"เศรษฐพงค์" ย้ำ "ภูมิใจไทย" ทำงานได้กับทุกฝ่าย เพื่อฝ่าวิกฤต "โควิด-19" ด้าน "เพชรดาว" เผย 13 ส.ส.ชายแดนใต้ ร่วมมือช่วยประชาชรสู้เชื้อร้าย ชี้เป็นมิติใหม่รวมใจเป็นหนึ่งเดียว
เมื่อวันที่ 12 เม.ย.63 พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อและโฆษกพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงการทำงานของ ส.ส.ของพรรคภูมิใจไทยว่า ขณะนี้ ส.ส.ของพรรคทุกคนไม่ว่าจะแบบเขตหรือบัญชีรายชื่อ ต่างทำงานกันอย่างหนัก เพื่อช่วยเหลือประชาชนในวิกฤตโควิด-19 ซึ่งเราดำเนินงานภายใต้มาตรการของรัฐบาล รวมทั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ก็ได้กำชับให้ ส.ส.ทุกคนในพรรคเร่งช่วยเหลือประชาชนอย่างสุดความสามารถ โดยทางพรรคภูมิใจไทยเน้นที่การทำงาน โดยพร้อมร่วมมือทุกฝ่ายไม่แบ่งแยก เพราะวันนี้การจะทำให้ประเทศไทยผ่านพ้นวิกฤตไปได้นั้น ทุกคนต้องร่วมแรงร่วมใจกัน หากเราทำงานกันแบบแบ่งพรรคแบ่งพวกแบ่งฝ่าย ทุกอย่างจะสำเร็จไม่ได้ ซึ่งแนวทางเราชัดเจน คือ การเน้นลงมือทำ ไม่เน้นการตอบโต้ทางการเมือง จึงเห็นได้ว่าสมาชิก และ ส.ส.ของพรรคทุกคนมีสมาธิต่อการทำงานในพื้นที่อย่างมาก
...
ด้าน น.ส.เพชรดาว โต๊ะมีนา ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงการทำงานชาวยเหลือประชาชน เกี่ยวกับสถานการณ์โควิด-19 ระบาดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า ในช่วงแรกของการระบาดนั้น ตนทำงานในบทบาทของแพทย์ โดยร่วมมือสาธารณสุขจังหวัดปัตตานี ประชุมร่วมกับแต่ละระดับ ทั้ง โรงพยาบาลหลัก โรงพยาบาลสนาม โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ร่วมกันจำแนกกลุ่มเสี่ยงตามมาตรฐานที่ตั้งไว้ของสาธารณสุข ซึ่งเราได้เห็นความร่วมมือกันของทุกชุมชน นอกจากนี้ยังได้พูดคุยและรับฟังปัญหาต่างๆ โดยเราได้นำข้อเสนอมาเพื่อส่งต่อไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยแก้ไข หลังจากนั้นตนได้ลงพื้นที่เอง ประสานหาหน้ากากอนามัยแบบผ้า และได้ประสานกับทาง กศน.ผ่านทาง นางกนกวรรณ วิลาวัย์ รมช.ศึกษาธิการ ช่วยหาครูเพื่อฝึกสอน อสม.และชาวบ้านตัดเย็บหน้ากากผ้า ซึ่งได้ผลที่ดี อสม.และชาวบ้านเรียนรู้ได้เร็ว และลงมือทำได้ตามมาตรฐาน และเราได้หาผ้ามาบริจาคเพื่อให้พวกเขาได้ตัดเย็บด้วย
น.ส.เพชรดาว กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ในส่วนของการทำงานของ ส.ส.ในพื้นที่ เราได้รวมกลุ่มและจัดตั้งศูนย์ประสานงาน ส.ส.ชายแดนใต้ โดยมีวัตถุประสงค์ คือ 1.รวมรวมข้อมูล ประสานข้อร้องเรียนไปยังภาครัฐ 2.ออกแบบการสื่อสารในระดับพื้นที่ 3.ผลักดันงบประมาณให้กระจายสู่พื้นที่ และ 4.เรื่องเศรษฐกิจในพื้นที่และวิถีชีวิตของชาวมุสลิม โดยการทำงานของศูนย์นี้ เป็นการร่วมมือกันระหว่าง ส.ส.ทั้ง 13 คน จากทุกพรรคในพื้นที่ ซึ่งเราได้มีการปรึกษาหารือถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ตลอด และประสานไปยังหน่วยงานรัฐ ผู้ว่าราชการแต่ละจังหวัด รวมทั้งทำความเข้าใจต่อประชาชนในการทำกิจกรรมทางศาสนาต่างๆ ซึ่งเราไม่ได้ช่วยแค่ชาวมุสลิมเท่านั้น เราช่วยทุกศาสนา ไม่ได้ทิ้งคนศาสนาอื่น ทั้งนี้ในสัปดาห์หน้า เราจะเข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัดและประธานกรรมการอิสลามในแต่ละจังหวัด เพื่อพูดคุยถึงภาพรวมและปัญหาต่างๆด้วย
"การทำงานของกลุ่มเราถือเป็นมิติใหม่ในการทำงาน เราถอดหมวกทางการเมืองทิ้ง ไม่มีแบ่งฝักแบ่งฝ่าย ไม่ว่าจะรัฐบาล ฝ่ายค้าน หรือพรรคใดก็ตาม เรามาร่วมมือกันโดยมีเป้าหมายเดียว คือ ช่วยเหลือประชาชนให้ฝ่าวิกฤตโควิด-19 ไปให้ได้" น.ส.เพชาดาว กล่าว