กห.โชว์ปรับลดงบฯมากสุด 1.8 หมื่นล้าน เฉพาะกองทัพบกปรับลดไป 1 หมื่นล้าน “วินธัย” เผย “บิ๊กแดง” ยอมตัดใจสั่งชะลอจัดซื้อยานเกราะล้อยางวงเงิน 4.5 พันล้าน “ศิริจันทร์” ปรามเพจให้เบาๆหน่อย ฝ่ายค้านได้ทีกระหน่ำ ก้าวไกลฉะสำนึกช้ากับภาวะวิกฤติ ขู่ต่อไปนี้จะจี้ละเอียดทุกโครงการ “วันนอร์” แนะไปช่วยคนไม่มีจะกินก่อน โฆษก พท.จวกไว้ใจไม่ได้เผลอเป็นซื้ออาวุธ “ชวน” แจงไม่มีอำนาจสั่งเปิดสภาฯวิสามัญ “สุชาติ” ท้วงรัฐบาลร่าง พ.ร.บ.โอนงบฯต้องทำประชาพิจารณ์ตาม รธน.ก่อน “อนุดิษฐ์”จี้เปิดสภาฯหวั่นถลุงเงิน 2 ลล.กันเพลิน “นฤมล” โต้ฝ่ายค้านหาแก้โควิดช้า “จุรินทร์” บี้ มท.สั่งปลดล็อกรถขนสินค้าเกษตร ในขณะที่ประชาชนยังคงเดือดร้อนกับผลกระทบวิกฤติโควิด-19 มีกระแสข่าวออกมาถึง

การจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ของกองทัพบก ล่าสุด พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. ต้องยอมถอยชะลอการจัดซื้อยานเกราะล้อยาง วงเงิน 4,515 ล้านบาท พร้อมปรับลดงบฯของกองทัพบกได้ประมาณ 1 หมื่นล้านบาท

...

“ชวน” แจงไม่มีอำนาจเปิดวิสามัญ

เมื่อเวลา 11.15 น. วันที่ 22 เม.ย. ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงข้อเสนอของฝ่ายค้านที่ขอให้เปิดประชุมสภาผู้แทน ราษฎรสมัยวิสามัญเพื่อพิจารณาอนุมัติ พ.ร.ก.กู้เงิน 3 ฉบับเป็นการเร่งด่วน ว่า ประธานสภาฯไม่มีอำนาจเปิดและนัดประชุมได้ ต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ คือให้ ครม.นำความกราบบังคมทูล หรือ ส.ส.และ ส.ว.เข้าชื่อรวมกัน หรือ ส.ส.จำนวนไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 เข้าชื่อร้องต่อประธานรัฐสภานำความกราบ บังคมทูล ไม่ว่าตนอยากจะเปิดวิสามัญหรือไม่ก็ไม่สามารถทำได้ ต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ แต่ขอบคุณความห่วงใยและข้อเสนอของสมาชิก ส่วนการเตรียมสถานที่และความพร้อมสำหรับประชุมสภาฯ ต้องเว้นระยะห่างทางสังคม ให้ ส.ส.เว้นที่นั่งห่างกัน อาจลดความแออัดด้วยการให้ ส.ส.ที่ไม่ได้อภิปรายอยู่บริเวณนอกห้องประชุม รวมถึงให้ผู้ติดตาม ส.ส.มาสภาฯเท่าที่จำเป็น เจ้าหน้าที่ก็มาเท่าที่จำเป็น โดยเชิญผู้นำฝ่ายค้าน ตัวแทนรัฐบาล ตัวแทนพรรคการเมืองมาหารือกันว่าจะดำเนินการอย่างไร

“สุชาติ” ท้วง รบ.ทำประชาพิจารณ์

นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวภายหลังรับมอบเครื่องสแกนใบหน้าและตรวจวัดอุณหภูมิ พร้อมอุปกรณ์ จำนวน 1 ชุด จากนายสุรพล ธนวณิชย์สกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชอบใจ โฮลดิ้ง จำกัด ขอนแก่น ว่า ตามที่ฝ่ายค้านเรียกร้องให้เปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ เพื่อเร่งพิจารณาร่าง พ.ร.ก.กู้เงิน และร่าง พ.ร.บ.โอนงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ส่วนตัวเห็นด้วยให้เปิดสมัยวิสามัญ เพราะมีทั้ง พ.ร.ก.และ พ.ร.บ.ที่ต้องรีบพิจารณาโดยเร็ว เพื่อนำเงินจากส่วนต่างๆมาช่วย แต่จะเปิดได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับรัฐบาล หรือสมาชิกทั้ง 2 สภาเข้าชื่อร่วมกันไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 โดยเฉพาะร่าง พ.ร.บ.โอนงบ ประมาณฯ ไม่ทราบว่ารัฐบาลได้ดำเนินการทำประชา พิจารณ์สอบถามความเห็นจากประชาชนถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้น ตามที่รัฐธรรมนูญมาตรา 77 กำหนดหรือไม่ อย่างไรก็ตามยังไม่รู้ว่าจะเปิดประชุมสมัยวิสามัญได้หรือไม่

ฝ่ายค้านหวั่นถลุงเงิน 2 ลล.เพลิน

ที่พรรคเพื่อไทย น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการหารือของพรรคร่วมฝ่ายค้านเพื่อเสนอเปิดประชุมสมัยวิสามัญ ว่า เรื่องงบประมาณถือเป็นเรื่องสำคัญ การออก พ.ร.ก.กู้เงิน 3 ฉบับ มูลค่าเกือบ 2 ล้านล้านบาท แต่เนื้อหาการใช้จ่ายมีเพียงนิดเดียว เหมือนกับการตีเช็คเปล่า ฝ่ายค้านจึงเห็นว่าเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ควรนำเข้าสภาฯให้ ส.ส.พิจารณาวิธีการใช้จ่ายร่วมกัน ขณะนี้ถือว่า พ.ร.ก.มีผลบังคับใช้แล้ว หากปล่อยไว้การตรวจสอบวิธีการใช้จ่ายอาจไม่ทัน รวมถึงเรื่องการถ่ายโอน งบประมาณปี 2563 ที่ถือเป็นเรื่องสำคัญ แต่ขณะนี้ยังไม่ชัดเจนว่ารัฐบาลจะตัดงบส่วนไหนอย่างไร ควรให้สภาตรวจสอบก่อนจะเกิดการใช้จ่ายเงินผิดพลาด ไม่เป็นตามเป้าหมาย และขาดประสิทธิภาพ

ชม ส.ส.พรรคร่วม รบ.กล้าทักท้วง

นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การที่รัฐบาลยกวิกฤติโควิด-19 เป็นวาระแห่งชาติ แต่ในทางปฏิบัตินายกฯกลับอาศัยอำนาจตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน รวบอำนาจไว้อยู่ในมือแต่ผู้เดียว น่ากังวลว่ากระบวนการแก้ปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาลจะนำพาประเทศดิ่งเหว ก่อหนี้มหาศาล พรรคฝ่ายค้านพยายามเสนอให้เปิดสภาสมัยวิสามัญ แต่ไม่ได้รับความสนใจจากรัฐบาล ต้องยอมรับในความกล้าหาญของ ส.ส. 3 พรรคร่วมรัฐบาล คือภูมิใจไทย ประชาธิปัตย์ และชาติพัฒนา ที่ทำหนังสือเสนอปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน และทักท้วงการใช้เงินให้รอบคอบโปร่งใส ต่อนายกฯ คงทนเห็นความเดือดร้อนประชาชนไม่ไหว จึงขอเรียกร้องเพื่อน ส.ส.ทุกพรรค สนับสนุนการเปิดสมัยวิสามัญ เพื่อนำความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่มาเสนอแนะผ่านรัฐสภา

เตือน จนท.ใช้อำนาจเกินขอบเขต

นายชุมสาย ศรียาภัย รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า กรณีเจ้าหน้าที่รัฐใช้อำนาจตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ดำเนินคดีกับบุคคลที่ทำอาหารไปแจกประชาชนตามจุดต่างๆ ถือเป็นการกระทำเกินกว่าเหตุเกินกว่าอำนาจหรือไม่ ในยามวิกฤติที่ประชาชนเดือดร้อนเช่นนี้ หากกระทำเกินกว่าอำนาจหน้าที่อาจต้องรับผิดชอบทางกฎหมายตามมาภายหลัง ประชาชนกระทำด้วยเจตนาสุจริตในลักษณะแบ่งสุขแบ่งทุกข์กัน ไม่มีเจตนามาชุมนุม มั่วสุม หรือทำการให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยในบ้านเมือง เจ้าหน้าที่แค่ดูแลและช่วยอำนวยความสะดวกเท่านั้น ขอฝากไปยังรัฐบาล ผบ.ตร. ผู้ว่าราชการจังหวัด หรือหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง รีบพิจารณาแก้ปัญหา และให้แนวทางการปฏิบัติต่อเจ้าหน้าที่ ให้ใช้ดุลพินิจในทางถ้อยทีถ้อยอาศัยและมีเมตตา

“นฤมล” โต้ฝ่ายค้านหาแก้โควิดช้า

นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีพรรคฝ่ายค้านโจมตีรัฐบาลแก้ไขปัญหาให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิดล่าช้า ว่า การแก้ไขปัญหาเป็นไปตามขั้นตอน ไม่ได้ล่าช้า นายกฯค่อยๆพิจารณาใช้มาตรการที่ต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดความสมดุลและเป็นไปด้วยความรอบคอบที่สุด แม้นายกฯจะตัดสินใจอย่างไรก็ยังมีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน ส่วนที่พรรคฝ่ายค้านเรียกร้องให้เปิดสภาฯสมัยวิสามัญให้เร็วที่สุด เพื่อหารือถึงการให้ความช่วยเหลือประชาชนนั้น อยู่ที่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร การผ่อนปรนมาตรการต่างๆ เชื่อว่าภายในวันที่ 30 เม.ย.จะมีความชัดเจน นายกฯจะรับข้อเสนอจากทุกภาคส่วนก่อน ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้ทุกฝ่ายไปศึกษามาตรการทยอยปลดล็อกเพื่อหาแนวทางที่ดีที่สุด และต้องรอการหารือจากที่ประชุม ศบค.ก่อน

“บิ๊กแดง” ตัดใจหั่นงบ ทบ.หมื่นล้าน

วันเดียวกัน เวลา 16.00 น. ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก แถลงชี้แจงกรณีมีการเผยแพร่ประกาศแผนการจัดซื้อจัดจ้างประจำปีงบประมาณ 2563 ของกรมสรรพาวุธทหารบก (สพ.ทบ.) เรื่องยานเกราะล้อยาง หรือสไตรเกอร์ พร้อมระบบอาวุธ และการบริการทางเทคนิค จำนวน 50 คัน ในวงเงิน 4,515,000,000 บาท ว่า จากนโยบายรัฐบาลที่ขอให้ทุกหน่วยงานพิจารณาปรับลดงบประมาณปี 2563 เพื่อนำไปใช้แก้ปัญหาไวรัสโควิด-19 ว่า ในภาพรวมกระทรวงกลาโหมปรับลดงบประมาณจาก 7 หน่วยงานในสังกัดยอดรวมประมาณ 18,000 ล้านบาท ถือเป็นตัวเลขที่สูงเมื่อเทียบกับกระทรวงอื่น เป็นส่วนของกองทัพบกหน่วยงานเดียวเกือบ 1 หมื่นล้านบาท หลักเกณฑ์ของกระทรวงกลาโหม หากเป็นโครงการที่ไม่ใช่งบผูกพันจะตัดทั้งหมด แต่โครงการที่เป็นงบผูกพันจะตัดอย่างน้อย 50 เปอร์เซ็นต์ของโครงการนั้น ทำให้ 4 โครงการขนาดใหญ่ของกองทัพบก อาทิ การจัดซื้อรถถัง ปืนใหญ่ ระบบเรดาร์ จะถูกตัดออกไปทั้งหมด ยังมีโครงการระดับกลางและระดับย่อยอีกประมาณ 26 โครงการ

ยอมเบรกซื้อยานเกราะล้อยาง

พ.อ.วินธัยกล่าวต่อว่า ส่วนการจัดซื้อยานเกราะล้อยาง หรือสไตรเกอร์ อยู่ในกลุ่มโครงการงบผูกพัน คือปี 2563-2565 ทุกอย่างดำเนินการตามขั้นตอนการเบิกจ่ายตามหลักเกณฑ์ของกรมบัญชีกลาง โดยในปี 2563 มีแผนใช้งบฯจำนวน 900 ล้านบาท เมื่อปรับลดแล้วจะเหลือเพียง 450 ล้านบาท สรุปแล้วโครงการจัดซื้อยานเกราะล้อยางยังคงมีอยู่ แต่ใช้จ่ายงบปี 2563 ได้ 450 ล้านบาทเท่านั้น โครงการดังกล่าวเป็นการจัดซื้อจัดจ้างด้วยวิธี FMS เป็นรูปแบบความช่วยเหลือทางทหารระหว่างกองทัพบกไทยกับกองทัพบกสหรัฐฯ ที่ได้รับอนุมัติงบทั้งโครงการกว่า 4.5 พันล้านบาท จะได้ยานเกราะล้อยางกว่า 100 คัน คือ ยานเกราะล้อยางที่ได้เปล่าจำนวนหนึ่ง รถติดปืน ค. 120 มม. รถพยาบาล รถผู้บังคับบัญชา รถลาดตระเวน การสอนเทคนิค ชิ้นส่วนอะไหล่ การซ่อมบำรุง การฝึกศึกษาในต่างประเทศ และการสร้างอาคารโรงซ่อมมาตรฐานสูง ช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา กองทัพบกไทยยังได้รับการช่วยเหลือเรื่องระบบกระสุนจากสหรัฐฯ มูลค่าถึง 6 แสนเหรียญ และกองทัพบกสหรัฐฯยังช่วยนำนักเรียนทุนไทยกลับประเทศโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ส่วนการจัดซื้อรถถัง VT-4 ของจีน อยู่ในกลุ่มที่ยังไม่ได้ตั้งงบผูกพัน จึงต้องชะลอทั้งโครงการ

ฮึ่มเพจปูดข้อมูลกระตุกอารมณ์

ด้าน พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพ บกกล่าวว่า กองทัพบกเข้าใจในความจำเป็นของประเทศ และยินดีปรับลดงบประมาณ โดยจะบริหารจัดการทรัพยากรที่เหลืออยู่อย่างดีที่สุด ให้สามารถดำรงสภาพกำลังรบรักษาอธิปไตย ดูแลประชาชน สนับสนุนรัฐบาล และพัฒนาประเทศอย่างเต็มกำลังความสามารถ ขอให้เชื่อมั่นในสิ่งที่กองทัพบกดำเนินการว่ายึดประโยชน์ประเทศชาติและประชาชนเป็นสำคัญ แต่ขอฝากถึงการนำเสนอข้อมูลข่าวสาร ขณะนี้เราอยู่ในสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ประชาชนมีความเดือดร้อนและอ่อนไหวต่อการรับรู้ข้อมูลข่าวสารกองทัพ บก จึงขอความร่วมมือจากทุกฝ่ายให้เสนอข้อมูลข่าวสารตามข้อเท็จจริง เนื่องจากข่าวสารที่นำเสนอมีความสำคัญ ต่ออารมณ์ของคนไทยที่อยู่ในสภาวะตึงเครียด มีบางเพจนำเข้าข้อมูลที่ไม่เป็นความจริง ใส่อารมณ์ต่อว่ากองทัพ บกและผู้บังคับบัญชาระดับสูง ขอให้เบาๆลงหน่อย กองทัพบกไม่อยากใช้มาตรการทางกฎหมายดำเนินการกับเพจที่นำข้อมูลการประชุม และการดำเนินการ ภายในของกองทัพบกไปวิพากษ์วิจารณ์ว่ามีการทุจริต อะไรที่ไม่ชัดเจนอย่าเผยแพร่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเพจเฟซบุ๊ก “ลุงตู่ตูน” เพจสนับสนุนรัฐบาลมีการเผยแพร่ข้อความระบุว่า “นายกฯลุงตู่สั่งเบรกไม่ให้มีการจัดซื้ออาวุธ หั่นงบจัดซื้ออาวุธ 20% ส่วนที่วิพากษ์วิจารณ์เรื่องแผนซื้อยานเกราะ 50 คัน เป็นการเสนอแผนตามโครงการต่อเนื่อง (ลอต 2) ยังไม่ได้มีการจัดซื้อแต่อย่างใด”

ก้าวไกลฉะสำนึกช้าซื้อยานเกราะ

นายวิโรจน์ ลักษณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม ต้องอธิบายว่าในสถานการณ์ที่ประชาชนต้องเผชิญกับโควิด-19 ทำไมกรมสรรพาวุธ ทบ. ต้องจัดซื้อยานเกราะล้อยางถึง 50 คัน เป็นเงินถึง 4,515 ล้านบาท เอกสารลงวันที่ 20 เม.ย.นี้เอง ทำไมไม่โอนงบประมาณมาช่วยประชาชนเรื่องปากท้อง จนเกิดกระแสสะท้อนความไม่พอใจผ่านแท็ก “#ยานเกราะพ่องง” ทั้งที่คิดที่จะโอนงบมาตั้งแต่วันที่ 10 มี.ค. แต่โอนได้ล่าช้ามากเป็นเพราะจะเอางบมาถลุงซื้ออาวุธหรือเปล่า กรณียานเกราะล้อยางถือว่าชัดเจนมาก เพิ่งอนุมัติเมื่อวันที่ 20 เม.ย. ขออนุญาตแนะนำมหาเศรษฐี 20 คน ที่กำลังจะตอบจดหมายเปิดผนึกของนายกฯ ควรตอบแค่สั้นๆไปว่า “จะมาขอให้คนอื่นช่วย คุณเลิกซื้ออาวุธก่อนเถอะ ยานเกราะ 50 คันทำอะไรได้บ้าง” คือสามารถเยียวยา 5,000 บาท ได้ 301,000 คน ประกอบอาหารเลี้ยง 2.35 ล้านคน ได้ 1 เดือนเต็ม โรงพยาบาลสนาม 16,010 เตียง เครื่องช่วยหายใจ 5,311 เครื่อง เครื่องผลิตออกซิเจน 112,875 เครื่อง ชุดพีพีอี 9.4 ล้านชุด หน้ากากฯ 1,806 ล้านชิ้น

ต่อไปจะจี้ละเอียดทุกโครงการ

นายวิโรจน์กล่าวอีกว่า กระทรวงกลาโหมและกองทัพ ต้องมีสำนึกได้แล้วว่าขณะนี้ไม่มีความจำเป็นต้องซื้ออาวุธเป็นหลักพันล้านบาท ตั้งแต่เรือยกพลขึ้นบก 6,100 ล้านบาท โดนประชาชนตำหนิไปที หนึ่งแล้ว ไม่ใช่เห็นข่าวเงียบสอดไส้ซื้อยานเกราะล้อยางเข้ามาอีก ในเมื่อไม่มีสำนึกต่อแต่นี้คงต้องตรวจละเอียดทุกโครงการ ต้องจี้แบบทุกหน้าทุกบรรทัดเพราะคงไว้ใจกันอีกไม่ได้แล้ว เป็นเพราะพฤติกรรมของกองทัพเองเผลอเป็นไม่ได้ จะซื้ออาวุธอยู่ตลอด ขออย่ามีแบบนี้ให้เห็นอีกเลย ส่วนเรื่องที่อ้างว่าเป็นการจัดซื้อกับสหรัฐฯไว้ก่อนหน้านั้น คราววิกฤติต้มยำกุ้งปี 40 รัฐบาลไทยขณะนั้น ยังยกเลิกการซื้อเครื่องบินรบ F-18 จากสหรัฐฯได้ ทั้งๆที่ทำสัญญาไว้แล้ว หากรู้สำนึกควรไปเจรจากับสหรัฐฯ

ห้ไปช่วยคนไม่มีจะกินก่อน

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ กล่าวว่า งบจัดซื้ออาวุธของกองทัพกับสถานการณ์วิกฤติขณะนี้ ถือว่าไม่จำเป็นและต้องชะลอออกไปก่อน ตอนนี้เราต้องใช้งบแก้ไขผลกระทบของประชาชนเป็นอันดับแรก เราจะได้กู้เงินน้อยลง ที่สำคัญสิ่งที่รัฐบาลกำลังเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบยังไม่ถูกต้องและไม่ทั่วถึง ไม่อยากให้ใช้คำว่าเยียวยา แต่อยากให้ใช้คำว่าชดเชย เพราะผลกระทบของประชาชนเกิดจากการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทำให้ประชาชนไม่สามารถประกอบอาชีพได้ อยากให้ดูตัวอย่างการช่วยเหลือของหลายประเทศที่เขาทำทั่วถึง ให้กับทุกคนโดยไม่ต้องมาลงทะเบียนอะไร สิ่งสำคัญที่สุดคือผู้เดือดร้อนไม่มีจะกินต้องเร่งชดเชยตรงนี้ ส่วนการกระตุ้นเศรษฐกิจช่วยเหลือเอ็สเอ็มอี หรือกลุ่มนายทุนก็ต้องดำเนินการ แต่เอาไว้ทีหลังได้

จวกไว้ใจไม่ได้เผลอเป็นซื้ออาวุธ

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ประเด็นกองทัพที่พยายามจัดซื้ออาวุธตลอดเวลา นายกฯต้องมีคำตอบว่าจัดลำดับความสำคัญของปัญหาอย่างไร ขณะที่การเยียวยาประชาชนล้มเหลว แต่จะจัดซื้อยานเกราะล้อยางเป็นเงินสูงถึง 4,515 ล้านบาท จะแก้เกี้ยวว่าเป็นงบผูกพันงบค้างท่อคงฟังยาก เพราะเอกสารอนุมัติในวันที่ 20 เม.ย. เหตุใดไม่โอนงบประมาณมาช่วยเยียวยาประชาชน มีประชาชนตั้งคำถามว่าตกลงจะไว้วางใจกองทัพไม่ได้เลยหรือ เผลอไม่ได้ เผลอเป็นซื้ออาวุธ เมื่อคราวเรือยกพลขึ้นบก 6,100 ล้านบาท โดนประชาชนตำหนิไปแล้ว พอเรื่องซา บวกกับสถานการณ์โควิด ชุลมุน สอดไส้ซื้อยานเกราะล้อยางเข้ามาอีก

“จุรินทร์” เปิดอู่ฆ่าเชื้อในรถฟรี

ช่วงเช้าที่พรรคประชาธิปัตย์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ เลขาธิการพรรค ร่วมเปิดโครงการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโควิด-19 ในรถยนต์ นายจุรินทร์กล่าวว่า ทางพรรคและมูลนิธิ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช ร่วมกับนายรังสรรค์ พรมประสิทธิ์ CEO บริษัท YMMY เปิดบริการพ่นฆ่าเชื้อฟรีกับ รถทุกคัน 1 เดือนเต็ม ตั้งแต่วันที่ 22 เม.ย.-22 พ.ค. ที่ลานจอดรถพรรคประชาธิปัตย์ สามารถจองคิวผ่านแอปพลิเคชัน QueQ ได้

บี้ มท.สั่งปลดล็อกรถขนสินค้า

นายจุรินทร์ยังกล่าวถึงการผ่อนปรนมาตรการเปิดให้บริการห้างสรรพสินค้า ว่า เป็นอำนาจของนายกฯในฐานะ ผอ.ศบค. มีหลักปฏิบัติไว้แล้วที่จะต้องดูแลสุขภาพประชาชนเป็นสำคัญ ส่วนปัญหาเรื่องการขนส่งสินค้าเกษตรข้ามจังหวัด ที่นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรค สะท้อนถึงรัฐบาลนั้น ได้นำเข้าหารือใน ครม. ประสานกระทรวงมหาดไทยให้ช่วยเหลือผ่อนปรนแก่รถบรรทุกพืชผลทางการเกษตร เครื่องอุปโภคบริโภค โดยเฉพาะจาก จ.พัทลุงไป จ.ตรังแล้ว แต่ต้องไม่กระทบต่อมาตรการป้องกันการระบาดของเชื้อโควิด-19

ตอก “สายัณห์” แค่ ส.ส.ส้มหล่น

นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวตอบโต้นายสายัณห์ ยุติธรรม ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ ที่กล่าว พาดพิงหลังวิจารณ์มาตรการเยียวยาเงิน 5,000 บาทของรัฐบาลว่า นายสายัณห์คงยังแฮงก์อยู่ถึงจับต้นชนปลายคลาดเคลื่อนในสิ่งที่ตนเสนอแนะต่อรัฐบาล การกล่าวหาว่าอยากดังนั้น บทบาทหลายปีตนเป็นที่ยอมรับทั้งประเทศ ต่างกับบางคนที่ส้มหล่นได้เป็น ส.ส.ครั้งแรกทำตัวอยากดังหรือไม่ ตีโพยตีพายเอาใจบางคนเพิ่มมูลค่าตัวเอง คนนครศรีธรรมราชเป็นคนจริงใจนักเลงแยกแยะได้ ชอบนักต่อสู้ที่เป็นปากเสียงให้ประชาชน เมื่อนายสายัณห์ไม่มีปัญญาพอจะต่อสู้เป็นปากเสียงให้ประชาชนได้ ควรจะหุบปาก มากกว่า การเรียกร้องให้ตนลาออกจาก ส.ส. ตนมาจากการเลือกตั้งของประชาชนโดยตรง ทำหน้าที่ไม่มีข้อบกพร่องใดๆ อยากให้ไปเรียกร้องนักการเมืองขี้เมาพูดจาเลอะเลือนลาออกจะดีกว่า

ร้อง สตง.สอบทุจริตทำค่าไฟแพง

ที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นคำร้องต่อผู้ว่าการการตรวจเงินแผ่นดิน ขอให้ตรวจสอบกรณีประชาชนจำนวนมากร้องเรียนเรื่องค่าไฟฟ้าแพงในรอบบิลเดือนที่ผ่านมา นายศรีสุวรรณกล่าวว่า ปัญหาดังกล่าวเชื่อว่าเป็นผลจากนโยบายที่ผิดพลาดในการบริหารจัดการระบบพลังงานไฟฟ้าทั้งระบบของรัฐบาล ปล่อยให้ผู้ประกอบการเอกชนมาผลิตไฟฟ้ามากเกินไป ทำให้มีไฟฟ้าสำรองมากเกินจำเป็น เป็นเหตุให้ผู้ใช้ไฟฟ้าทุกครัวเรือนต้องร่วมรับผิดชอบผ่านค่าเอฟที นอกจากนี้ยังมีกรณีข้อสงสัยเกี่ยวกับการใช้อำนาจเอื้อประโยชน์และการทุจริต อาทิ 1.การจัดซื้อครุภัณฑ์ที่มีราคาแพงกว่าท้องตลาดกว่า 10 เท่า 2.การให้พนักงานการไฟฟ้าใช้ไฟฟ้า โดยกำหนดเพดานไว้แตกต่างกัน ตามตำแหน่งเล็ก กลาง ใหญ่ 3.การจ่ายโบนัสรายปีให้พนักงานในอัตราสูงกว่าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจอื่น 4.การใช้เล่ห์เหลี่ยมออกปฏิบัติหน้าที่ในช่วงคาบเกี่ยวเวลาปฏิบัติงาน เพื่อหวังเงินโอทีใช่หรือไม่ สิ่งเหล่านี้กลายเป็นต้นทุนก้อนโต ที่สุดท้ายถูกนำไปรวมเป็นค่าต้นทุนการผลิตและบริการของการไฟฟ้า จึงขอให้ตรวจสอบเพื่อเอาผิดผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป