มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 31 มีนาคม น่าจะทำให้บรรดาลูกจ้างรายวัน และกลุ่มผู้ประกอบอาชีพอิสระ ที่อยู่นอกระบบประกันสังคมได้เฮลั่นทั่วประเทศ เพราะครม.ขยายกลุ่มเป้าหมายที่จะได้รับการเยียวยา จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 จาก 3 ล้านคน เป็น 9 ล้านคน หลังจากที่ประชาชนแย่งกันลงทะเบียนทางเว็บไซต์ กว่า 20 ล้านคนจนเว็บล่ม
เชื่อว่าตัวเลขลูกจ้างรายวันที่ต้องตกงาน และได้รับการเยียวยาจากรัฐบาลเดือนละ 5 พันบาท เป็นเวลา 3 เดือน จำนวน 3 ล้านคน น่าจะหมายถึงแค่แรงงานต่างจังหวัดใน กทม.ที่ต้องตกงานเพราะรัฐบาลสั่งปิดกิจการต่างๆ แต่เมื่อเพิ่มคนที่ประสบปัญหาเดียวกันทั่วประเทศอีก 6 ล้านคน งบประมาณก็ต้องเพิ่มจาก 4.5 หมื่นล้าน เป็น 1.35 แสนล้าน
มีปัญหาว่ารัฐบาลจะเอาเงินมาจากที่ไหน เพราะมาตรการเยียวยาดูแลเศรษฐกิจระยะ 3 ที่กำลังดำเนินการ จะไม่ช่วยเหลือแค่ลูกจ้างที่ตกงาน แต่จะต้องดูแลผลกระทบทั้งหมด รัฐบาลจึงพูดถึงการที่อาจต้องออก พ.ร.ก.เพื่อกู้เงินกว่า 2 แสนล้านบาท ขณะที่นักการเมืองฝ่ายค้านหลายคนเสนอให้ตัดงบรายจ่าย 2563 มารวมกันเป็นงบกลาง 3.2 แสนล้าน
ไม่มีฝ่ายค้านคนไหนที่ยืนยันคัดค้านการกู้เงินของรัฐบาลอย่างจริงจังอย่างในอดีต แต่บางคนเสนอทางเลือกอื่นๆ ด้วย เช่น คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แห่ง พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า หลังประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน นายกรัฐมนตรีมีทั้งอำนาจและเงิน ต้องเร่งใช้งบกลางที่อยู่ในมือเป็นแสนล้านบาท เพื่อระงับการแพร่ระบาดและซื้ออุปกรณ์การแพทย์
สอดคล้องกับนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่เสนอให้รัฐบาลใช้งบกลางที่มีอยู่ เพื่อจัดซื้ออุปกรณ์การแพทย์ที่ขาดแคลน ไม่ควรปล่อยให้แพทย์และโรงพยาบาลต้องไปคอยขอบริจาค แต่ ส.ส. ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล บอกว่างบกลาง 5.2 แสนล้านบาท มีหน่วยงานจองหมดแล้ว งบกลางจึงไม่มีเหลือ
...
อาจจะยังมีเหลืออยู่บ้าง คืองบที่เรียกกันว่า “เงินสำรองฉุกเฉินจำเป็น” 9.6 หมื่นล้านบาท แต่ ส.ส.ศิริกัญญา บอกว่า งบนี้ใช้ไปแล้ว 9.4 หมื่นล้านบาท ขณะที่นายเดชาภิวัฒน์ ณ สงขลา ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ ให้สัมภาษณ์ “ไทยรัฐ” ว่า มีงบกลาง 9.6 หมื่นล้านบาท และมีรายจ่ายที่ผูกพันไว้ทุกปี แต่ไม่บอกว่าเหลือ
อาจก่อให้เกิดความงุนงงสงสัย ในหมู่ประชาชน คำว่า “งบกลาง” และ “เงินสำรองฉุกเฉินจำเป็น” คืออะไรกันแน่ และมีอยู่ในงบรายจ่าย 2563 เป็นจำนวนเท่าใด รัฐบาลใช้จ่ายไปหมดหรือเก็บหมดจริงหรือ? ทั้งๆที่งบประมาณเพิ่งจะผ่านและเบิกจ่ายได้ไม่ถึงสองเดือน รัฐบาลจะต้องออกกฎหมายกู้เงินกว่า 2 แสนล้านหรือไม่.