคอยช่วยเหลือ วันนี้จะมีการพิจารณาข้อเสนอที่ส่งมายังภาครัฐ เป็นความร่วมมือของประชาชนจากทุกกลุ่มทุกฝ่าย ซึ่งสังคมไทยมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากหลังจากที่มีการแพร่ระบาด
“สิ่งที่ผมจะขอความเห็นชอบจากที่ประชุมในวันเดียวกันนี้ คือแนวทางการผ่อนปรนภายหลังจากที่มีการขยายเวลาการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โดยแผนต่างๆ จะยึดตามหลักการสาธารณสุขและองค์การอนามัยโลก เป็นหลักในการดำเนินการ สิ่งที่ผมเป็นกังวลก็คือเรื่องการเยียวยาที่หลายฝ่ายไม่ทั่วถึง เพียงพอ”
...
ทางด้าน นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยก่อนการประชุมว่า วันนี้เป็นการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ เพื่อรับฟังและประเมินสถานการณ์จากฝ่ายสาธารณสุขและด้านความมั่นคง ในส่วนของกระทรวงวัฒนธรรม จะมีข้อเสนอซึ่งเป็นข้อปฏิบัติเกี่ยวกับวันวิสาขบูชา ในวันที่ 6 พ.ค. ซึ่งจะเสนอให้งดกิจกรรมที่มีคนจำนวนมากรวมตัวกัน โดยกระทรวงวัฒนธรรมจะพิจารณาและประเมินดูตามกลุ่มจังหวัดต่างๆ โดยเฉพาะจังหวัดที่มีการผ่อนคลายมาตรการลงบ้างแล้วก็อาจจะอนุญาตให้จัดกิจกรรมในเรื่องการเวียนเทียน ซึ่งถือเป็นพิธีสำคัญทางพุทธศาสนาได้ โดยต้องมีระยะห่าง แต่ทั้งหมดขอฟังข้อมูลและการประเมินสถานการณ์จากสาธารณสุขก่อนว่ามีความเห็นอย่างไร.